Forexthai.in.th ย่อให้

  • ระบบเทรด Forex คือการรวบรวมองค์ประกอบทั้งหมด (Input, Process, Output, Check) มาทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเทรด Forex
  • Input คือขั้นตอนการวางแผนการเทรด ตั้งเป้าหมาย เลือกกลยุทธ์และเครื่องมือเทรดที่เหมาะสม อาจจะรวมถึงการกำหนดเงินทุนและการเลือกโบรกเกอร์ด้วย
  • ส่วน Process คือกระบวนการเทรดจริงโดยเทรดตามที่วางแผนไว้ พร้อมกับการตั้งค่าความเสี่ยง เช่น Stop Loss, Take Profit, Lot Size และ Leverage
  • Output คือการบันทึกและประเมินผลการเทรด เช่น ผลลัพธ์ทั้งกำไรและขาดทุนในรูปแบบ pips และเงิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงระบบ
  • Check เป็นการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของระบบเทรดผ่านตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น Win Rate, Risk/Reward, Drawdown, Sharpe Ratio

ระบบเทรด หรือ Trading system

ในวันนี้เราจะมาพูดถึงคำศัพท์หนึ่ง ที่ในวงการ Forex อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูมากนักเพราะเป็นกว้างๆ ที่เอาไว้เรียกกระบวนการเทรดของเทรดเดอร์ นั่นก็คือ “ระบบเทรด Forex หรือ Trading System” มันมีความเกี่ยวข้องกับการเทรด forex ยังไง? วันนี้เราจะไปหาคำตอบร่วมกันในบทความนี้ครับ


ระบบเทรด Forex (Trading System) คืออะไร?

  • ก่อนอื่นขอแยกคำออกเป็น 2 ส่วนคือคำว่า ระบบ กับคำว่า เทรด Forex ก่อนนะครับ เพื่ออธิบายนิยามของมัน
  • คำว่าระบบ หมายถึง องค์ประกอบต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน ส่วนคำว่าเทรด Forex ก็คือกระบวนการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ นั่นเอง
  • เมื่อเอาทั้ง 2 คำมารวมกัน ระบบเทรด Forex ก็จะหมายถึง การรวบรวมองค์ประกอบที่สำคัญเพื่อสร้างกระบวนการที่เราใช้ในการเทรด Forex ตั้งแต่ต้นจนบรรลุเป้าหมาย
  • ซึ่งในโลกนี้มันมีระบบเทรด Forex หลายแบบมาก สามารถหาอ่านได้ในเว็บของเรา forexthai ตัวอย่างระบบเทรด Forex เบื้องต้น เช่น
ตัวอย่างระบบเทรด FOREX
สังเกตจากตัวอย่างชื่อระบบเทรดทั้งหลาย ชื่อจะมีความเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการทำกำไร เช่น Multi-Timeframe RSI หมายถึงวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมและดูแนวโน้มของตลาดด้วยเส้น RSI

องค์ประกอบของระบบเทรด Forex

หลักๆ แล้วองค์ประกอบของระบบเทรด Forex ประกอบไปด้วย 4 อย่างนี้

  1. Input = วางแผนการเทรดอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการตั้งเป้าหมาย กำหนดกลยุทธ์และเลือกเครื่องมือการเทรดที่เหมาะสม เช่น
    • ตั้งเป้าหมายว่าจะเทรดเพื่อสร้างรายได้เสริม โดยเป็นการเทรดระยะสั้นใช้กลยุทธ์ Scalping โดยเน้นวิเคราะห์แบบเทคนิค ใช้ Moving Average, แนวรับแนวต้าน เป็นต้น
    • รวมไปถึงกำหนดเงินทุนนารเทรดให้ชัดเจน เลือกโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพ ศึกหาการใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดให้เข้าใจ
  2. Process = ต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการเทรดตามที่วางแผนไว้จากข้อแรก โดยจะมีการตั้งค่าตามแผนของเรา เช่น
    • ให้เข้าเทรดเมื่อราคา Breakout แนวต้าน พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น และ MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal
    • กำหนดขนาด Lot รวมถึงระดับความเสี่ยงที่รับได้ (แนะนำ RRR) และ Leverage สำหรับการเทรดแต่ละครั้ง
    • ตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่ใกล้ที่สุดหรือจากที่คำนวณต้นทุนมา
    • ตั้ง Take Profit ที่แนวต้านถัดไป หรือ ใช้ Trailing Stop ล็อคกำไรไว้
  3. Output = เมื่อผลลัพธ์จากการเทรดแต่ละครั้งออกมา ก็บันทึกผลการเทรดทุกครั้ง ทั้งกำไรและขาดทุน เพื่อนำไปวิเคราะห์และปรับปรุงระบบเทรดให้ดียิ่งขึ้น
  4. Check = ประเมินประสิทธิภาพของระบบเทรดจากผลลัพธ์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบว่ามันเข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้นหรือไม่
    • เช่นตัวเลข Win Rate / Drawdown อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไหม
    • จำนวนเงินในพอร์ตขยับขึ้นหรือลดลง
4 องค์ประกอบของระบบเทรด Forex
องค์ประกอบหลักของระบบเทรด Forex มีด้วยกัน 4 องค์ประกอบคือ Input เป็นเหมือนแผนและเป้าหมาย, Process คือวิธีการทำ การตั้งค่า, Output คือผลลัพธ์ของกระบวนการและ Checks คือการปรเมินผลงานทั้งระบบ

การประยุกต์ใช้ System กับการเทรด forex

จากองค์ประกอบของระบบเทรด Forex ด้านบน เราจะลองมาสร้างระบบเทรดแบบจริงจังโดยใช้องค์ประกอบที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้อ่านทุกท่าน

ชื่อระบบ: Trend Following with MACD Confirmation

1. Input

  • เป้าหมายคือปั้นพอร์ตจาก 1,000 $ ไปสู่ 2,000 $ โดยเลือกใช้โบรกเกอร์ Exness
  • แผนการเทรดคือ ใช้ Timeframe 1 ชั่วโมง (H1) ของคู่สกุลเงิน EUR/USD
  • ใช้อินดิเคเตอร์ Exponential Moving Average (EMA) 200 สำหรับใช้ระบุแนวโน้มหลัก และ MACD (12, 26, 9) ใช้ยืนยันสัญญาณและโมเมนตัม
  • ข้อมูลเพิ่มเติมที่ใช้วิเคราะห์คือ ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญจาก Forex Factory และ Investing.com
เว็บไซต์ Investing
Investing.com เป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่เทรดเดอร์นิยมใช้หาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานและตัวเลขเศรษฐกิจจากปฏิทินเศรษฐกิจ โดยเฉพาะระบบเทรดที่ต้องการข้อมูลข่าวสำคัญของสกุลเงินนั้นๆ

2. Process

  • ตั้งเกณฑ์การเข้าซื้อ/ขาย ให้ชัดเจน
    • เข้าซื้อ (BUY) ต่อเมื่อ ราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้นและ MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal และ Histogram เป็นบวก (ยืนยัน Momentum ขาขึ้น) เข้าซื้อหลังจากราคาตัดขึ้นทันที โดยไม่มีข่าวสำคัญในช่วงเวลาที่เทรด
    • ขาย (Sell) ต่อเมื่อ เป็นแนวโน้มขาลงและ MACD ตัดลงใต้เส้น Signal และ Histogram เป็นลบ (ยืนยัน Momentum ขาลง) เข้าขายหลังจากราคาตัดลงทันที โดยไม่มีข่าวสำคัญในช่วงเวลาที่เทรด
  • ตั้งเป้าหมาย Risk/Reward Ratio ที่ 1:2 เช่น หาก Stop Loss 10 pips, Take Profit 1 คือ 20 pips
  • ปล่อยให้ Position ที่เหลือ วิ่งตามแนวโน้ม โดยใช้ Trailing Stop ที่ระยะห่าง 30 pips จากราคาปัจจุบันก็ได้
อินดิเคเตอร์ MACD
จากรูปตัวอย่าง เส้นสีน้ำเงิน คือ Signal Line และสีชมพูที่เป็นแท่ง คือ Histogram ของ MACD ซึ่งเป็นอินดิเคเตอรืหลักในการใช้วิเคราะห์ ของระบบเทรด Forex ตัวอย่าง

3. Output

  • บันทึกผลการเทรดทุกครั้ง ลงในแพลตฟอร์มที่เราสะดวก โดยเน้นระบุรายละเอียด ดังนี้
    • วันที่และคู่สกุลเงินที่เทรด
    • ประเภท Order (BUY หรือ SELL)
    • ขนาด Position (Lot size)
    • จุดเข้า จุด Stop Loss จุด Take Profit
    • ผลลัพธ์ = กำไรหรือขาดทุน หน่วยเป็น pips และเงิน จะได้คำนวนอย่างแม่นยำ
    • ถ้าเป็นไปได้พยายามระบุเหตุผลในการเข้า Order ในเชิงตรรกะ
    • ตั้งข้อสังเกต เช่น อารมณ์ขณะเทรด ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการเทรด จะได้รู้เท่าทันและรีบแก้ไข
การบันทึกผลเพื่อพัฒนาระบบเทรด Forex
การบันทึกผลลัพธ์ของระบบเทรด Forex จะช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นข้อมูลสำคัญของผลลัพธ์ในการเทรดทั้งหมด เพื่อที่เราจะเอาข้อมูลนี้ไปประเมินต่อไป

4. Checks

  • วิเคราะห์ผลลัพธ์ในการเทรดทุกสัปดาห์(หรือตามสะดวกแต่ต้องสม่ำเสมอ) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบเทรดโดยพิจารณาปัจจัยเหล่านี้
    • Win Rate : อัตราการเทรดที่กำไรเทียบกับการเทรดทั้งหมด
    • Risk/Reward Ratio : อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน
    • Drawdown : เปอร์เซ็นต์การลดลงสูงสุดของเงินทุน นับจากยอดล่าสุดและไม่เกี่ยวกับออเดอร์ที่ปิดขาดทุน
    • Sharpe Ratio : ตัวเลขที่วัดผลตอบแทนของการลงทุนเทียบกับความเสี่ยง
  • หากเช็คแล้วพบว่าผลลัพธ์ของเราเข้าใกล้เป้าหมายขึ้นจากพอร์ต 1,000 $ ขยับเป็น 1,300$ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ถือว่าระบบเทรดมีประสิทธิภาพ ให้นำข้อสังเกตและจุดขาดทุนมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุง
ปัจจัยที่ใช้ในการประเมิน ระบบเทรด
ปัจจัยเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญในการประเมินว่าระบบเทรด Forex ของเรามีประสิทธิภาพจริงหรือไม่?เช่น Win Rate, RRR, Sharpe Ratioและ Drawdown

ประโยชน์ของการมีระบบเทรด Forex

ทีนี้เรามาดูกันว่าระบบเทรด Forex มันมีประโยชน์อะไรบ้าง ในที่นี้คือแม้จะเป็นระบบที่ทดสอบแล้วแต่ประสิทธิภาพต่ำก็ตาม เพราะจะพูดถึงประโยชน์แบบโดยรวมของมัน

  1. ลดอารมณ์ในการเทรด : ระบบเทรดจะช่วยให้เทรดเดอร์มีกระบวนการเทรดที่ชัดเจน แม้ว่าบางครั้งจะขัดกับอารมณ์ก็ตาม เช่น ความโลภ ความกลัว
  2. จัดการความเสี่ยง : ทุกระบบการเทรดเรามักจะมีการคิดและวางแผน รวมถึงการตั้ง SL และ TP ดังนั้นความเสี่ยงในการล้งพอร์ตจึงน้อย
  3. ประเมินและปรับปรุงได้ : ระบบการเทรดเราสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ นั่นทำให้เราได้รู้จุดอ่อนของระบบเทรดของเราด้วย
  4. ลดความเครียด : เมื่อเรามีระบบเทรดที่ชัดเจนแล้วเท่ากับความเครียดจากความวิตกกังวลก็จะน้อยลงตาม เพราะถึงแม้ระบบจะไม่มีประสิทธิภาพแต่เราก็ควบคุมและสามารถปรับได้ภายหลัง
การสร้างระบบเทรด Forex ที่เหมาะกับตนเอง
วิธีการสร้างระบบเทรด Forex ที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ก็คือการถาม-ตอบ กับตัวเอง ตั้งแต่การเริ่มต้นวางแผนไปจนถึงกระบวนการเทรด ว่าเราต้องให้มีกระบวกการคิด วิเคราะห์อย่างไรบ้าง ที่เราสะดวกและตอบโจทย์ที่สุด

วิดีโอเกี่ยวกับระบบเทรด Forex

ระบบเทรดแบบ Price Action เครดิต By TradingLab Focus นาทีที่ 1:30-8:26

ทีมงาน forexthai ไปเจอวิดีโอตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเทรดเดอร์คนนี้เขาอ้างว่ามีระบบเทรดที่สามารถสร้างกำไรได้ถึง 3,xxx % !!! โดยในเนื้อหาจะเป็นการ สอนกลยุทธ์การเทรดแบบ Price Action ที่ไม่ต้องใช้อินดิเคเตอร์โดยเน้นการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด อุปสงค์-อุปทานและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk to Reward) ก็ถือว่าเป็นระบบที่ชัดเจน

  • Focus นาทีที่ 1:30 อธิบายวิธีการระบุ Uptrend และ Downtrend อย่างถูกต้อง
  • Focus นาทีที่ 3:15 อธิบายวิธีการหา Demand Zone และ Supply Zone
  • Focus นาทีที่ 6:30 ยกตัวอย่างการเทรดแบบ Long โดยใช้กลยุทธ์ที่อธิบายไป
  • Focus นาทีที่ 7:40 สรุป 3 ขั้นตอนของกลยุทธ์ และเน้นย้ำเรื่อง Risk to Reward

สรุป

จากที่อ่านมาเห็นกันหรือยังครับว่าการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวนั้น ไม่ใช่เรื่องของโชคช่วยแต่ต้องอาศัย “ระบบเทรด” ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แม้ราจะรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีระบบเทรด Forex ใดสมบูรณ์แบบได้ 100% อย่างยาวนาน นั่นจึงทำให้มีการตรวจสอบและวัดผลกับระบบอย่างสม่ำเสมอ

สุดท้ายอย่าลืมว่าวินัยในการเทรดและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้ระบบเทรดจะดีแค่ไหนหากเราขาดสิ่งนี้ไปผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากการไม่มีระบบเทรดนั่นเองครับ

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ