RVI (Relative Vigor Index) Indicator แจกฟรี สอนการใช้งานอย่างละเอียด

Forexthai.in.th ย่อให้

• RVI (Relative Vigor Index) เป็น Indicator ที่ช่วยวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ประสิทธิภาพสูงมาก
• คล้าย Stochastic แต่ถูกปรับให้เรียบกว่า สอดคล้องกับราคามากกว่า วิเคราะห์เป็นช่วงการเคลื่อนไหวของราคาแทนเปอร์เซ็นต์
• วิธีใช้งาน: สัญญาณ Buy เมื่อเส้นเขียวตัดขึ้นเหนือเส้นแดง และสัญญาณ Sell เมื่อเส้นเขียวตัดลงใต้เส้นแดง
• สามารถเพิ่มความแม่นยำโดยใช้ร่วมกับ Stochastic เพื่อดูโซน Overbought/Oversold ประกอบ
• มีความแม่นยำสูงในการวิเคราะห์เทรนด์ แต่ควรตั้ง Stop Loss หรือ Trailing Stop และฝึกฝนใช้งานจริงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะครับ

Relative Vigor Index หรือ RVI เป็น Indicator ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเทรดเดอร์ Forex ครับ แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ แต่ประสิทธิภาพการใช้งานนั้นสูงมากเลยทีเดียว

RVI มีความคล้ายคลึงกับ Stochastic Oscillator แต่มีข้อดีคือมีความราบเรียบและสอดคล้องกับเทรนด์และการเคลื่อนไหวของราคามากกว่า สิ่งที่แตกต่างคือ แทนที่จะวัดการเคลื่อนไหวเป็นเปอร์เซ็นต์เหมือน Stochastic แต่ RVI ใช้การวิเคราะห์เป็นช่วงการเคลื่อนไหวของราคา

ในการวิเคราะห์ราคา Forex RVI ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ อีกตัวหนึ่งเลยครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีใช้ RVI กันแบบละเอียดเลย!

ข้อมูลเบื้องต้น

Relative Vigor Index หรือเรียกสั้นๆ ว่า RVI นั้นเป็นการวิเคราะห์ที่ใช้ “วัดความแข็งแกร่งของเทรนด์ โดยเปรียบเทียบกับราคาปิดของหลักทรัพย์” ถ้าเป็นตลาด Forex ก็คือ “การเปรียบเทียบกับราคาปิดของการแกว่งตัวของราคา” นั่นเองครับ

RVI ใช้การปิดที่สูงกว่าของราคาทำการคำนวณ และเมื่อราคาต่ำกว่าเดิม จึงจะทำให้ RVI เปลี่ยนทิศทาง นี่เป็นหลักการสำคัญที่ทำให้ RVI แม่นยำในการวิเคราะห์ทิศทางตลาดครับ

จากภาพข้างต้นเป็นการใส่ RVI ลงไปในกราฟ EURUSD ใน Time Frame 4 ชั่วโมงจะเห็นว่า RVI มีการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคา และเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว เพียงแค่มองแค่นี้ก็สามารถคาดเดาการใช้งานได้พอสมควร

การคำนวณ

สูตรของ RVI มีดังนี้

NUMERATOR  =  6a+(2×b)+(2×c)+d​

DENOMINATOR  =  6e+(2×f)+(2×g)+h

​RVI=SMA ของ DENOMINATOR ในช่วง  N /SMA ของ NUMERATOR ช่วง N

Signal Line  =  6RVI+(2×i)+(2×j)+k

โดยที่:

• a = Close−Open
• b = Close−Open ของ 1 แท่งก่อนหน้า  a
• c = Close−Open ของ 1 แท่งก่อนหน้า   b
• d = Close−Open ของ 1 แท่งก่อนหน้า   c
• e = High−Low ของแท่ง a
• f = High−Low ของแท่ง b
• g = High−Low ของแท่ง c
• h = High−Low ของแท่ง d
• i = RVI Value 1 แท่งก่อนหน้า
• j = RVI Value 1 แท่งก่อนหน้า i
• k = RVI Value 1 แท่งก่อนหน้า j
• N = Minutes/Hours/Days/Weeks/Months​

วิธีการใช้งาน Relative Vigor Index

สำหรับการใช้งาน RVI นั้นเป็น Indicator ที่ใช้บอกเทรนด์แต่อยู่ในรูปแบบ Oscillator ซึ่งทำให้การใช้งานนั้นค่อนข้างง่ายครับ โดยมีการใช้งานใน Order Buy และ Sell ดังต่อไปนี้:

1. สัญญาณ Buy: เกิดขึ้นเมื่อเส้น RVI สีเขียวตัดขึ้นสูงกว่าเส้น RVI สีแดง นี่ถือเป็นตลาดกระทิง เราสามารถส่งคำสั่ง Buy ได้เลยครับ
2. สัญญาณ Sell: ตรงกันข้ามกับสัญญาณ Buy คือเมื่อเส้น RVI สีเขียวตัดลงต่ำกว่าเส้น RVI สีแดง นั่นคือสัญญาณ Sell ที่ชัดเจนครับ

ปัญหาในการเทรด RVI และวิธีแก้ไข

ปัญหาหลักของการใช้ RVI คือ การที่มันไม่มีระดับ Overbought และ Oversold ปรากฏ ทำให้เราไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวของ RVI ที่เคลื่อนต่ำลงมานั้นต่ำหรือยัง และกรณีที่ราคาขึ้นสูงนั้นสูงหรือยัง

ซึ่งทำให้บางช่วงที่ RVI เปลี่ยนจากสัญญาณ Buy เป็นสัญญาณ Sell และเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว สร้างปัญหาให้กับเทรดเดอร์เพราะว่าราคานั้นไม่คงที่ สัญญาณก็ไม่คงที่

แนวทางแก้ไขปัญหานี้มี 2 แนวทางหลักๆ ครับ:

1. การตั้ง Trailing Stop: วิธีนี้จะช่วยป้องกันการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างกระทันหัน ทำให้เรารักษากำไรไว้ได้
2. การตั้ง Stop Loss: การจำกัดผลขาดทุนไว้ โดยการตั้ง Stop Loss ก็สามารถใช้ได้ผลดีเช่นกันครับ

นอกจากนี้ อีกทางแก้ไขหนึ่งสำหรับ RVI คือการใช้งานร่วมกับ Indicator ตัวอื่น เช่น Stochastic โดยใช้ Stochastic ให้สัญญาณ Overbought และ Oversold ร่วมกัน

การใช้ RVI ร่วมกับ Stochastic

การใช้ RVI ร่วมกับ Stochastic เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ได้มากขึ้นครับ โดยเราจะใช้ Stochastic เป็นตัวบอกจุด Overbought และ Oversold ในขณะที่ใช้ RVI เป็นตัวให้สัญญาณเข้าเทรด

วิธีการใช้งานคือ:

1. ดูสัญญาณ Overbought หรือ Oversold จาก Stochastic ก่อน
2. เมื่อเห็นสัญญาณแล้ว ให้รอดูการตัดกันของเส้น RVI
3. ถ้าเส้น RVI ตัดกันสอดคล้องกับสัญญาณจาก Stochastic ก็สามารถเข้าเทรดได้เลย

การใช้งานแบบนี้จะช่วยลดสัญญาณหลอกและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้นครับ

ข้อดีของ RVI ในการวิเคราะห์เทรนด์

RVI มีข้อดีที่โดดเด่นมากในการวิเคราะห์เทรนด์ครับ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ชัดเจน สัญญาณที่ได้จาก RVI จะมีความแม่นยำสูงมาก

เหตุผลที่ RVI แม่นยำในการวิเคราะห์เทรนด์คือ:

1. RVI ใช้ราคาปิดในการคำนวณ ซึ่งสะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาได้ดีกว่า
2. การเปรียบเทียบราคาปิดกับราคาเปิดช่วยให้เห็นแรงซื้อขายที่แท้จริงในตลาด
3. RVI มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ ทำให้สามารถจับจังหวะการเปลี่ยนเทรนด์ได้เร็ว

ด้วยความแม่นยำนี้ ทำให้ RVI เป็นเครื่องมือที่น่าใช้มากสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบเทรดตามเทรนด์ครับ

สรุป

การใช้สัญญาณ RVI ในการเทรด Forex นั้นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง การตั้ง Stop Loss หรือ Trailing Stop เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย นอกจากนี้ควรใช้สัญญาณจาก Indicator อื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของ RVI สูงขึ้นมากๆ

RVI เป็น Indicator ที่มีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์และหาจุดเข้าเทรดที่ดี แต่เช่นเดียวกับ Indicator ทุกตัว การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการฝึกฝนและทดลองใช้จริงครับ

ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจการใช้งาน RVI มากขึ้นนะครับ ลองนำไปใช้กันดูครับ แล้วอย่าลืมแชร์ประสบการณ์การใช้งานกันมาด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนเทรดอย่างมีกำไรครับ!

 Review Broker Forex

วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...

อ่านรีวิวโบรกเกอร์

อ้างอิง

https://www.investopedia.com/terms/r/relative_vigor_index.asp

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments