Forexthai.in.th ย่อให้

  • ติดดอย คือ สถานการณ์ที่เทรดเดอร์ซื้อหรือขายสินทรัพย์แล้วราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม ทำให้เกิดความสภาวะติดลบขิงสินทรัพย์
  • สาเหตุหลักของการติดดอยอาจจะเป็นได้ทั้ง การวิเคราะห์ผิดพลาด, การใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง, ข้อมูลผิดพลาดรวมถึงการขาดวินัยในการเทรดตามแผน
  • ผลกระทบจากการติดดอยนอกจากจะสร้างความเสียหายทางการเงินแล้วยังส่งผลต่อความเครียด, ผลกระทบต่อการตัดสินใจในการเทรดเพื่อแก้ไขต่อไป
  • วิธีการออกจากยอดดอยนั้นมีอยู่ 3 แนวทาง เบื้องต้นคือ 1. ยอม Cut Loss ในช่วงราคาที่คิดว่าถูกต้อง 2. ถือรอคำสั่งให้ราคากลับมาอีกครั้งจากการวิเคราะห์ 3. ออกออเดอร์ถัวเฉลี่ยกำไร-ขาดทุน

ติดดอย ยอดดอย

การอยู่บนยอดดอยนานๆ ฟังแล้วน่าตื่นเต้นถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยว แต่คำนี้กลับน่าสะพรึงกลัวหากเราเป็นเทรดเดอร์ หลายคนยังเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นมุกฮาๆ ในวงการ Forex แต่ใครเคยโดนมากับตัวมันฮาไม่ออกจริงๆ และเราจะไปรู้จักและเรียนรู้สาเหตุการติดดอยกัน พร้อมกับแนวทางลงดอยอย่างปลอดภัย


“ติดดอย” หรือ “ยอดดอย” คืออะไร

  • ความหมายในเชิงการเทรดของคำว่า ติดดอย คือ สถานการณ์ที่เทรดเดอร์ออกคำสั่งซื้อ/ขาย แต่หลังจากนั้นราคาของสินทรัพย์นั้นก็ปรับตัวตรงกันข้ามกับคำสั่งของเรา ทำให้สถานะถือครองติดลบแต่ยังไม่ถึงกับล้างพอร์ต
  • ถ้าดูจากภาพกราฟราคาประกอบไปด้วย ตัวอย่างเช่น เราเข้าออเดอร์ Buy ตรงปลายยอดของกราฟ ดูเหมือนเหมือนติดบนยอดดอยนั่นเอง
  • คำว่าติดดอยเริ่มแรกมาจากศัพท์ในกลุ่มเทรดหุ้นเพราะเทรดหุ้นสามารถเทรดได้แค่ขาขึ้นเท่านั้น แต่ในวงการ Forex สามารถเทรดได้ทั้งขึ้นและลง ดังนั้นยอดดอยของ Forex จึงมี 2 ด้าน (หรืออาจจะเรียกอีกแบบ หากเราติด Sell อยู่ก้นกราฟ)
ลักษณะของการติดดอย
ลักษณะและแนวโน้มของกราฟที่ราคากำลังพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จนเทรดเดอร์คิดว่าราคาจะขึ้นไปต่อจึงออกออเดอร์ทิศทางเดียวกับที่คาดไว้ แต่ผลลัพธ์ปรากฏว่าราคากลับตรงกันข้ามจนเกิดเป็นลักษณะคล้ายกับดอยเขาที่เราขึ้นไปอยู่บนยอด

สาเหตุที่เทรดเดอร์หลายคนติดดอย

  1. มองไม่ขาด วิเคราะห์ไม่คม : สาเหตุหลักแรกๆ ของการติดดอยคือเทรดเดอร์ยังวิเคราะห์แนวโน้มราคาไม่แตกฉานมากพอ อาจจะเป็นเพราะยังมือใหม่ ยังไม่มีชั่วโมงบินที่มากพอ
  2. มีอารมณ์ในการเทรดมากไป : ถ้าเราเอาอารมณ์เข้าร่วมในการเทรดมากเกินไป โอกาส “ติดดอย” ก็มากตามไปด้วย เช่น เห็นว่าราคากำลังทะลุแนวต้านได้รีบเข้าออเดอร์ BUY ตามทันทีด้วยความโลภหรืออาจจะกลัวตกรถ แต่กราฟเฉลยแล้วว่ามันเป็น False Breakout
  3. ความผิดพลาดทางข้อมูลและเทคนิค : เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้หากเราได้ข่าวที่ผิดพลาดหรือใช้เครื่องมืออินดิเคเตอร์แต่ยังไม่เข้าใจมากพอ ก็อาจทำให้ออกออเดอร์ผิดทางจนไปค้างบนยอดดอยได้
  4. ขาดวินัยในการทำตามแผน : หากเรามีแผนการเทรดที่ชัดเจนแบบเป็นข้อๆ รอให้ปัจจัยทุกอย่างลงตัวก่อนออกออเดอร์ก็คงจะไม่ไปติดดอยเพราะออกนอกลู่ทางของแผนการ
สาเหตุของการติดดอย
อาการติดดอยส่วนใหญ่มักเกิดจากอารมณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องมากเกินไป โดยกลัวว่าจะตกรถหากไม่เข้าออเดอร์ตอนนี้รวมไปถึงความโลภที่ต้องการกำไร ซึ่งมักจะเกิดกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังควบคุมอารมณ์เหล่านี้ไม่ดีพอ

ความเสียหายจากการติดดอย

  1. ล้างพอร์ต : ขออภัยหากเริ่มต้นด้วยคำที่รุนแรงอย่างการ “ล้างพอร์ต” โดนเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่รู้วิธีแก้ไขและรับมือกับการติดดอย จนทำให้กราฟลากยาวต่อไปแบบผิดทางจน Margin ในพอร์ตไม่เพียงพอจนต้องล้างพอร์ตไป
  2. ความเครียดและความกังวล : ผลกระต่อมาจะเป็นทางด้านจิตใจ เมื่อรู้ว่าตอนนี้เงินทุนของเราตกอยู่ในอัตราย มันก็จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการตัดสินใจเทรดในสเต็ปต่อไปแน่นอน
  3. เงินทุนลดลงส่งผลต่อเครดิต : ในกรณีที่ยังไม่ล้างพอร์ต ก็อาจจะทำให้จำนวนเงินในพอร์ตต้องขาดหายไปเพราะตัดขาดทุน ส่งผลต่อการเติบโตของพอร์ตและผลงาน โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่ต้องใช้ Myfxbook อ้างอิงผลงานการเทรด

วิธีการลงจากยอดดอย

หากการลงดอยโดยรถยนต์คือการใส่เกียร์ต่ำเพื่อชะลอความเร็ว การลงดอยแบบการเทรด Forex ก็คงคล้ายๆ กัน เทรดเดอร์ต้องเริ่มชะลอและคิดวิเคราะห์สเต็ปต่อไปด้วยความระมัดระวัง ซึ่งแนวทางในการจะพ้นจากยอดดอยก็มีดังนี้

Cut Loss ตัดขาดทุน = ตัดใจ

  • วิธีแรกอาจจะเป็นวิธีที่เจ็บที่สุดแต่มันจบ การตัดขาดทุนเหมือนการยอมรับความจริงและจำกัดความเสียหายไม่ให้มากไปกว่านี้
  • การ Cut Loss ก็มีแนวทางในการ Cut เบื้องต้นหลายคนอาจจะแนะนำว่าหากติดลบเกิน 40% ของพอร์ตให้ cut ทิ้งเลย แต่ผมมองว่ามันมากเกินไป
  • เราต้องเริ่มหาจุดที่สมควรจะ Cut Loss โดยอาจจะเป็นแนวรับ-แนวต้านใดก็ตาม อย่างเช่น หากราคาทะลุแนวรับนี้ลงไปอีกก้ควร Cut เสีย เพราะแนวโน้มที่ราคาจะลงต่อมีสูงมาก
การหาจุด cut loss
เมื่อติดดอยควรหาจุด cut loss ที่เหมาะสมและมีเหตุผล เช่น ในรูป กราฟราคาร่วงลงมาชนแนวรับ(กรอบสีแดง) และเด้งกลับขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะทะลุแนวรับลงไปอีก จุดที่กราฟทะลุควรเป็น Cut Loss เพราะราคามีแนวโน้มลงต่อสูงมาก

ถือรอด้วยเหตุผลไม่ใช่ความหวัง (สำหรับมีแนวโน้มเท่านั้น)

  • การติดดอยนั้นหากมันเป็นกรณีที่เราวิเคราะห์แล้วว่าราคาเป็นเพียงการกลับตัวชั่วคราวเพื่อทดสอบหรืออะไรก็ตามแต่ ก็อาจจะเป็นทางที่ถูกต้องก็ได้สำหรับการถือต่อ ในกรณีที่ปัจจัยในการถือครองเพียงพอ
  • อยากให้สำรวจปัจจัยเหล่านี้ก่อนจะเริ่มถือครองต่อไป
    • มีสัญญาณหรือแนวโน้มว่าราคาจะกลับมาหาดอยที่เราติดอยู่มากเกิน 80%
    • มีเงินทุนและ Margin เพียงพอต่อการรอ รวมถึขนาด Lot ไม่ได้ Overtrade
  • ในข้อนี้เทรดเดอร์ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมากกว่าเดิม หากพบว่าสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ก็ควรพิจารณาตัดสินใจหาทางเลือกใหม่
การถือรอราคา
กรณีที่เราวิเคราะห์แล้วว่ากราฟราคามีแนวโน้มจะกลับขึ้นมาได้(ต้องมั่นใจมากกว่า 90%) ก็สามารถถือคำสั่งรอได้ อย่างกรณีในรูปภาพที่ราคาไม่สามารถทะลุแนวร้บได้ จากนั้นราคาก็ค่อยๆ ปรับฐานขึ้นมาจนสามารถพ้นดอยและทำ TP ได้

ถัวเฉลี่ย

  • การถัวเฉลี่ยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เทรดเดอร์นิยมใช้ในการรับมือกับสถานการณ์ติดดอย โดยการออกออเดอร์ไปในทางที่ราคามีแนวโน้มจะไปแค่รอจังหวะที่แน่นอนมากกว่า
  • ในระหว่างนี้หากกราฟราคาเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มหลักและตามที่คาดการณ์ ออเดอร์ที่ถัวเฉลี่ยก็จะเป็นกำไร ให้ทยอยปิดออเดอร์ที่กำไรถัวไปกับออเดอร์ที่ติดดอยโดยอาจจะถัวหลายๆ ครั้ง
  • แต่การจะใช้กลยุทธ์นี้ได้ เราต้องมั่นใจว่าการตัดสินใจเทรดในแต่ละครั้งนั้นมีแนวโน้มที่ชนะมากกว่า 90 % และมีเงินทุนสำรองเพียงพอสำหรับการซื้อเพิ่มเติม
วิธีการถัวเฉลี่ย
วิธีถัวเฉลี่ยเป็นวิธีที่เทรดเดอร์มืออาชีพหรือมีประสบการณืช่ำชองแล้วมักจะใช้แก้การติดดอย โดยจะค่อยๆ ทำกำไรจากแนวโน้มสั้นๆ เพื่อไปถัวปิดออเดอร์ที่ขาดทุนจากการติดดอย อาจจะใช้ประมาณ 3-4 ออเดอร์ในการถัวแตกต่างกันไป

วิดีโอเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์เพื่อป้องกันการติดดอย

การป้องกันการติดดอยโดยการอ่าน MACD เครดิต By โค้ชเจมส์สอนเทรดสั้น Focus นาทีที่ 0:10-6:50

มีวิดีโอตัวหนึ่งจากเทรดเดอร์ชาวไทยที่อธิบายแนวทาง การป้องกันการติดดอยโดยการอ่าน MACD อินดิเคเตอร์ที่ใครหลายๆ คนนิยมใช้กัน ซึ่งเป็นเนื้อหาที่คิดว่ามีประโยชน์มากๆ สำหรับผู้อ่านที่กำลังสนใจและหาทางออกจากการติดดอยครับ

  • Focus นาทีที่ 0.10 เริ่มอธิบายเกี่ยวกับ MACD และการวิ่งของราคา
  • Focus นาทีที่ 3.08 ตัวอย่างกราฟดอยแบบลงลึก 78.6-88.7 (MACD)
  • Focus นาทีที่ 4.06 ตัวอย่างกราฟขาลงและวิธี Sell บนยอดดอย
  • Focus นาทีที่ 5.14 ตัวอย่างแบบดอยไม่ลึกเป็นลักษณะปรับฐานขึ้น ให้ Buy ช่วง 23.6-38.2 (MACD)

สรุป

ก่อนจากกันไปอยากจะบอกว่าจุดประสงค์ของบทความนี้ไม่ใช่อื่นใดนอกจากอยากให้เทรดเดอร์ได้ตระหนักรู้ถึงอันตรายหากติดยอดดอยแบบไม่มีความรู้ ความชำนาญมาแก้ไขอาจเป็นฝันร้ายของมือใหม่ที่เริ่มเข้าวงการ Forex เลยก็ได้ หวังว่าบทความนี้จะทำให้เทรดเดอร์หลายๆ คนไม่ติดดอยรับลมหนาวอยู่เพียงลำพังและก็หวังว่าจะสามารถพิชิตกำไรจากยอดดอยได้แทน เพื่อใช้เวลาไปสนุกบนยอดดอยของจริงกันดีกว่าครับ!

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments