อินดิเคเตอร์ Rate Of Change หรือ ROC คือ หนึ่งในเครื่องมือประเภทโมเมนตัม ที่จะคำนวณการเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ใช้วัดโมเมนตัม ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม โอกาสกลับตัวที่จะเกิดขึ้น นับว่าเป็นเครื่องมือเดียวสารพัดประโยชน์ก็ว่าได้
ROC มีการทำงานอย่างไร
เส้น 0 คือเส้นกลางของเครื่องมือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เส้นตัดขึ้นไปอยู่เหนือ 0 แสดงว่ามีแรง Buy และกราฟมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง และเมื่อเส้นขัดลงต่ำกว่า 0 แสดงว่ามีแรง Sell และกราฟมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น เป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังค่าที่ให้มาคือ 12
ความขัดแย้งของราคา กราฟทำจุดสูงสุดขึ้นไปเรื่อย ๆ ในระหว่างเดียวกัน ROC ทำจุดสูงสุดต่ำลง หรือกราฟทำจุดต่ำลง ในระหว่างเดียวกัน ROC ยกจุดต่ำขึ้น เป็นสัญญาณ Divergence มีโอกาสที่จะกลับตัวหรือพักตัวนั่นเอง
Overbought และ Oversold หรือสภาวะซื้อมากเกินไปและซื้อขายมากเกินไป เมื่อใดก็ตามที่เกินสัญญาณเหล่านี้ จะมีการกลับตัวของราคาเสมอ
ความเข้าใจ สำคัญกว่าการท่องจำ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
สูตรคำนวณ ของ ROC
นับว่า ROC เป็นอินดิเคเตอร์ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด มีสูตรการคำนวณอย่างตรงไปตรงมาดังต่อไปนี้
- ROC = [(Close – Close n periods ago) / (Close n periods ago)] * 100
ประโยชน์ของ ROC
- สามารถใช้งานได้สารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการบอกแนวโน้ม ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม สภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
- ไม่จำเป็นต้องใช้อินดิเคเตอร์หลายตัวให้สับสน เพียงตัวเดียวจบ
- มีให้ใช้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Tradingview และ MT5
ข้อควรระวัง
- แม้จะให้สัญญาณได้หลากหลาย แต่สัญญาณเหล่านี้ควรใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อเป็นการยืนยันในการเข้าเทรด
- เทรดเดอร์ควรฝึกฝนให้ชำนาญเสียก่อน ที่จะใช้เทรดในตลาดจริง
ตัวอย่าง วิธีนำไปใช้กับการเทรด
ตัวอย่างที่ 1
จากในภาพ ตัวอย่างที่ 1 แสดงให้เห็นว่าเส้น 0 เป็นจุดกึ่งกลางของค่าเฉลี่ย โดยค่าที่ให้มากับอินดิเคเตอร์ใน Tradingview คือ 9 ส่วนใน MT5 คือ 12 หมายความว่าใช้ 9 หรือ 12 แท่งย้อนหลังในการคำนวณ เป็นค่าเฉลี่ยของวันก่อนหน้า เทรดเดอร์สามารถปรับตั้งค่าเองได้
เมื่อใดที่เส้นอยู่เหนือ 0 แสดงว่าราคาฝั่งซื้อหรือ Buy มากกว่าฝั่ง Sell และเมื่อใดที่เส้นอยู่ต่ำกว่า 0 แสดงว่าราคาฝั่ง Sell มากกว่าฝั่ง Buy แน่นอนว่าการเทรดตามเทรนหรือแนวโน้ม จะปลอดภัยกว่าเทรดสวนเทรน ดังนั้นเทรดเดอร์อาจจะใช้สิ่งนี้เพื่อประกอบการพิจารณา เช่น
กราฟในแนวโน้มใหญ่มีทิศทางอะไร แล้วใช้แนวโน้มจากการตัดเส้น 0 เป็นจุดเข้า จากในภาพเป็นแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่อินดิเคเตอร์ขึ้นมาตัดเส้น 0 และตัดลง จะใช้จุดนี้ในการ Sell ตามแนวโน้มขาลง นับว่าเป็นจุดเข้าที่ดี
เทรนด์คือเพื่อนที่ดีที่สุด
ตัวอย่างที่ 2
จากในภาพ ตัวอย่างที่ 2 สัญญาณ Overbought และ Oversold นับว่าเป็นสัญญาณที่เชื่อถือได้และเกิดขึ้นบ่อย เพราะทุกครั้งที่มีสัญญาณนี้ จะเกิดการกลับตัวอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าอินดิเคเตอร์นี้อาจจะไม่ได้มีเส้นกำหนดมาให้ แต่เทรดเดอร์สามารถเพิ่มเองได้
โดยการสังเกตระดับราคาว่ามีบริเวณใดบ้างที่เมื่อมีราคามาแตะบ่อย ๆ จากในภาพใช้ระดับโดยประมาณที่ 1.00 กับ -1.00 เพื่อใช้วัดสภาวะซื้อมากเกินไป หรือขายมากจนเกินไป
ตัวอย่างที่ 3
จากในภาพ ตัวอย่างที่ 3 สัญญาณ Divergence อีกหนึ่งสัญญาณที่เกิดขึ้นบ่อย และมีความเชื่อถือได้ คือความขัดแย้งของราคา และเมื่อเกิดขึ้นในทุกครั้ง ก็จะมีการกลับตัวตามมา โดยสังเกตุยอดสวิงของราคาและอินดิเคเตอร์ ว่ามีมีความสอดคล้องกันหรือไม่ และเมื่อใดที่มีสัญญาณเกิดขึ้น เทรดเดอร์เตรียมหาจังหวะในการเข้าเทรดได้เลย
วิธีเปิด ROC ขึ้นมาใช้
อินดิคเตอร์ส่วนใหญ่ มีให้ใช้ในโปรแกรมหรือกระดานเทรด ที่ได้รับความนิยม ROC ก็เช่นกัน มีให้ใช้ทั้งใน Tradingview และ MT5 และโปรแกรมเทรดอื่น ๆ อีกมากมาย
วิธีเปิดใช้ใน Tradingview
ใน Tradingview นับว่าเป็นกระดานเทรด หรือโปรแกรมเทรดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้วิเคราะห์กราฟได้ทุกตลาด และในการเทรด Forex ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน วิธีการเปิดให้คลิกไปที่ อินดิเคเตอร์ จากนั้นจะมีหน้าต่างให้ค้นหา ให้ค้นหาคำว่า ROC จะมีตัวเลือกอินดิเคเตอร์ สามารถคลิกเลือกได้เลย
วิธีเปิดใช้ใน MT5
ในโปรแกรม MT4 จะยังไม่มีให้ใช้ แต่เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้โปรแกรมเทรด ที่รองรับในทุก ๆ โบรกเกอร์ได้ใน MT5 มีวิธีเปิดใช้งานดังต่อไปนี้
- มองไปทางซ้าย หาคำว่า Indicator จากนั้นให้กด + เพื่อขยายตัวเลือก
- มองหาคำว่า Examples จากนั้นให้กด + เพื่อขยายตัวเลือกอีกครั้ง
- หาคำว่า ROC ทำการแดรกเมาส์เข้าไปในกราฟ
- จะมีหน้าต่างให้ปรับตั้งค่า โดยค่าที่ให้มาคือ Period 12 หรือนำ 12 แท่งย้อนหลังมาคำนวณ เทรดเดอร์สามารถปรับตั้งค่าได้ตามต้องการ
- อินดิเคเตอร์พร้อมใช้งานในทันที
สรุป Rate Of Change (ROC) มีไว้ ทำกำไรทุกกระบวนท่า
ROC คือ อินดิเคเตอร์สารพัดประโยชน์ ที่เทรดเดอร์สายเทคนิคจะมองข้ามไม่ได้ บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์เลือกใช้อินดิเคเตอร์หลาย ๆ ตัว หวังเพียงว่าจะใช้ให้เกิดความแม่นยำ แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องมือเหล่านั้น อาจจะกำลังทำงานทับซ้อนกันอยู่
จะดีกว่าไหม ใช้เพียงเครื่องมือเดียวแต่ให้ข้อมูลที่สำคัญและต่อการเทรด เพียงใช้ควบคู่กับทฤษฎีหรือเทคนิคใด ๆ ในการมองกราฟเท่านั้น ก็จะสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยและมีกำไรดี อย่างแน่นอน
ทีมงาน Forexthai.in.th
Pingback: การใช้ Rate Of Change ขั้นพื้นฐาน - ThaiForexBroker