Forexthai.in.th ย่อให้

  • ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD: ใช้รูปแบบราคา ABCD เป็นหลัก โดยมีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติม ได้แก่ 100LWMA และ CCI
  • รูปแบบ ABCD: เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยในตลาด Forex โดยแบ่งเป็น 4 จุดหลัก (A, B, C, D) ที่มีความสัมพันธ์กันตามหลัก Fibonacci Retracement
  • เครื่องมือที่ใช้: มี 100LWMA ใช้ระบุแนวโน้มและแนวรับแนวต้าน CCI ใช้วัดความแรงของแนวโน้ม และระบุภาวะ Overbought หรือ Oversold
  • วิธีการเทรด: หาจุดเข้าเมื่อรูปแบบ ABCD ครบถ้วน และสัญญาณจาก 100LWMA และ CCI สอดคล้องกัน
  • ข้อดีและข้อจำกัดของระบบ: ข้อดีคือเข้าใจง่ายทำตามได้ไม่ยาก ใช้ได้ผลจริง แต่มีข้อจำกัดคือเหมาะกับตลาดที่มีแนวโน้มที่ชัดเจน อาจให้สัญญาณหลอกในตลาดที่ไม่มีทิศทางที่แน่นอน

ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD ใช้เทรด forex ด้วยรูปแบบกราฟราคา ABCD

ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD เป็นระบบที่ใช้ในการเทรด Forex ด้วยรูปแบบราคา ABCD เป็นหลัก โดยมีตัวช่วยที่เป็นเครื่องมือ Indicator เพียงไม่กี่ตัว เป็นระบบที่ทำตามได้ง่ายและได้ผลการเทรดที่ดี จึงขอนำพาไปทำความรู้จักเพื่อพิจารณาว่าจะเหมาะสมกับสไตล์การเทรดที่ท่านชื่นชอบหรือไม่ ไปดูกัน


ข้อมูลเบื้องต้น

รูปแบบ ABCD เป็นรูปแบบพื้นฐานของราคาบนแผนภูมิทั้งหมดที่เราเคยเห็นในกราฟราคา เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอจนน่าประหลาดใจ จะขอยกตัวอย่างสาเหตุของการเกิดขึ้นเพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

รูปแบบราคา ABCD
รูปแบบราคา ABCD เกิดขึ้นได้บนกราฟราคาบ่อยครั้ง
  • ลำดับที่ 1. เทรดเดอร์ชื่อ “มานี” ตัดสินใจซื้อที่ราคาตำแหน่ง A โดยตั้งเป้าไว้ที่ 10 pips จากนั้นราคาก็วิ่งขึ้นไปตามที่หวัง ไปที่จุด B
  • ลำดับที่ 2. เมื่อราคามาถึงจุด B ตามเป้าแล้ว “มานี” ก็ทำการขายเพื่อทำกำไร และในขณะเดียวกันนั่นเอง การซื้อและขายเพื่อทำกำไร จากตำแหน่ง A ไปยัง B นอกจากมานีแล้ว “มานะ” “วีระ” และ “สมคิด” ก็ทำการซื้อขายเช่นเดียวกัน (มีคนทำเหมือน ๆ กัน หลายคน)
  • ลำดับที่ 3. ตอนนี้ แรงกดดันจากการขายที่เกิดขึ้น ที่ตำแหน่ง B นั้น ส่งผลให้ราคาตกลงมาที่จุด C ซึ่งเป็นการย้อนกลับ โดยทั่วไปจะย้อนกลับได้ประมาณครึ่งทางหรือ 50% ของการวิ่งจาก A ไปยัง B
  • ลำดับที่ 4. ตอนนี้ “มานี” และคนอื่น ๆ หลังจากได้กำไรแล้วจากการวิ่งขึ้นครั้งแรก และเมื่อราคาลงไปถึงจุด C มานีและคนอื่น ๆ ก็ตัดสินใจซื้ออีกครั้ง จนผลักดันราคาให้พุ่งกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็วเหนือจุดสูงสุดเดิมที่จุด B ขึ้นไปจนทำจุดสูงสุดใหม่ที่จุด D
  • ลำดับที่ 5. ซึ่งที่จุด D นี้เอง “มานี” และคนอื่น ๆ ก็รีบขายอีกครั้งเพื่อทำกำไรเพิ่ม และวงจรทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างนี้ ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง วนเวียนเหมือนเดิมอย่างต่อเนื่อง

จากตัวอย่างที่แสดงให้เห็นนี่เอง เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตลาดถึงมีการเคลื่อนไหวแบบ ABCD อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในตลาด Forex

เครื่องมือที่ใช้

ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD มีเครื่องมือที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ ดังนี้

1.รูปแบบ ABCD

รูปแบบกราฟราคา ABCD เป็นหนึ่งในรูปแบบที่เทรดเดอร์ในตลาด Forex นิยมใช้เพื่อวิเคราะห์จุดเข้าและออกจากการเทรด นี่คือคำอธิบายแบบง่าย ๆ เพื่อทำความเข้าใจ

โครงสร้างพื้นฐานของ ABCD

รูปแบบ ABCD ประกอบด้วย 4 จุด คือ A, B, C, และ D ที่เรียงกันตามลำดับ โดยมี 2 ช่วงราคา คือ

  • จาก A ไปยัง B: ช่วงแรกที่ราคาเคลื่อนที่
  • จาก C ไปยัง D: ช่วงที่สองที่ราคาเคลื่อนที่ต่อเนื่อง
  • จุด C: จะเป็นจุดพักตัวที่อยู่ระหว่าง A และ B

ความสัมพันธ์ของแต่ละจุด

  • จุด C ต้องอยู่ระหว่างจุด A และ B
  • ความยาวของช่วง AB และ CD มักจะใกล้เคียงกัน (หรือมีอัตราส่วน Fibonacci ที่สัมพันธ์กัน เช่น 1:1)
  • ระดับการย้อนกลับ (Retracement) ของจุด C จากช่วง AB มักจะเป็น 61.8%, 50%, หรือ 38.2% (อ้างอิงจาก Fibonacci Retracement)
รูปแบบ Bullish และ Bearish ABCD
รูปแบบ Bullish ABCD และ รูปแบบ Bearish ABCD บนกราฟราคา

รูปแบบ Bullish ABCD

  • ราคาจาก A ขึ้นไปยัง B แล้วลดลง
  • ราคาเริ่มกลับตัวที่จุด C ใช้จุดนี้สำหรับการเข้าซื้อ (Buy)
  • ราคากลับขึ้นไปจนถึงจุด D

รูปแบบ Bearish ABCD

  • ราคาจาก A ลงไปยัง B แล้ววิ่งย้อนขึ้นมา
  • ราคาเริ่มกลับตัวที่จุด C ใช้จุดนี้สำหรับการขาย (Sell)
  • ราคากลับลงไปจนถึงจุด D

2.เครื่องมือ 100LWMA

100LWMA (100-Period Linear Weighted Moving Average) เป็นหนึ่งในประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่าข้อมูลราคาในอดีต มีความหมายดังนี้

  • “100” หมายถึงระยะเวลาที่ใช้คำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เช่น ราคาปิดของ 100 แท่งเทียนล่าสุด
  • “Linear Weighted” หมายถึงเส้นค่าเฉลี่ยที่ให้น้ำหนักมากขึ้นกับราคาล่าสุด โดยน้ำหนักลดหลั่นตามลำดับจากข้อมูลเก่าไปใหม่
เครื่องมือ 100LWMA
ภาพตัวอย่างการใช้ 100LWMA ระบุแนวโน้ม Downtrend และ Uptrend

การใช้งาน 100LWMA

เครื่องมือนี้ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและจังหวะการเข้าและออกจากการเทรด โดยมีวิธีใช้งานดังนี้

ระบุแนวโน้มหลัก

  • แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): หากราคาเคลื่อนที่เหนือเส้น 100LWMA และเส้นมีทิศทางลาดขึ้น แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น
  • แนวโน้มขาลง (Downtrend): หากราคาเคลื่อนที่ต่ำกว่าเส้น 100LWMA และเส้นมีทิศทางลาดลง แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาลง

ใช้เป็นแนวรับและแนวต้าน

  • เส้น 100LWMA มักทำหน้าที่เป็นแนวรับ (Support) ในแนวโน้มขาขึ้น และเป็นแนวต้าน (Resistance) ในแนวโน้มขาลง
  • เมื่อราคาทะลุผ่านเส้น 100LWMA อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

สัญญาณ เข้า/ออก การเทรด

  • สัญญาณซื้อ (Buy Signal): เมื่อราคาทะลุเส้น 100LWMA ขึ้นไป และเส้นเริ่มมีทิศทางชันขึ้น
  • สัญญาณขาย (Sell Signal): เมื่อราคาทะลุเส้น 100LWMA ลงมา และเส้นเริ่มมีทิศทางลาดลง

3.เครื่องมือ CCI

CCI (Commodity Channel Index) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้เพื่อระบุแนวโน้มตลาด จุดที่มีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป รวมถึงจุดกลับตัวของราคา มีความหมายดังนี้

  • CCI เป็น Oscillator ที่คำนวณเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างราคาปัจจุบันกับค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ค่า CCI ที่สูงแสดงถึงราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (แรงซื้อสูง)
  • ค่า CCI ที่ต่ำแสดงถึงราคาที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (แรงขายสูง)
การใช้ CCI
ภาพตัวอย่างการใช้ CCI ระบุภาวะตลาด Overbought และ Oversold

วิธีการใช้งาน CCI

ระบุภาวะ Overbought และ Oversold

  • ค่า CCI มากกว่า +100: แสดงว่าราคาอาจอยู่ในภาวะ Overbought อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มจะเริ่มอ่อนตัวหรือกลับตัวลง
  • ค่า CCI น้อยกว่า -100: แสดงว่าราคาอาจอยู่ในภาวะ Oversold อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเริ่มฟื้นตัวหรือกลับตัวขึ้น

หาจุดกลับตัวของราคา

  • เมื่อ CCI ข้ามระดับ +100 ลงมา: อาจเป็นสัญญาณขาย (Sell Signal)
  • เมื่อ CCI ข้ามระดับ -100 ขึ้นไป: อาจเป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal)

ใช้จับแนวโน้มตลาด

  • ค่า CCI มากกว่า 0: บ่งบอกว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
  • ค่า CCI น้อยกว่า 0: บ่งบอกว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง

การดู Divergence

  • Bullish Divergence:
    • ราคาเคลื่อนที่ต่ำลง (Lower Low) แต่ CCI สูงขึ้น (Higher Low)
    • บ่งบอกว่าแรงขายเริ่มลดลง อาจมีโอกาสกลับตัวขึ้น
  • Bearish Divergence:
    • ราคาเคลื่อนที่สูงขึ้น (Higher High) แต่ CCI ต่ำลง (Lower High)
    • บ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มลดลง อาจมีโอกาสกลับตัวลง

เงื่อนไขการเข้าเทรด

การใช้รูปแบบราคาร่วมกับเครื่องมือ Indicator เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณการเทรด โดยเครื่องมือแต่ละตัวมีจุดเด่นที่ช่วยสนับสนุนกันและกัน ดังนี้

  • รูปแบบราคา ABCD: ใช้ระบุโครงสร้างตลาดและจุดกลับตัว
  • 100LWMA: ใช้ยืนยันแนวโน้มและจุดเข้าเทรด
  • CCI: ใช้ตรวจสอบภาวะ Overbought/Oversold และหา Divergence
ตามเงื่อนไขการ  BUY ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD
การเปิดคำสั่ง BUY ตามเงื่อนไขการเทรดของระบบ Trading is as simple as ABCD

เงื่อนไขในการเปิดคำสั่ง Buy

  • การระบุรูปแบบ ABCD Bullish: คือช่วง AB เป็นขาลง และ CD เป็นขาขึ้น จุด D เป็นระดับที่ราคามีโอกาสกลับตัวขึ้น (ใช้ Fibonacci Extension เช่น 1.272 หรือ 1.618 เพื่อตรวจสอบ)
  • ตำแหน่งราคาเทียบกับ 100LWMA: ราคาต้องอยู่ เหนือเส้น 100LWMA หรือเพิ่งตัดขึ้นเหนือเส้น 100LWMA
  • เส้น 100LWMA ควรมีทิศทางชันขึ้น (บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่เริ่มแข็งแรง)
  • สัญญาณจาก CCI: ค่า CCI ต่ำกว่า -100 (แสดงถึง Oversold) และเริ่มปรับตัวขึ้น หากพบ Bullish Divergence (ราคาทำ Lower Low แต่ CCI ทำ Higher Low) จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • การวางคำสั่ง Entry (จุดเข้า): ที่จุด D หรือใกล้เส้น 100LWMA เมื่อ CCI แสดงสัญญาณฟื้นตัว
  • Stop Loss: วางต่ำกว่าจุด D หรือแนวรับใกล้เคียง
  • Take Profit: ใช้เป้าหมายจาก Fibonacci Extension ของ AB (เช่น 1.272 หรือ 1.618) หรือแนวต้านสำคัญ
ตามเงื่อนไขการ sell ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD
การเปิดคำสั่ง Sell ตามเงื่อนไขการเทรดของระบบ Trading is as simple as ABCD

เงื่อนไขในการเปิดคำสั่ง Sell

  • ระบุรูปแบบ ABCD Bearish: ช่วง AB เป็นขาขึ้น และ CD เป็นขาลง จุด D เป็นระดับที่ราคามีโอกาสกลับตัวลง ใช้ Fibonacci Extension เพื่อตรวจสอบ
  • ตำแหน่งราคาเทียบกับ 100LWMA: ราคาต้องอยู่ ต่ำกว่าเส้น 100LWMA หรือเพิ่งตัดลงใต้เส้น 100LWMA
  • เส้น 100LWMA ควรมีทิศทางลาดลง (บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่เริ่มแข็งแรง)
  • สัญญาณจาก CCI: ค่า CCI สูงกว่า +100 (แสดงถึง Overbought) และเริ่มปรับตัวลง หากพบ Bearish Divergence (ราคาทำ Higher High แต่ CCI ทำ Lower High) จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • การวางคำสั่ง Entry (จุดเข้า): ที่จุด D หรือใกล้เส้น 100LWMA เมื่อ CCI แสดงสัญญาณกลับตัวลง
  • Stop Loss: วางสูงกว่าจุด D หรือแนวต้านใกล้เคียง
  • Take Profit: ใช้เป้าหมายจาก Fibonacci Extension ของ AB (เช่น 1.272 หรือ 1.618) หรือแนวรับสำคัญ

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • การยืนยันสัญญาณ: หากทั้ง 3 เครื่องมือแสดงสัญญาณที่สอดคล้องกัน จะเพิ่มความมั่นใจในการเทรด
  • การจัดการความเสี่ยง: ใช้ Risk-Reward Ratio ที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3) เพื่อบริหารการขาดทุนและกำไร
  • ฝึกฝนและปรับใช้: ทดลองใช้เงื่อนไขเหล่านี้ในบัญชีทดลองก่อนนำไปใช้ในบัญชีจริง การผสานเครื่องมือทั้งสามอย่างมีระบบช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดโอกาสเกิดสัญญาณหลอกในตลาดได้
ตลาดแบบ Sideway
ตลาดแบบ Sideway มักมองหาจังหวะในการเข้าเทรดได้ยาก

จุดอ่อนของระบบ

ระบบเทรดตัวนี้ใช้ได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market) หรือเมื่อราคาสร้างโครงสร้างการกลับตัวที่ชัดเจน แต่ก็มีจุดอ่อนที่ควรพิจารณา ดังนี้

  • ความซับซ้อนในการวิเคราะห์: ระบบนี้ต้องผสานการวิเคราะห์หลายเครื่องมือ หากเทรดเดอร์ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดความสับสนหรือแปลความหมายของสัญญาณผิดพลาดได้
  • การเกิดสัญญาณหลอกในตลาด Sideway: ทั้งรูปแบบราคา ABCD, 100LWMA และ CCI มีแนวโน้มให้สัญญาณหลอกเมื่อราคากำลังเคลื่อนที่ในช่วง Sideway หรือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
  • การจัดการอารมณ์: การใข้เครื่องมือหลายตัวอาจทำให้เกิดความลังเลในการตัดสินใจ หากสัญญาณจากเครื่องมือไม่สอดคล้องกัน หรือไม่เป็นตามที่คาดไว้ อาจทำให้ไม่มั่นใจในการปฏิบัติตามแผน

สรุป

ระบบเทรด Trading is as simple as ABCD นี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้รูปแบบกราฟราคาที่ดูง่าย ๆ ในการตัดสินใจก่อนเข้าเทรด เพราะระบบเทรดตัวนี้ใช้เพียงแค่รูปแบบราคา ABCD เท่านั้น ในการวิเคราะห์ตลาด Forex เพื่อเทรดทำกำไร

มีการใช้เครื่องมือเพื่อเพิ่มความชัดเจนก่อนตัดสินใจอีกสองตัวคือ 100LWMA และ CCI ซึ่งก็เป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ก็ใช้เป็นกันอยู่แล้ว จึงไม่ยากเลยที่จะเรียนรู้และนำระบบเทรดตัวนี้ไปใช้

จากการนำไปใช้เทรดในตลาดฟอเร็กซ์บนคู่เงินหลาย ๆ คู่ ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจทีเดียว สำหรับเทรดเดอร์ท่านใดที่สนใจ สามารถเรียนรู้และนำไปทดลองใช้เทรดกับบัญชีเดโมก่อนก็ได้นะครับ

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments