Forexthai.in.th ย่อให้
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือ การคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต โดยใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต
- ประกอบด้วยการวาดเส้นแนวโน้ม, Chart Patterns, Candlestick Patterns และ Indicators วิเคราะห์สภาวะตลาด
- สภาพคล่องในแต่ละช่วงเวลา, คู่เงินแต่ละประเภท มีผลต่อการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- สำคัญที่สุดคือต้องไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเทรด และควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
กระบวนการในการวิเคราะห์กราฟเพื่อการเทรด forex นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental analysis) และ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สำหรับบทความนี้ขอเสนอการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นสำคัญครับ ว่าคืออะไร และมีหลักการวิเคราะห์ หรือประยุกต์ใช้อย่างไรบ้าง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คืออะไร
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นศาสตร์แห่งการคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต โดยอาศัยข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต ผสมผสานกับเครื่องมือที่เรียกว่า Indicator เพื่อช่วยในการตัดสินใจเทรด แม้จะไม่ได้แม่นยำ 100% แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคใน Forex แตกต่างจากตลาดอื่นๆ คือ ความเป็นตลาด 24 ชั่วโมงที่มีสภาพคล่องสูง และมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
ศาสตร์แห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการเทรดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Forex หุ้น ทองคำ น้ำมัน หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยสามารถปรับใช้ได้กับทุกกรอบเวลา ตั้งแต่การเทรดระยะสั้นไปจนถึงการลงทุนระยะยาว
เครื่องมือพื้นฐาน 4 ประเภทใน Technical Analysis
1. เครื่องมือวาด (Drawing Tools)
- ใช้ไฮไลท์จุดราคาสำคัญ, ระบุโซนราคาสำคัญ
- วาดแนวรับ-แนวต้าน (Support-Resistance)
- สร้างเส้นเทรนด์ไลน์ (Trend Lines)
2. รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)
- ช่วยระบุจุดเข้า-ออกที่มีโอกาสสูง
- แสดงรูปแบบราคาที่เกิดซ้ำ
- ใช้คาดการณ์ทิศทางในอนาคต
- เช่น Triangle, Channel, Flag Pattern
3. Candlestick Patterns
- แสดงการตอบสนองของราคา
- บอกจุดกลับตัวที่สำคัญ
- ใช้เป็นทริกเกอร์ในการเข้าเทรด
- สะท้อนจิตวิทยาตลาด ณ ขณะนั้น
4. อินดิเคเตอร์ (Indicators)
- ช่วยวิเคราะห์สภาวะตลาด
- ให้ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคา
- ใช้ประกอบการตัดสินใจเทรด
หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ต้องรู้
การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีรากฐานมาจาก Dow Theory ซึ่งเชื่อว่าราคามักเคลื่อนไหวเป็นเทรนด์ และประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิม นอกจากนี้ ราคายังเป็นตัวสะท้อนทุกปัจจัยในตลาด ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน ข่าวสาร หรือแม้แต่อารมณ์ของนักลงทุน
จากหลักการนี้ ทำให้เกิดเครื่องมือในการวิเคราะห์มากมาย เช่น การวาด Trend Line เพื่อดูทิศทาง การหาแนวรับ-แนวต้าน และการวิเคราะห์รูปแบบกราฟต่างๆ ล้วนแต่เป็นพื้นฐานสำคัญที่นักเทรดต้องเข้าใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งหมดครับ
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคนี้จะมีความแตกต่างจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหลัก ๆ ตรงที่ เราจะมานั่งวิเคราะห์ Graph Pattern โดยไม่อิงแรงข่าวต่าง ๆ หรือปัจจัยอื่นมาผสม… ข้อดีของการเทรดแบบนี้คือความป็นรูปแบบซึ่งมันสามารถนำมาต่อยอดทำระบบเทรดอัตโนมัติ หรือที่เราคุ้นตาในชื่อ “EA forex” นั่นเองครับ
* ปล. แท้จริงแล้วการเทรดตามเทคนิคคือสิ่งที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้นถ้านักเทรดสามารถนำข่าวเศรษฐกิจต่าง ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์กราฟด้วย เพราะมันจะเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดได้ทวีคูณเลยทีเดียว
องค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคใน Forex
การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเราเข้าใจองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด Forex ได้แก่ สภาพคล่องในแต่ละช่วงเวลา ลักษณะเฉพาะของคู่เงิน และผลกระทบจากข่าวสาร มาทำความเข้าใจแต่ละองค์ประกอบกันครับ
1. สภาพคล่องในแต่ละช่วงเวลา (Session Liquidity)
ตลาด Forex มีเอกลักษณ์พิเศษที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกช่วงเวลาจะเหมาะสมกับการเทรดเท่ากัน ช่วงที่น่าสนใจที่สุดคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเหลื่อมกัน (14:00-17:00 GMT) เพราะเป็นช่วงที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด ส่งผลให้สัญญาณทางเทคนิคที่เกิดขึ้นในช่วงนี้มีความน่าเชื่อถือสูง
ในทางกลับกัน ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง Session เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสภาพคล่องที่ลดลงอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้บ่อย
2. ลักษณะเฉพาะของคู่เงิน (Currency Pair Characteristics)
คู่เงินในตลาด Forex แต่ละประเภทมีบุคลิกและพฤติกรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น Major Pairs อย่าง EUR/USD, GBP/USD และ USD/JPY เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีสภาพคล่องสูงตลอดวันและมีการเคลื่อนไหวที่เป็นระบบ ทำให้การใช้ Indicator ทั่วไปมีประสิทธิภาพดี
ส่วนคู่เงินที่มีสภาพคล่องต่ำและอาจถูกแทรกแซงจากธนาคารกลางได้ง่าย การวิเคราะห์ทางเทคนิคในคู่เงินกลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Indicator ที่ต้องการข้อมูลต่อเนื่อง และควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานครับ
3. ผลกระทบจากข่าวสาร (News Impact)
ปัจจัยสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้ามคือผลกระทบจากข่าวสาร ตลาด Forex เป็นตลาดที่ไวต่อข่าวสารมาก ช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญ ราคามักเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและไม่เป็นระบบ ทำให้ Indicator อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาดได้
เทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคควรรอให้ตลาดพักตัวและกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนที่จะเริ่มใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคอีกครั้ง การเข้าใจและเคารพผลกระทบของข่าวสารจะช่วยให้เราใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex 
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex การประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค
1. เริ่มจากการเลือกอินดี้ที่ถูกกับแนวทางการเทรดของตนเอง
อินดี้หรือ Indicator คือตัวบ่งชี้แนวโน้มของโอกาสการเกิดขึ้นของราคาในอนาคตว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งโดยปกตินั้น จะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ประกอบด้วย
- Trend : กลุ่มที่บ่งบอกแนวโน้มเทรนด์ในอนาคต เช่น การใช้เส้น Trend Line เป็นต้น
- Volume : กลุ่มที่บ่งบอกเรื่องของความหนาแน่นของการซื้อขาย เช่น RSI เป็นต้น
- Price Action : กลุ่มนี้จะบอกราคา ณ ปัจจุบัน เช่น Candle Stick หรือ CPI V1.5 เป็นต้น
2. เลือกอินดี้ไม่เกิน 2-3 ตัว
เนื่องจากมีอินดี้ให้เราเลือกใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อถึงเวลาใช้จริงๆ เราไม่ควรใช้อินดี้ที่มากกว่า 3 ตัว เพราะเหตุว่าอาจเกิดสิ่งที่เรียกว่าสัญญาณขัดกัน และนั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะประเมินช่วงราคาที่ผิดพลาดและนำความเสียหายมาสู่การเทรดของคุณได้
3. หมั่นมองหาเทคนิคใหม่ ๆ เสมอ ๆ
หากคุณเป็นสมาชิกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเทรด forex ผมอยากให้คุณมองหาโอกาสและเทคนิคใหม่ๆอยู่เสมอที่เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้อินดี้ เพราะในปัจจุบันมีนักเทรด forex เป็นจำนวนมากที่มองหาเทคนิคและทำการเทรดในกลยุทธ์ใหม่ๆ ส่งผลให้เกิดการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากครับ
ข้อควรระวังในการใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น หัวใจสำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องไม่เอาอารมณ์ของคุณเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเทรดโดยเด็ดขาด เพราะหากทำอย่างนี้แล้ว จะทำให้การอ่านค่าเพื่อแปลผลอินดี้ออกมาใช้ในงานการเปิดสัญญาณ Buy หรือ Sell ก็จะมีปัญหาขึ้นมาได้ ดังนั้นโปรดอย่าทำเช่นนี้โดยเด็ดขาดครับ จงเลือกเทรดไปตามสัญญาณของอินดี้ โดยไม่ต้องเอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
สรุปการวิเคราะห์ทางเทคนิค
สรุปแล้วการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ในการเทรด forex ของคุณ โดยที่หัวใจสำคัญที่สุดคือ การเทรดโดยที่ไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง และเพื่อให้ความแม่นยำในการเทรด forex ของคุณเพิ่มมากขึ้น คุณอาจเอาความรู้ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้การตัดสินใจทุกครั้งของคุณมีความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ทีมงาน: forexthai.in.th
