Forexthai.in.th ย่อให้

  • ขายหมู เป็นศัพท์ในวงการเทรด หมายถึงการปิดออเดอร์เร็วเกินไปทั้งที่ราคายังมีโอกาสวิ่งต่อ เปรียบเหมือนขายหมูตัวเล็กทั้งที่รอให้โตกว่านี้จะได้ราคาดีกว่า
  • สาเหตุหลักมาจากการไม่มีระบบเทรดที่ชัดเจน ความกลัวมากเกินไป การอ่านกราฟไม่แม่น และอาการโลภสลับกับกลัว
  • ผลกระทบที่ตามมาคือพลาดโอกาสทำกำไรก้อนใหญ่ และส่งผลต่อจิตใจ ทำให้ขาดความมั่นใจในการเทรดครั้งต่อไป
  • การแก้ไขต้องเริ่มจากการมีระบบเทรดที่ชัดเจน จัดการเงินทุนให้ดี และดูแลสภาพจิตใจ
  • ถึงขายหมูจะไม่ดี แต่ก็ยังดีกว่าติดดอย เพราะอย่างน้อยยังได้กำไร สามารถเอาทุนไปเทรดต่อได้ทันที

ขายหมู FOREX

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ คำว่า “ขายหมู” คงไม่ใช่เรื่องแปลกหูสำหรับคุณ เพราะนี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาดมานาน มาทำความรู้จักกับ “การขายหมู” และวิธีรับมือกับมันกันดีกว่าครับ เพื่อที่ว่าในอนาคตนั้นเมื่อคุณขายหมู คุณจะได้รู้ว่า สิ่งนี้แหละที่เรียกว่าการ “ขายหมู” อย่างแท้จริง


ขายหมู คืออะไร? เกี่ยวอะไรกับ Forex

“ขายหมู” เป็นศัพท์เฉพาะในวงการหุ้น ที่ภายหลังก็เริ่มนำมาใช้กับตลาด Forex ด้วยเช่นกัน หมายถึงการปิดสัญญา Buy หรือ Sell เร็วเกินไป ทั้งที่ราคายังมีโอกาสวิ่งไปในทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้ได้อีก เปรียบเสมือนกับว่าเราเอาหมูตัวเล็กๆ ไปขาย ทั้งที่ถ้ารอให้มันโตกว่านี้อีกหน่อย เราก็จะได้หมูตัวอ้วนพีที่ขายได้ราคาดีกว่าเดิม

ขายหมู
“ขายหมู” คือการปิดกำไรเร็วเกินไป ทั้งที่ราคายังมีโอกาสวิ่งไปในทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้ได้อีก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ:

  • สมมติว่าคุณวิเคราะห์กราฟแล้วเห็นว่าราคามีโอกาสขึ้น เลยตัดสินใจเปิด Buy ที่ราคา 1.3000 พอราคาขยับขึ้นมานิดหน่อยที่ 1.3020 คุณก็เริ่มกังวล กลัวว่าราคาจะย้อนกลับลงมา เลยรีบปิดออเดอร์ทันที ได้กำไรมา 20 pips

แต่พอปิดออเดอร์ไปปุ๊บ… ราคากลับพุ่งขึ้นไปต่อเรื่อยๆ จนไปถึง 1.3100 แล้วคุณก็มานั่งคิดว่า ถ้าคุณใจเย็นกว่านี้ ถือออเดอร์ไว้จนราคาไปถึง 1.3100 คุณจะได้กำไรตั้ง 100 pips แต่เพราะความกลัวและรีบร้อนปิดเร็วเกินไป คุณเลยได้แค่ 20 pips ทั้งที่การวิเคราะห์ของคุณถูกต้องแล้ว

นี่แหละครับที่เราเรียกว่า “ขายหมู” มันเป็นสถานการณ์ที่น่าเสียดายมาก เพราะเราวิเคราะห์ถูกทาง แต่ดันไม่กล้าถือออเดอร์ให้นานพอที่จะได้กำไรเต็มที่

4 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการขายหมู

1. ไม่มีระบบเทรดที่ชัดเจน

สาเหตุแรกเลยครับ คือการที่เราไม่มีแผนการเทรดที่แน่นอน เทรดไปเรื่อยๆ ตามความรู้สึก พอเห็นกำไรนิดหน่อยก็ใจสั่น รีบปิดออเดอร์เลย จะเป็นแบบนี้เพราะ…

  • ไม่รู้ว่าควรเข้าเทรดตรงไหน ออกตรงไหนดี
  • ไม่ได้ตั้งเป้าว่าวันนี้จะเอากำไรเท่าไหร่
  • ไม่รู้ว่าถ้าขาดทุนจะยอมเสียเท่าไหร่ดี (ไม่มี SL ชัดเจน)
  • พอเห็นกำไรก็ตื่นเต้น เห็นขาดทุนก็กลัว เลยตัดสินใจด้วยอารมณ์ล้วนๆ

2. กลัวมากเกินเหตุ

ใครๆ ก็กลัวขาดทุนกันทั้งนั้นแหละครับ แต่ถ้ากลัวมากไป มันก็จะทำให้เราไม่กล้าถือออเดอร์ ทั้งที่เราวิเคราะห์แล้วว่าราคาน่าจะไปต่อได้อีก ส่วนใหญ่เกิดจาก…

  • เคยโดนมาหนักๆ เลยกลัวติดตัว ฝังใจ
  • ลงเงินเยอะเกินไป พอราคาขยับนิดหน่อย ใจมันก็ไม่นิ่งครับ (ตอนผมเริ่มเพิ่ม lot แรก ๆ ก็มีอาการนี้เช่นกัน)
  • ไม่ค่อยมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง กลัวว่ากำไรที่มีอยู่จะกลับไปเป็นลบ

ตัวอย่างการขายหมู

3. อ่านกราฟไม่ค่อยแม่น

เรื่องนี้สำคัญมากครับ ถ้าเรายังอ่านกราฟไม่ค่อยออก มันก็เหมือนกับเราเดินในที่มืด ไม่รู้ว่าราคาจะไปทางไหนต่อ เลยทำให้…

  • มองไม่ออกว่าตอนนี้เทรนด์เป็นยังไง ขาขึ้นหรือขาลงกันแน่
  • ใช้อินดิเคเตอร์ไม่เป็น หรือใช้ไม่ถูกจังหวะ
  • ไม่รู้ว่าแนวรับแนวต้านอยู่ตรงไหน
  • แยกไม่ออกว่านี่มันเทรนด์จริงๆ หรือแค่ย่อตัวชั่วคราว

4. โลภกับกลัวสลับไปสลับมา

อาการนี้อันตรายมากครับ คือจะเป็นๆ หายๆ บางทีก็กลัวจนไม่กล้าเทรด บางทีก็กล้าจนลืมตัว มักจะเจอแบบนี้…

  • พอควรจะกล้าก็ดันกลัว พอควรจะกลัวก็ดันไปกล้าซะงั้น
  • พอขาดทุนก็เพิ่ม lot อัด lot หวังจะแก้มือ พอขาดทุนก็ขาดทุนเยอะ ทีนี้พอเข้าถูกทางก็ดันไปกด lot เล็ก ได้กำไรกลับมาไม่เท่ากับที่เสียไปอีก..
  • ตั้งแผนไว้ดิบดี แต่พอเทรดจริงไม่ทำตามเลย

แล้วการขายหมูมันส่งผลเสียยังไงบ้าง?

มาดูกันครับว่าการขายหมูนี่ มันไม่ได้แค่ทำให้เราพลาดกำไรที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อการเทรดในระยะยาวของเราอย่างร้ายแรงด้วย

1. ผลกระทบต่อกระเป๋าตังค์

เรื่องเงินๆ ทองๆ นี่มันเจ็บปวดจริงๆ ครับ เพราะ เราจะพลาดโอกาสการทำกำไรก้อนใหญ่ๆ ไป ทั้งที่วิเคราะห์ถูกแล้ว ผลตอบแทนที่ได้มันน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเยอะมาก (ROI ต่ำกว่าที่ตั้งเป้า) ต้องมานั่งเทรดถี่ขึ้น เข้าออกบ่อยขึ้น เพื่อให้ได้กำไรตามเป้าที่ตั้งไว้

2. ผลกระทบต่อจิตใจ

อันนี้หนักกว่าเรื่องเงินอีกนะครับ เพราะมันกระทบกับความรู้สึก ทำให้เราเริ่มที่จะไม่มั่นใจในระบบเทรดที่ใช้อยู่ ทั้งที่มันทำกำไรได้ดีอยู่แล้ว บางทีก็อยากเทรดแก้มือ เอาคืนให้ได้ (อันนี้อันตรายมากๆ) และพอจะเข้าเทรดครั้งต่อไปก็ลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวจะขายหมูอีก

ผลกระทบพวกนี้มันเหมือนลูกโซ่นะครับ พอใจไม่นิ่ง มันก็ยิ่งทำให้เทรดพลาดง่ายขึ้นไปอีก

แล้วจะแก้อาการขายหมูยังไง?

ผมรวบรวมวิธีแก้อาการขายหมูจากประสบการณ์ของตัวเองฝากครับ เป็นวิธีการแก้อาการขายหมูที่ดีที่สุดในความคิดของผม มีดังนี้ครับ

1. ต้องมีระบบเทรดที่ชัดเจน

อันดับแรกเลยนะครับ เราต้องมีระบบที่ชัดเจน ไม่ใช่เทรดไปวันๆ เห็นอะไรก็เทรดไปตามอารมณ์ ต้องมีจุดเข้า-ออกที่ชัดเจน รู้ว่าจะเข้าเทรดตรงไหน ออกตรงไหน มีแผนสำรองไว้รับมือทุกสถานการณ์

หากใครยังไม่มีระบบเทรดที่ทำกำไรได้สามารถค้นหาระบบเทรดจาก Website ของเราได้ครับ (คลิ๊กเพื่อดูระบบเทรดทั้งหมด) รวบรวมไว้หลายตัว และแบ่งตามประเภทสไตล์การเทรดเอาไว้ให้เรียบร้อยเลย

2. จัดการเงินทุนให้ดี

เรื่องเงินๆ ทองๆ นี่ต้องวางแผนให้ดีครับ เช่น ตั้ง Risk:Reward ให้ชัดเจน เช่น ยอมเสีย 1 ต้องได้กำไร 2 หรืออย่าโลภมาก เทรดแค่ 1-2% ของพอร์ตต่อครั้งก็พอ หรืออีกทางหนึ่งคือแบ่งเทรดเป็นล็อตเล็กๆ (Scaling) จะได้ไม่เครียดมาก

3. ใช้เวลาเป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจ

Time Exit เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งเครียดว่าจะออกตรงไหนดีครับ ยกตัวอย่างเช่น กำหนดเวลาถือออเดอร์ให้ชัด เช่น จะถือไม่เกิน 4 ชั่วโมง, ดู Session ให้ดี บางช่วงราคาวิ่งดี บางช่วงไม่น่าเข้าเทรด

4. อย่าลืมจัดการเรื่องจิตใจ

  • เรื่องอารมณ์: เทรดตามแผนอย่างเดียว ห้ามนอกลู่นอกทาง ถ้ารู้สึกไม่พร้อม พักก่อนก็ได้ ตลาดเทรดได้ทุกวันครับ
  • จดบันทึก: ทำ Journal ให้เป็นระบบ เพื่อที่เราจะได้มาวิเคราะห์ว่าพลาดตรงไหน จะได้ปรับแก้ไข รวมไปถึงดูพัฒนาการการเทรดของเราด้วยครับ
  • พัฒนาตัวเองตลอด: หาความรู้ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ฝึกซ้อมกับ Demo Account ก่อน หรือง่ายก็เข้าไปคุยในชุมชนเทรดเดอร์ดูครับ จะได้อะไรใหม่ ๆ เยอะเลย

ขายหมู อย่างไรก็ดีกว่าติดดอย

ติดดอย

เรื่องของการขายหมูนี่ บอกเลยครับว่าไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือระดับเซียนขั้นไหนก็หนีไม่พ้น เพราะมันเป็นเรื่องของจิตวิทยา แต่ละคนก็มีความกลัวไม่เท่ากัน บางคนกล้ามาก บางคนขี้กลัวสุดๆ เลยทำให้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวที่จะมาแก้อาการขายหมูได้

แต่ยังไงสำหรับผม การขายหมูก็ดีกว่าติดดอยแน่ๆ เพราะยังได้กำไร ถึงจะน้อย แต่ก็ยังเป็นบวก ต่างจากติดดอยที่ติดลบแถมไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่ เงินทุนก็ไม่จม สามารถเอาไปเทรดรอบใหม่ได้ทันที ไม่ต้องรอราคากลับมาแบบตอนติดดอย

บอกตามตรงนะครับ… บางทีถึงจะใช้เทคนิคที่ได้นำเสนอไปในบทความพวกนี้แล้ว เราก็ยังขายหมูได้อยู่ดี ตลาดมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ

สรุป

การขายหมู คือ การปิดในแดนบวก ซึ่งต่อให้เป็นการบวกแค่จุดเดียว ก็ถือว่าเป็นบวกอยู่ดี สะสมไปเรื่อยๆก็ดีกว่าขาดทุน การขายหมูคือการเสียกำไรที่ได้ไป ทั้ง ๆ ที่เราลืมไปว่าการขายหมู บางทีก็เป็นการช่วยรักษาพอร์ตของเราให้มีชีวิตรอดเพื่อการเทรดในวันพรุ่งนี้ (หลักการควบคุมความโลภ) ระหว่างทุกข์ใจเพราะขายหมู กับทุกข์ใจเพราะออเดอร์ติดลบ (ติดดอย) คุณคิดว่าอันไหนน่าจะดีกว่ากัน…

เป็นอย่างไรครับกับคำว่า “ขายหมู” คำง่าย ๆ แต่กินใจมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเทรด forex หรือแม้แต่คนที่มีการเทรดกันอย่างเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เกิดอาการขายหมูได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นอย่าขายหมูบ่อยๆนะครับ เดี๋ยวกำไรที่ควรได้จะไม่ได้กันเสียเปล่าๆ

ทีมงาน: forexthai.in.th

 

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ