Forexthai.in.th ย่อให้

  • The Paradox System 2023: เป็นระบบเทรดที่ออกแบบมาสำหรับมือใหม่ เน้นหาโอกาสการเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูง
  • ระบบ Paradox System: ออกแบบมาเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ ปรับแต่งได้ตามความต้องการและระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
  • Indicator ที่ใช้: MA วัด Momentum, RSI วัดความเร็วและแรงของราคา, Bollinger Bands วัดความผันผวน
  • เงื่อนไขในการเข้าเทรด: ปิดออเดอร์เมื่อตัวชี้วัดหลายตัวสอดคล้องกัน ทั้ง Buy และ Sell
  • จุดอ่อน: พึ่งพาตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างมาก อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาด โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนสูง และเป็นกลยุทธ์ตายตัว อาจไม่เหมาะกับทุกสภาวะตลาด

The paradox System 2023 (for beginners)

Paradox System 2023 นี่คือกลยุทธ์การซื้อขายที่ออกแบบมาเพื่อให้นักเทรดมือใหม่ เป็นระบบเทรดที่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย โดยใช้การซื้อขายแบบเทรดตามเทรนด์ ตามแนวโน้มของราคาเป็นหลัก ระบบเทรดนี้มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้นและปานกลางในตลาด Forex โดยเฉพาะคู่ EUR/JPY กำลังได้รับความนิยมสูงสุดจากการใช้ระบบเทรดตัวนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและทำความเข้าใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไปดูรายละเอียดกันเลย

ข้อมูลเบื้องต้น

ระบบเทรด “The Paradox System 2023” น่าจะเป็นคู่มือสำหรับนักเทรดมือใหม่ได้ดีทีเดียว ระบบเทรดตัวนี้ใช้แนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิค ควบคู่กับตัวชี้วัดและกลยุทธ์การ เข้า – ออก ที่เรียบง่าย ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การค้นหาโอกาสในการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูง ในตลาด Forex องค์ประกอบหลักของระบบ Paradox มีดังนี้

  • ตัวชี้วัดทางเทคนิค: ระบบนี้ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัว เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), และ Bollinger Bands เพื่อประเมิน Momentum แรงกดดันซื้อ/ขาย และความผันผวนของตลาด
  • กลยุทธ์การเข้า: สัญญาณ Buy จะเกิดขึ้นเมื่อตัวชี้วัดหลายตัวสอดคล้องกัน บ่งชี้ถึงโอกาสที่มีแนวโน้มว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางที่ระบุ
  • กลยุทธ์การออก: มีตำแหน่งวางคำสั่ง SL ที่ชัดเจน เพื่อจำกัดความเสี่ยง กำไรจะถูก TP เมื่อราคาบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
ระบบเทรด The Paradox System
ส่วนประกอบของระบบเทรด The Paradox System มีการใช้ Indicator ร่วมกันหลายชนิด

ข้อดีของระบบ Paradox System 2023

ระบบเทรด Paradox System 2023 มีการใช้เครื่องมือบ่งชี้ที่เชื่อว่านักเทรดใช้กันได้ดีอยู่แล้ว จึงมีข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ใช้งานง่าย: ระบบ Paradox System นี้ ได้รับการออกแบบมาให้เรียบง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
  • มีประสิทธิภาพ: กลยุทธ์ที่ใช้ในระบบได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในตลาด Forex
  • ปรับแต่งได้: ระบบเทรดสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการและระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

เครื่องมือที่ใช้

ตัวชี้วัดหลักที่ใช้ในระบบเทรด Paradox System 2023 นั้น มีดังนี้

Moving Averages (MA):

เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ประเมิน Momentum และแนวโน้มของตลาด

  • ระบบ Paradox 2023 ใช้ Moving Averages หลากหลายประเภท เช่น MA 20 MA 50 และ MA 100
  • การรวมกันของ Moving Averages ที่แตกต่างกันสามารถช่วยระบุจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น การสนับสนุน และแนวต้าน

Relative Strength Index (RSI):

RSI เป็นตัวชี้วัดที่วัดความเร็วและแรงของการเคลื่อนไหวของราคา

  • RSI ช่วยระบุภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
  • ในระบบ Paradox 2023 RSI ถูกใช้เพื่อสร้างสัญญาณ Buy เมื่อมันเคลื่อนที่ออกจากโซนขายมากเกินไป และสร้างสัญญาณ Sell เมื่อมันเคลื่อนที่ออกจากโซนซื้อมากเกินไป

Bollinger Bands:

เป็นตัวชี้วัดที่สร้างแถบรอบ ๆ เส้น MA แถบเหล่านี้แสดงถึงความผันผวนของตลาด

  • ในระบบ Paradox 2023 Bollinger Bands ถูกใช้เพื่อระบุจุด เข้า-ออก ที่อาจเกิดขึ้น
  • ตัวอย่างเช่น สัญญาณซื้ออาจเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุ Bollinger Band ล่าง และสัญญาณขายอาจเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุ Bollinger Band บน

ตัวชี้วัดเพิ่มเติม:

  • นอกจากตัวชี้วัดหลักเหล่านี้แล้ว ระบบ Paradox 2023 ยังอาจรวมถึงตัวชี้วัดเพิ่มเติม เช่น Parabolic SAR, Fibonacci Retracement และ MACD

ตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณจากตัวชี้วัดหลัก หรือเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายเพิ่มเติม

การตั้งค่า Indicator ของระบบเทรด The Paradox System ปรับเปลี่ยนจากค่ามาตรฐานเดิมบางตัว

การปรับค่า Indicator

จากการที่ผู้สร้างระบบเทรด Paradox System 2023 เคยพยายามจำลองการตั้งค่าตัวบ่งชี้หลายรูปแบบในอดีต จนค้นพบการตั้งค่าที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ด้วยการตั้งค่า ดังนี้

  • เส้น MA: ให้ตั้งค่าเป็นแบบ EMA ที่ระยะเวลา 12 วัน โดยใช้ราคาเฉลี่ย ไม่ใช่ราคาปิด จะได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • แถบ Bollinger: มาตรฐาน 20 แถบ Bollinger พร้อมค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3
  • RSI: ตั้งตามค่ามาตรฐานเดิม
  • Parabolic: ไม่ใช่ Parabolic SAR แบบดั้งเดิม แต่เป็น PSAR ที่ใช้ LSMA (Least Squares Moving Average) โดยใช้ราคาปิด ความยาวเส้นถดถอย 10 เริ่มต้น 0.08 เพิ่ม 1 สูงสุด 0.12 (สามารถดูตัวบ่งชี้ที่เรียกว่า “PSAR ที่ใช้ LSMA” บนเว็บ TradingView.com เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้)

เส้น LSMA คืออะไร

เส้น LSMA คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบกำลังสองน้อยที่สุด หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถดถอยเชิงเส้น ช่วยทำนายว่าราคาสินทรัพย์จะไปทางไหน โดยจะดูจากข้อมูลตลาดในอดีต เช่น ราคาและปริมาณการซื้อขาย

เส้น LSMA เป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ประเภทหนึ่งที่คำนวณราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั่วไป LSMA ใช้หลักการที่เรียกว่ากำลังสองน้อยที่สุดในการทำนาย เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อแสดงแนวโน้มและการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในตลาด

เส้น LSMA (Least Squares Moving Average) ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

ประโยชน์ของเส้น LSMA

เส้น LSMA มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ราคา Forex โดยมีหลักในการใช้งาน ดังนี้

  • การระบุแนวโน้ม: เส้น LSMA ช่วยให้นักเทรดรู้ว่าแรงซื้อของตลาดกำลังเพิ่มขึ้น (แนวโน้มขาขึ้น) หรือลดลง (แนวโน้มขาลง)
  • การติดตามแนวโน้ม: ในช่วงขาขึ้น เส้น LSMA จะขยับขึ้น และในช่วงขาลง เส้น LSMA จะวิ่งลง
  • การเคลื่อนไหวต่อเนื่อง: แม้ว่าแนวโน้มจะสิ้นสุดลง แต่เส้น LSMA ก็ยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดิมอยู่พักหนึ่ง
  • สัญญาณการกลับตัว: เทรดเดอร์จะใช้เส้น LSMA เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
  • หากเส้น LSMA วิ่งขึ้นไปยืนเหนือราคาในแนวโน้มขาขึ้น มันบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ว่าราคากำลังจะเป็นขาลง
  • หากเส้น LSMA ลดลงต่ำกว่าราคาในแนวโน้มขาลง ก็บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ว่าตลาดกำลังจะเป็นขาขึ้น

เงื่อนไขการเทรด

เงื่อนไขในการเทรดของระบบ The Paradox System 2023 เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักเทรดมือใหม่เริ่มต้นใช้งานได้อย่างเรียบง่าย ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

คู่สกุลเงิน:

  • ระบบ Paradox 2023 สามารถใช้ได้ดีกับคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, AUD/USD และคู่ EUR/JPY ที่ได้ผลดีมาก ไม่แนะนำให้ใช้ระบบกับคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องต่ำหรือผันผวนสูง

กรอบเวลา:

  • ระบบ Paradox 2023 สามารถใช้ได้ดีกับกรอบเวลาต่าง ๆ เช่น H1, H4, และ Daily กรอบเวลาที่แนะนำคือ H4 เนื่องจากจะมีความสมดุลระหว่างความแม่นยำและสัญญาณ

ตัวชี้วัด:

  • ระบบ Paradox 2023 ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัว เช่น Moving Averages (MA), Relative Strength Index (RSI), Bollinger Bands และตัวชี้วัดเพิ่มเติมที่ใช้เพื่อเสริมกลยุทธ์ ควรรอการยืนยันที่ชัดเจนก่อน
สัญญาณ Buy
สัญญาณ Buy เมื่อตัวชี้วัดหลายตัวสอดคล้องกัน และออกเมื่อราคาข้ามเส้น Moving Average ขาลง

สัญญาณการเข้า:

สัญญาณ Buy จะเกิดขึ้นเมื่อตัวชี้วัดหลายตัวสอดคล้องกัน บ่งชี้ถึงโอกาสที่มีแนวโน้มว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางที่ระบุ ตัวอย่างสัญญาณซื้อ คือ

  • ราคาข้ามเส้น Moving Average ขาขึ้น
  • RSI อยู่เหนือ 70
  • ราคาทะลุ Bollinger Band บน

สัญญาณการออก:

ทุกครั้งที่ทำการเทรด จะต้องมีคำสั่งหยุดการสูญเสียโดยวางไว้เพื่อจำกัดความเสี่ยงตามที่เหมาะสม กำไรจะถูกนำออกเมื่อราคาถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ สัญญาณการออกขึ้นอยู่กับการบริหารเงินของเทรดเดอร์แต่ละราย ตัวอย่างสัญญาณการออก คือ

  • ราคาข้ามเส้น Moving Average ขาลง
  • RSI อยู่ต่ำกว่า 30
  • ราคาแตะ Bollinger Band ล่าง

การจัดการความเสี่ยง:

  • สิ่งสำคัญคือต้องใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดี เช่น การตั้งค่าคำสั่งหยุดการสูญเสีย (SL) และการจำกัดขนาดการซื้อขาย (Lot Size) ไม่ควรเสี่ยงเงินมากกว่าที่คุณสามารถจ่ายได้

ก่อนใช้ระบบ Paradox 2023 บนบัญชีจริง ควรทดสอบย้อนหลังบนบัญชีทดลอง การทดสอบย้อนหลังช่วยให้คุณประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้

ภาพตัวอย่างการใช้ Indicator ที่หลายชนิด ทำให้เกิดความสับสนได้ เพราะมีสัญญาณขัดแย้งกัน

จุดอ่อนของระบบเทรด

จุดอ่อนของระบบเทรด Paradox System 2023 ในการซื้อขายบนตลาด Forex นั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ ระบบ Paradox 2023 ก็มีจุดอ่อนบางประการที่ควรพิจารณาก่อนใช้งาน ดังนี้

ความเสี่ยง:

  • ระบบ Paradox 2023 ไม่ใช่ระบบปราศจากความเสี่ยง เช่นเดียวกับระบบเทรดอื่น ๆ ที่มีโอกาสสูญเสียเงินได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดี เช่น การตั้งค่าคำสั่งหยุดการสูญเสียและการจำกัดขนาดการซื้อขาย ไม่ควรเสี่ยงเงินมากกว่าที่คุณสามารถจ่ายได้

ความเรียบง่าย:

  • ความเรียบง่ายของระบบ อาจเป็นจุดอ่อนได้เช่นกัน เนื่องจากอาจไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญทั้งหมดที่ส่งผลต่อราคาตลาด กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในบางสถานการณ์

การพึ่งพาตัวชี้วัด:

  • ระบบ Paradox 2023 พึ่งพาตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างมาก ตัวชี้วัดเหล่านี้อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาด โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนสูง สิ่งสำคัญคือต้องใช้ตัวชี้วัดร่วมกับรูปแบบกราฟและปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ประกอบกันด้วย
ระบบ Paradox System อาจต้องมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

การปรับแต่ง:

  • ระบบ Paradox 2023 อาจต้องมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งนี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายาม โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดมือใหม่

กลยุทธ์ตายตัว:

  • ระบบ Paradox 2023 เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ตายตัว อาจไม่เหมาะกับสภาวะตลาดทุกรูปแบบ นักเทรดควรมีความยืดหยุ่นและปรับกลยุทธ์ของตนให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากจุดอ่อนของระบบ Paradox 2023 ควรทดสอบย้อนหลังบนข้อมูลในอดีตก่อนใช้งานจริง การทดสอบย้อนหลังช่วยให้คุณประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้

อ้างอิง

https://www.forexfactory.com/thread/1217686-the-paradox-system-2023-for-beginners

https://th.tradingview.com/v/Sl4CIxLs/

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments