Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรดรับ/แนวต้าน + Fibo : เป็นระบบการเทรดกราฟเปล่าที่ใช้การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม
- หลักการเทรดเบื้องต้น: เริ่มต้นจากการวิเคราะห์กราฟจากการใช้แนวรับแนวต้านในไทม์เฟรมใหญ่และหาโอกาสเทรดในไทม์เฟรมเล็กโดยใช้เครื่องมือ Fibo และกราฟแท่งเทียน
- เครื่องมือที่ใช้: เส้นแนวรับแนวต้าน, เครื่องมือ Fibo และ กราฟแท่งเทียน
- ข้อดี: เป็นระบบเทรดกกราฟเปล่าที่เข้าใจง่าย, สามารถทำ Risk Reward Ratio ได้สูง
- ข้อเสีย: โอกาสเทรดมีน้อย, ไม่เหมาะกับคนใจร้อน
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ระบบเทรดรับ/แนวต้าน + Fibo
การเทรดกราฟเปล่าสำหรับมือใหม่แล้วมันอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถถ้าเราสามารถเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง “แนวรับ-แนวต้าน”, “กราฟแท่งเทียน” และ เครื่องมือ Fibonacci คือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้การเทรดด้วยการ์ดเปล่านั้นทรงพลัง
แนวรับ/แนวต้าน
แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักเทรดทุกคนต้องเรียนรู้ มันช่วยให้เราเห็นการเคลื่อนที่ของราคาได้อย่างชัดเจน
- แนวรับ คือ แนวที่ราคามีการวิ่งลงมาและเด้งขึ้นบ่อยครั้ง จำง่าย ๆ คือ “แนวที่รับไม่ให้ราคาลง”
- แนวต้าน คือ แนวที่ราคามีการวิ่งขึ้นมาและกลับตัวลงบ่อยครั้ง จำง่าย ๆ คือ “แนวที่ต้านไม่ให้ราคาขึ้น”
วิธีการตีแนวรับ
- ตีบริเวณที่ราคามีการวิ่งลงมาและมีการเด้งขึ้น 2 ครั้งขึ้นไป
- การตีเส้นแนวรับควรตีในไทม์เฟรมใหญ่ (4H, D และ W) เพราะเป็นแนวรับที่มีความแข็งแรง
วิธีการตีแนวต้าน
- ตีบริเวณที่ราคามีการวิ่งขึ้นไปและกลับตัวลง 2 ครั้งขึ้นไป
- การตีเส้นแนวต้านควรตีในไทม์เฟรมใหญ่ (4H, D และ W) เพราะเป็นแนวต้านที่มีความแข็งแรง
กราฟแท่งเทียนกลับตัว
แท่งเทียนที่บ่งบอกว่าราคากำลังจะกลับตัวและกำลังจะวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเทรนด์ที่วิ่งมาก่อนหน้านี้ “จากวิ่งลงเป็นวิ่งขึ้น” หรือ “จากวิ่งขึ้นเป็นวิ่งลง”
ตัวอย่างแท่งเทียนกลับตัว
- Engulfing (แท่งเทียนกลืนกิน)
- Doji (แท่งเทียนที่มีไส้เทียนมากกว่าเนื้อเทียน)
Fibonacci
ตัวเลขที่ Fibonacci คือตัวเลขมหัศจรรย์โดยเป็นลำดับตัวเลข 0,1,1,2,3, …. ซึ่งเมื่อนำตัวเลขที่เรียงติดต่อกันไปเรื่อย ๆ นี้มาหารกับจำนวนก่อนหน้าจะได้เป็นสัดส่วนทองคำ ซึ่งมีค่าดังนี้ 0.38, 0.618, 1, 1.618
Fibonacci กับตลาด Forex
สัดส่วนทองคำของ Fibonacci สามารถนำมาใช้ในการวัดเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาของในตลาด Forex ได้ ตัวอย่างเช่น การหาเป้าที่ราคามีโอกาสวิ่งไป หรือ การหาจุดหมุนของราคา (Swing Low และ Swing High) โดยใช้เครื่องมือ Fibo ในแพลตฟอร์มการเทรดหรือแพลตฟอร์มดูกราฟ
หลักการเทรดเบื้องต้น
การเทรดด้วย ระบบเทรดรับ/แนวต้าน + Fibo เป็นระบบเทรดที่วิเคราะห์กราฟจากไทม์เฟรมใหญ่อย่าง W โดยการตีเส้นแนวรับแนวต้าน ก่อนที่จะใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในการหาจุดหมุนของราคา เพื่อเข้าเทรดในไทม์เฟรมที่เล็กกว่า
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- เส้นแนวรับและแนวต้าน
- เครื่องมือ Fibonacci Retracement ตั้งค่าสัดส่วนทองคำ
- ลักษณะกราฟแท่งเทียน
Fibonacci Retracement
เป็นหนึ่งในเครื่องมือ Fibo ที่มีลักษณะเป็นตารางแนวนอนที่มีสัดส่วน Fibonacci ประกอบอยู่
หลักการวาด Fibonacci Retracement
1. วาดจาก Swing High มาที่ Swing Low เพื่อหา ”จุดที่ราคามีโอกาสย่อแล้วเด้ง” ในการเทรดขาขึ้น
2. วาดจาก Swing Low ปัจจุบัน Swing High ก่อนหน้า เพื่อหา ”จุดที่ราคามีโอกาสขึ้นและกลับตัว” ในการเทรดขาลง
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. ตีเส้นแนวรับแนวต้านในไทม์เฟรม Week
2. รอแท่งเทียนทำลายแนวต้าน (Breakout)
3. ใช้ Fibonacci Retracement ตีจาก High ไปที่ Low ของแท่งเทียนที่ Breakout และตีกรอบสัดส่วนทองคำ
4. รอราคาในไทม์เฟรม 4H กลับมาทดสอบกรอบสัดส่วนทองคำของไทม์เฟรม Week แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัว (Engulfing)
5. ใช้ Fibonacci Retracement ตีจาก Low ไปที่ High ของแท่งเทียนกลับตัวไทม์เฟรม 4H ตีกรอบสัดส่วนทองคำ
6. รอราคาในไทม์เฟรม 15M หรือ 5M (หรือไทม์เฟรมอื่นที่เล็กกว่า 4H) มาทดสอบกรอบสัดส่วนทองคำของไทม์เฟรม 4H และเกิดแท่งเทียนกลับตัว (Engulfing)
7. เปิดออร์เดอร์ Buy
8. ตั้ง Stop loss ใต้แท่งเทียน
9. ตั้ง Take profit ที่แนวต้านถัดไป
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. ตีเส้นแนวรับแนวต้านในไทม์เฟรม Week
2. รอแท่งเทียนทำลายแนวรับ (Breakout)
3. ใช้ Fibonacci Retracement ตีจาก Low ไปที่ High ของแท่งเทียนที่ Breakout และตีกรอบสัดส่วนทองคำ
4. รอราคาในไทม์เฟรม 4H กลับมาทดสอบกรอบสัดส่วนทองคำของไทม์เฟรม Week แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัว (Engulfing)
5. ใช้ Fibonacci Retracement ตีจาก High ไปที่ Low ของแท่งเทียนกลับตัวไทม์เฟรม 4H ตีกรอบสัดส่วนทองคำ
6. รอราคาในไทม์เฟรม 15M หรือ 5M (หรือไทม์เฟรมอื่นที่เล็กกว่า 4H) มาทดสอบกรอบสัดส่วนทองคำของไทม์เฟรม 4H และเกิดแท่งเทียนกลับตัว (Engulfing)
7. เปิดออร์เดอร์ Sell
8. ตั้ง Stop loss เหนือแท่งเทียน
9. ตั้ง TP ที่แนวรับถัดไป
ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรดรับแนวต้าน+Fibo
ข้อดีของระบบเทรด
- เป็นระบบเทรดกราฟเปล่าที่เข้าใจง่าย
- สามารถเรียก RR ได้สูงถ้าหากราคาไปถูกทางที่คาดการณ์เอาไว้
- ใช้หลักการวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม ทำให้มีความแม่นยำ
- สามารถตั้งแจ้งเตือนได้ไม่จำเป็นต้องเฝ้ากราฟ
ข้อเสียของระบบเทรด
- สัญญาณการเทรดค่อนข้างน้อยเพราะต้องรอการคอนเฟิร์มจากไทม์เฟรม W
- ไม่เหมาะกับคนใจร้อนไม่สามารถทนถือออเดอร์ได้นาน
- เหมาะกับตลาดที่วิ่งเป็นเทรนด์ระยะยาวเท่านั้น ถ้าหากเกิดการ Side Way ในภาพใหญ่ไม่มีโอกาสได้เทรด หรือราคาอาจจะวิ่งไปไม่ถึง TP
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด
- ระบบเทรดนี้เหมาะกับคนใจเย็นสามารถรอโอกาสได้
- ควรเทรดหลายคู่เงินเพื่อเพิ่มจำนวนการเทรด
- สามารถใช้เทคนิคอื่น ๆ เข้ามาประกอบเพื่อเก็บสะสมออร์เดอร์ ระหว่างที่ราคาวิ่งไปที่เป้ากำไรได้
- สามารถนำแนวคิดการวิเคราะห์กราฟจากระบบเทรดนี้ไปปรับใช้ได้
- สามารถแบ่งเป็นกำไรตามเป้าได้เพื่อเป็นการการันตีผลตอบแทน
- ระบบต้องนำไป Back Test และ Forward Test ก่อนใช้งานจริง
สรุป
ระบบเทรดรับแนวต้าน+Fibo เป็นระบบการเทรดทำให้ “การเทรดกราฟเปล่า” ที่ดูแล้วเป็นเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ใช้การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น การเข้าเทรดในไทม์เฟรมเล็กช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงได้ดี
สำหรับคนที่ต้องการใช้ระบบการเทรดนี้ต้องเป็นคนใจเย็นเพราะการคอนเฟิร์มจากไทม์เฟรม W ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานครับ ทำให้ไม่สามารถหาโอกาสเทรดได้บ่อยครั้ง ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเทรดหลายคู่เงินเพื่อเพิ่มความถี่ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับนักเทรดที่เข้าใจแนวคิดและวิธีการก็สามารถนำไปปรับใช้กับการเทรดรูปแบบอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกันครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th