Forexthai.in.th ย่อให้
- แม้ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง แต่การเทรดให้ได้กำไรต้องเข้าให้ถูกทั้งที่และเวลา เพราะแต่ละช่วงมีความสำคัญไม่เท่ากัน
- ตลาดแต่ละแห่งเปิด-ปิดต่อเนื่องกัน โดยช่วงที่ตลาดนั้นๆ เปิด จะมีวอลุ่มและความผันผวนของคู่เงินที่เกี่ยวข้องสูงกว่าปกติ
- สำคัญที่สุดคือตลาดอเมริกา (19.00-03.00 น.) และยุโรป (14.00-23.00 น.) โดยช่วงที่ทั้งสองตลาดทับซ้อนกันมักมีความผันผวนสูง
- เทรดนอกเวลาตลาดก็ไม่ผิด แต่ต้องระวังเมื่อตลาดหลักเปิด เพราะราคาอาจเปลี่ยนทิศทางฉับพลันตามมุมมองของนักลงทุนในตลาดนั้น
- ยิ่งเทรดไทม์เฟรมเล็ก ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับช่วงเวลาตลาด รวมถึงต้องระวังช่วงเวลาออมแสงที่อาจทำให้ตลาดเปิด-ปิดเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง
การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่การเข้าให้ถูกที่ แต่ต้องถูกเวลาด้วย แม้ตลาด Forex จะเปิดทำการ 24 ชั่วโมง แต่แต่ละช่วงเวลามีความสำคัญแตกต่างกัน เทรดเดอร์ที่เข้าใจเรื่องนี้จะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า
เวลาตลาด Forex สำคัญอย่างไร
ตลาด Forex ที่เราเห็นเปิด 24 ชั่วโมงนั้น ความจริงแล้วเกิดจากการที่ตลาดในแต่ละประเทศเปิดต่อเนื่องกัน โดยตลาดแห่งหนึ่งปิดก็จะมีอีกแห่งเปิดทำการเสมอ ทำให้การซื้อขายดำเนินไปได้ตลอด เทรดเดอร์จึงสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง
แต่สิ่งที่แตกต่างในแต่ละตลาดนั่นก็คือ เทรดเดอร์หรือนักลงทุน จะให้ความสำคัญแต่ละตลาดต่างกัน เพราะตลาดในประเทศนั้น ๆ จะเปิดตามเวลาทำการ นั่นหมายความว่าเป็นเวลาของนักลงทุนในแต่ละประเทศ เช่น ตลาดอเมริกาเปิดช่วงเวลา 19.00 น. และปิดทำการเมื่อ 03.00 น. ตามเวลาบ้านเรา
แต่นั่นคือช่วงเวลาที่ นักลงทุน เทรดเดอร์ นักธุรกิจ สถาบัน จะเข้ามากระทำการใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและค่าเงิน เช่น การกระกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ การแถลงนโยบายต่าง ๆ ก็จะอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน
เข้าถูกที่ยังไม่พอ ต้องถูกเวลาด้วย
ทำไมต้องเช็คเวลาตลาด Forex ก่อนเทรด

เมื่อแต่ละประเทศมีเวลาทำการไม่ตรงกัน ปริมาณการซื้อขายในประเทศนั้น ๆ ก็จะสูงกว่าปกติ เช่น
- ตลาดอเมริกาเปิดทำการ วอลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน USD ก็จะมีมากกว่าปกติ
- ตลาดโตเกียวเปิด วอลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน JPY ก็จะมีมากกว่าปกติ
จึงเป็นสาเหตุที่เทรดเดอร์ จะต้องมีการวางแผนการเทรด ให้เหมาะสมกับช่วงเวลาตลาด แม้เทรดคู่เงิน USD เสมือนเป็นสกุลเงินสากล แต่ช่วงเวลาที่กราฟจะเคลื่อนตัวได้มากที่สุดนั่นก็คือตลาดอเมริกา
บ่อยครั้งที่ถือออเดอร์ ที่จับคู่กับ USD มาตั้งแต่เช้าในเวลาประเทศไทย เก็บกำไรมาตลอดทั้งวัน แต่เมื่อตลาดอเมริกาเปิด ราคาอาจจะมีการกลับตัวในช่วงเวลาดังกล่าว สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่อยู่ในตลาดนั้น ๆ ว่าเห็นต่างจากตลาดอื่น ๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือมีอินธิพลกับสกุลเงินนั้น ๆ มากกว่านั่นเอง
เทรดในหรือนอกช่วงเวลาตลาดเปิด ไม่ถูกหรือผิด ถ้าทำกำไรถือว่าใช้ได้
เวลาแต่ละตลาดมีอะไรบ้าง

- ตลาดอเมริกา (USD) เวลาเปิดทำการ 19.00 น. และปิดทำการเมื่อ 03.00 น.
- ตลาดลอนดอน (GBP) เวลาเปิดทำการ 15.00 น. และปิดทำการเมื่อ 23.00 น.
- ตลาดออสเตรเลีย (AUD) เวลาเปิดทำการ 05.00 น. และปิดทำการเมื่อ 13.00 น.
- ตลาดโตเกียว ญี่ปุ่น (JPY) เวลาเปิดทำการ 06.00 น. และปิดทำการเมื่อ 12.00 น.
- ตลาดฝรั่งเศส (CHF) เวลาเปิดทำการ 13.00 น. และปิดทำการเมื่อ 21.00 น.
- ตลาดยุโรป (EUR) เวลาเปิดทำการ 14.00 น. และปิดทำการเมื่อ 23.00 น.
- ตลาดแคนาดา (CAD) เวลาเปิดทำการ 19.00 น. และปิดทำการเมื่อ 03.00 น.
ตลาดทองคำเปิด-ปิดกี่โมง
ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เป็นทั้งสินทรัพย์ปลอดภัยและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การซื้อขายทองคำในตลาด Forex นั้นเป็นการเทรดคู่สกุลเงิน XAUUSD ซึ่งเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในวันธรรมดา ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่ละช่วงเวลามีลักษณะเฉพาะตัวที่เทรดเดอร์ควรทำความเข้าใจ
- ตลาดนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่ใหญ่ที่สุด เปิดทำการตั้งแต่ 19.00-03.00 น. ตามเวลาไทย เป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดและมักเกิดความเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
- ตลาดลอนดอนเปิดทำการตั้งแต่ 14.00-22.00 น. ตามเวลาไทย มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะเป็นที่มาของ London Gold Fixing ซึ่งเป็นการกำหนดราคาอ้างอิงทองคำที่สำคัญ
- ช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกัน (19.00-22.00 น.) มักเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงและมีโอกาสทำกำไรมาก
ส่วนตลาดโตเกียวที่เปิดทำการ 06.00-14.00 น. ตามเวลาไทย แม้จะมีความผันผวนน้อยกว่าสองตลาดแรก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการวิเคราะห์ทิศทางราคาประจำวัน เพราะเป็นตลาดแรกที่เปิดในแต่ละวัน
สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลาดจะปิดทำการตั้งแต่เย็นวันศุกร์จนถึงเช้าวันจันทร์ แม้จะมีตลาดทองคำบางแห่งในดูไบหรือฮ่องกงที่เปิดทำการ แต่สภาพคล่องมักจำกัด เทรดเดอร์ควรระมัดระวังการเปิดออเดอร์ใหม่ในช่วงเปิดตลาดสัปดาห์ใหม่ เพราะอาจเกิด Gap ของราคาได้
เวลาออมแสงที่ส่งผลกับตลาด Forex

Daylight Saving Time (DST) หรือ “เวลาออมแสง” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ช่วงเวลาฤดูร้อน โดยมีการปรับเวลาให้เข้ากับสภาพกลางวันและกลางคืนจริง ๆ ช่วงเวลาออมแสงจึงถูกปรับให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เพราฤดูร้อนดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็ว และจะถูกปรับให้เป็นปกติเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว
ในตลาด Forex จึงมีผลกระทบต่อการวางแผนการเทรด เพราะตลาดเปิดและปิดไวขึ้น หรือเวลาทำการของผู้คนในประเทศนั้น ๆ ไวขึ้นนั่นเอง
การลงทุน การตัดสินใจ หรือการดำเนินการใด ๆ ในตลาด ย่อมมีผลกระทบตามมา เอาง่าย ๆ คือ นักลงทุนรายใหญ่ก็จะตื่นเร็วขึ้น อาจจะส่งแรงกระเพื่อมให้กับตลาดได้เร็วขึ้นเช่นกัน เทรดเดอร์จึงควรมีแผนรองรับเวลาดังกล่าวนี้
ตัวอย่างการวางแผนก่อนเทรด

จะเทรดในช่วงตลาดเปิดหรือตลาดปิด ก็ไม่มีถูกไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับความถนัดหรือแผนการเทรด แต่ลองพิจารณาการวางแผนการเทรดกับเวลาในตลาด Forex ดังต่อไปนี้
- ชอบการเทรดแบบเรื่อย ๆ ไม่เร่งไม่รีบหรือไม่ชอบติดตามข่าว การเทรดนอกช่วงเวลาหรือช่วงเวลาที่ตลาดมีความเกี่ยวข้องกับคู่เงินนั้น ๆ นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในช่วงตลาดเปิด และเมื่อแผนการเทรดเป็นเช่นกัน ก็ควรหลีกเลี่ยงช่วงที่ตลาดเปิดไปเลย เพราะเมื่อตลาดเปิดมุมมองหรือการเคลื่อนที่ของราคาอาจจะไม่เหมือนเดิม
- ชอบตลาดที่มีวอลุ่ม เคลื่อนที่เร็ว ให้เลือกตลาดที่มีความทับซ้อนของทั้งสองช่วงเวลา เช่น ต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD ช่วงเวลาที่สะท้อนมุมมองของเทรดเดอร์ทั้ง 2 ตลาดคือ 19.00 น. – 23.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดอเมริกาและตลาดยุโรปทับซ้อนกัน
- จะเลือกเทรดตลาดฝั่งของตลาด ก็ไม่ผิดกติกา แต่จงอย่าลืมวางแผนด้วยว่า สกุลเงินอีกฝั่งตลาดจะเปิดเมื่อไหร่ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามมีวอลุ่มอีกตลาดเข้ามา กราฟอาจจะเปลี่ยนทิศทาง หรือไปต่ออย่างรวดเร็วก็ได้
บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์ถือกำไรมาทั้งวัน แต่อยู่ ๆ กราฟก็กลับตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ นั่นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความเกี่ยวข้องกับคู่เงินเปิดทำการนั่นเอง จึงมีวอลุ่มและทิศทางที่แตกต่างออกไป และที่สำคัญควรเช็คปฎิทินเศรษฐกิจด้วย เพื่อเช็คข่าวที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคู่เงินนั้น ๆ
แต่ละตลาด ส่งผลต่อกราฟอย่างมาก เพราะให้ความสำคัญต่างกัน
สรุป
เทรดเดอร์ที่เทรดในไทม์เฟรมใหญ่ด้วยเทคนิคตั้งแต่ ไทม์เฟรมเดย์ ขึ้นไป สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะจะเป็นการมองราคาปิดในแต่ละวันเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะเลือกเทรดในไทม์เฟรมที่เล็กกว่านั้น จึงอาจจะได้รับผลกระทบเต็ม ๆ
เพื่อการเก็บกำไรไม่ให้พลาด และความรอบคอบในการเทรด ควรวางแผนให้ดีว่าจะเทรดคู่ไหน ช่วงเวลาไหน แล้วถ้ามีออเดอร์แล้ว จะถือได้ถึงช่วงไหน และปิดทำกำไรอย่างไร
เมื่อมีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ก็หาจังหวะในการเข้าเทรดได้เลย ไม่ผิดพลาดเพราะความไม่รู้แน่นอน
ทีมงาน: forexthai.in.th