Rounding Pattern เป็นรูปแบบกลับตัว (Reversal Pattern) คล้ายกับรูปแบบ Saucer (จากรองถ้วย) แต่จะมีรูปแบบที่โค้งที่ลึกกว่า คล้ายกับครึ่งวงกลม มีวิธีการเข้าเทรดและเป้าหมายทำกำไรที่ชัดเจน มีความแม่นยำสูงคล้าย ๆ กับแพทเทิร์นสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยม
เนื่องจากกราฟจะเคลื่อนตัวเป็นคลื่น แต่แพทเทิร์นรูปแบบนี้มีลักษณะโค้งกลม ดังนั้นกราฟอาจจะไม่ได้สวยงามตามแพทเทิร์น แต่รูปแบบของแพทเทิร์นเป็นการเปรียบเทียบและชี้ให้เห็นว่า ถ้ากราฟลักษณะแบบนี้ นั่นมีนัยสำคัญซ่อนอยู่
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Rounding Pattern คืออะไร
รูปแบบ Rounding คือแพทเทิร์นที่เกิดขึ้นได้ทั้งในแนวโน้มขาขึ้นและขาลง เพราะเป็นรูปแบบกลับตัว ก่อนที่จะเปลี่ยนแนวโน้ม ลักษณะคล้ายกับครึ่งวงกลม มีขนาดที่กว้างใหญ่ และมีเป้าราคาตามสัดส่วนของความลึก
นอกจากจะเกิดขึ้นในแนวโน้มหลัก ในแนวโน้มรองเช่นช่วงพักตัว ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพียงราคามีรูปแบบการเคลื่อนที่คล้ายกับครึ่งวงกลัม และจะมีเส้น Nickline หรือเส้นแนวรับแนวต้าน ที่จะเป็นตัวแบ่งครึ่งและยืนยันว่า กราฟกำลังจะไปต่อในไม่ช้า
จึงเป็นจุดที่เทรดเดอร์สามารถเข้าเทรด Buy หรือ Sell ก่อนที่กราฟจะกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้มในที่สุด และมีเป้าราคาที่ชัดเจน มีโอกาสชนะสูง
วิธีคิดของคนในอดีตและปัจจุบันอาจจะมีความคล้ายคลึงกัน
ทำไมจะต้องเทรดด้วย Rounding
เทรดเดอร์หลายคน หาจังหวะในการเข้าเทรดให้ได้ตั้งแต่ต้นแนวโน้ม บ่อยครั้งที่ไม่สามารถระบุได้ว่า จะเข้าเทรดด้วยเหตุผลใด การเทรดด้วยแพทเทิร์นการันตีได้ว่า เป็นรูปแบบซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด จากพฤติกรรมหรือปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่งผลให้กราฟเคลื่อนที่ตามรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นมา
Rounding Top คืออะไร
รูปแบบ Rounding Top เป็นจุดกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้ม ลักษณะคล้ายครึ่งวงกลมคว่ำ แรกเริ่มอาจจะมองไม่ออก เพราะคล้ายกับไซด์เวย์ แต่จะคล่อย ๆ โค้งขึ้นและลงในเวลาต่อมา โดยจะมีเส้นแนวรับเพื่อยืนยันการกลับตัวอย่างสมบูรณ์
แสดงให้เห็นว่ากราฟพยายามที่จะขึ้นต่อ แต่มีแรงขายค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ เกิดการสู้กันของแรงทั้งสองฝั่ง และในที่สุดก็ไม่มีนักลงทุน หรือมีแรงรับซื้อที่น้อยลง จึงทำให้รับซื้อไม่อยู่และหลุดแนวรับในที่สุดนั่นเอง
การสร้างรูปแบบ Rounding Top
ในแนวโน้มขาขึ้น กราฟพยายามสร้าง Swing-High แต่ด้วยแรงซื้อไม่สามารถเอาชนะแรงขายได้ เมื่อเกิดการสู้กันระหว่างทั้งสองแรง แต่ก็ยังไม่มีแรงใดที่โดดเด่น ก่อนที่แรงขายจะค่อย ๆ เอาชนะแรงซื้อ จึงเกิดรูปแบบคล้ายกับครึ่งวงกลมคว่ำ และเมื่อราคาหลุดแนวรับ จึงเป็นการกลับตัวตามรูปแบบ
Trade Setup ด้วย Rounding Top
- Sell เมื่อราคาหลุดแนวรับ
- Stop Loss เหนือ Swing ก่อนหน้าก่อนที่ราคาจะ Breakout
- Target หนึ่งเท่าระหว่างแนวรับ ไปจึงถึงยอด Top
Rounding Bottom คืออะไร
รูปแบบ Rounding Bottom เป็นจุดกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้ม ลักษณะคล้ายครึ่งวงกลมหงาย แรกเริ่มอาจจะมองไม่ออก เพราะคล้ายกับไซด์เวย์ แต่จะคล่อย ๆ โค้งลงและโค้งขึ้นในเวลาต่อมา โดยจะมีเส้นแนวต้านเพื่อยืนยันการกลับตัวอย่างสมบูรณ์
แสดงให้เห็นว่ากราฟพยายามที่จะลง แต่มีแรงซื้อค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ เกิดการสู้กันของแรงทั้งสองฝั่ง และในที่สุดก็ไม่มีนักลงทุน หรือมีแรงขายที่น้อยลง จึงทำให้แรงขายต้านไม่อยู่ และทะลุผ่านเส้นแนวรับในที่สุด
เดือนหงายเดือนคว่ำ อาจจะเป็นสัญญาณในการเข้าเทรด
การสร้างรูปแบบ Rounding Bottom
ในแนวโน้มขาลง กราฟพยายามสร้าง Swing-Low แต่ด้วยแรงขายไม่สามารถเอาชนะแรงซื้อได้ เมื่อเกิดการสู้กันระหว่างทั้งสองแรง แต่ก็ยังไม่มีแรงใดที่โดดเด่น ก่อนที่แรงซื้อจะค่อย ๆ เอาชนะแรงขาย จึงเกิดรูปแบบคล้ายกับครึ่งวงกลมหงาย และเมื่อราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ จึงเป็นการกลับตัวตามรูปแบบ
Trade Setup ด้วย Rounding Bottom
- Buy เมื่อราคา Breakout แนวต้านขึ้นไปได้
- Stop Loss ใต้ Swing ก่อนหน้าก่อนที่ราคาจะ Breakout
- Target หนึ่งเท่าระหว่างแนวรับ ไปจึงถึงยอด Bottom
ข้อดีและประโยชน์ของ Rounding Pattern
- เป็นรูปแบบกลัวตัวเปลี่ยนแนวโน้ม นอกจากการเก็บกำไรตามระบบแล้ว เทรดเดอร์ยังสามารถรันเทรนด์ได้อีกด้วย เพราะการเทรดด้วยแพทเทิร์นนี้ เป็นการเข้าออเดอร์ตั้งแต่ต้นเทรนด์
- เป็นแพทเทิร์นที่เกิดขึ้นได้บ่อยเช่นเดียวกัน ยิ่งกราฟโค้งลึกเท่าไหร่ ถือว่าเป็นการสะสมแรงหรือพลังงาน ทำให้เป้าหมายในการทำกำไรไกลเท่านั้น
- เป็นสัญญาณในการเทรดที่มีจุดเข้าตั้งแต่ต้นเทรนด์
ข้อควรระวัง
- กราฟที่เกิดขึ้นในตลาด Forex อาจจะไม่โค้งสวยงามมากนัก อาจจะทำให้เทรดเดอร์เข้าใจผิดพลาดได้
- ฝึกเทรดหรือมองกราฟเพื่อหาแพทเทิร์นนี้บ่อย ๆ จะช่วยให้เข้าใจแพทเทิร์นได้มากยิ่งขึ้น
- รูปแบบจะคล้ายกับ Saucer (จากรองถ้วย) แต่จะมีลักษณะที่โค้งลึกกว่า
ทฤษฎีจะเกิดขึ้นได้จริง ก็ต่อเมื่อนำไปปฏิบัติ
สรุป
Rounding Pattern เป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์น ที่ทำกำไรได้ดีไม่แพ้รูปแบบสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมเลย เพียงแต่จะอยู่ในรูปแบบของการโค้งมน คล้ายกับครึ่งวงกลม โดยมีเส้นแบ่งคือแนวรับหรือแนวต้าน มีเป้าราคาที่ชัดเจน สำหรับการเทรดด้วยรูปแบบนี้
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งการเปลี่ยนแนวโน้ม และช่วงพักตัว และมีโอกาสกลับตัวสูงตามสัญญาณของแพทเทิร์น ทำให้เทรดเดอร์สามารถหาจุดเข้าได้ทันทีที่เปลี่ยนแนวโน้ม
เป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์นหรือกลยุทธ์การเทรด ที่เทรดเดอร์จะต้องมีเก็บติดกระเป๋าเครื่องมือการเทรดไว้ เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสทำกำไรเมื่อเกิดสัญญาณหรือแพทเทิร์นขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมนำไปฝึกฝนให้ชำนาญด้วยล่ะ
รูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ นอกจากพฤติกรรม ควรใช้จับกับสถิติ