โดยปกติแล้วเมื่อเราทำการเปิดบัญชีกับทางโบรกเกอร์ที่ให้บริการในการเทรด forex ก็จะมีบัญชีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของเรา แต่ถ้าหากแบ่งเป็นประเภทแล้ว บัญชีก็จะแบ่งออกได้สองแบบคือ 1.แบบเดโม และ 2.บัญชี real สำหรับบทความนี้ เราจะไปศึกษา ถึงรูปแบบของบัญชี real กันครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
บัญชี real คืออะไร
บัญชี real คือ บัญชีที่เรานั้นเปิดขึ้นกับทางโบรกเกอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น fbs.com หรือ exness.com เป็นต้น โดยมีการฝากเงินจริงเข้าไปในบัญชีก่อนที่จะทำการเทรด forex ส่งผลให้กำไรที่เราได้รับนั้นเป็นกำไรที่สามารถถอนออกมาได้จริง และแน่นอนว่าในมุมกลับกันหากเราขาดทุน ก็จะขาดทุนจริงด้วย
รูปแบบของบัญชี real
รูปแบบของ บัญชี real นั้นมีอยู่หลากหลายชื่อ แต่หากแบบตามความคิดของผมแล้ว จะสามารถจัดแบ่งออกมาได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆดังต่อไปนี้คือ
1.แบบไม่คิดค่าธรรมเนียมการเทรด
แบบที่หนึ่งนี้ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ที่เทรด forex มักจะเลือกบัญชี real ที่มีลักษณะการเทรด forex แบบนี้ แต่จริงๆแล้วค่าธรรมเนียมของการเทรดนั้นอยู่ตรงค่า สเปรดนั่นเอง ซึ่งทำให้เราอาจไม่สามารถเลือกเทรดได้ในบางช่วงเวลา เพราะว่าการแกว่งตัวของค่านี้มีสูงมาก
2.แบบคิดค่าคอมมิชชั่น
แบบที่สองนี้เหมาะสมสำหรับคนที่มีทุนมากๆ และเปิดการเทรดในแต่ละตาที่มีจำนวน Lot สูงๆ เช่น 1.0 ขึ้นไป ซึ่งแบบนี้นั้นโอกาสที่จะทำกำไรก็จะมีสูงกว่า เพราะไม่เจอปัญหาในเรื่องของค่าสเปรด ดังนั้นหากคุณพอมีเงินแล้ว ผมแนะนำว่าเปิดบัญชี real แบบที่มีค่าคอมมิชชั่นน่าจะดีกว่าครับ
ข้อดีของการเลือก บัญชี real
1.ทำให้คุณได้เงินจริง
จะมัวไปนั่งเสียเวลาในการเทรด เดโมไปทำไมครับ อย่าเลย ผมว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องโชว์ความสามารถของตนเอง ด้วยการเลือกเทรดของจริงเลยดีกว่า การเทรดของจริง เมื่อคุณได้กำไร สิ่งที่ตามมาคือ คุณก็จะได้เงินจริงๆด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจงเลือกเทรดด้วยเงินจริงจะดีที่สุด
2.ทำให้คุณสามารถควบคุมกำไรได้
เรื่องนี้ถ้าคุณเปิด บัญชี real แบบไม่มีค่าคอม จะเข้าใจง่ายกว่า เพราะถ้าเราสามารถลบค่าสเปรดออกไปได้ โอกาสที่เราจะทำกำไร และการควบคุมผลกำไรก็จะสูงกว่าอย่างมากครับ
รูปแบบของบัญชี real
การเปิดบัญชี real หรือบัญชีจริงนั้นมีหลายขนาดให้เลือก และควรเลือกให้เหมาะสมกับ Trader แต่ละคน
บัญชีที่เปิดได้ทั่วไปได้แก่
1. บัญชีซื้อ-ขายมาตรฐาน
บัญชีซื้อ-ขายมาตรฐาน : บัญชีนี้เป็นบัญชีที่คนนิยมใช้มากที่สุด โดยทั่วไปมี Leverage อยู่ที่ 1:100 นั่นหมายความว่า คุณสามารถออก 1 Lot (100,000$) ได้เมื่อคุณมีเงินในพอร์ทเพียง 1000 เหรียญเท่านั้น
ในแต่ละ PIP จะทำให้ได้กำไร 10 ดอลล่า ในขณะที่บัญชีแบบอื่นไม่สามารถสร้างมูลค่าได้เท่านี้หากไม่ออก Lot ที่สูง แต่หากเป็นนักเทรดมือใหม่ที่คาดการณ์กราฟไปผิดทางก็ทำให้สูญเสียเยอะเช่นกัน ดังนั้น บัญชีประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้มีเงินทุนดีและมีประสบการณ์
2. บัญชีซื้อ-ขายขนาดเล็ก (Micro, Cent)
บัญชีการซื้อ-ขายขนาดเล็ก : การออก Lot จะมีค่าน้อยกว่าในบัญชีมาตรฐาน 1:10 หมายความว่า 1 Lot ในบัญชีซื้อ-ขยานขนาดเล็กมีค่า 10,000$
บัญชีขนาดเล็กมีข้อดีตรงที่ ใช้เงินลงทุนในปริมาณไม่มาก เนื่องจากมี Leverage สูงถึง 1:400 Trader หน้าใหม่สามารถเทรดได้ โดยความเสี่ยงเสียหายไม่มากนัก Trader ที่เทรดมานานแล้วก็สามารถใช้บัญชีขนาดเล็กทดสอบ ระบบเทรด ของตัวเองด้วยเงินทุนที่ไม่มาก
เมื่อมั่นใจในระบบเทรดนี้ค่อยนำไปใช้ในบัญชีมาตรฐานก็ย่อมได้ แต่หากระบบเทรดนั้นยังไม่เป็นที่พอใจ เราก็ขาดทุนจากบัญชีขนาดเล็กนี้ไม่มากนัก… จากบัญชีมาตรฐานที่เปิด 1 Lot ในบัญชีนี้คุณจะเปิด 3 Lot , 5 Lot ก็ได้แล้วแต่คุณพอใจ หากเสียหาย
มุลค่าเงินที่เสียไปก็ยังไม่เท่า 1 Lot ในบัญชีมาตรฐานอยู่ดี แต่ความเสี่ยงต่ำ กำไรที่ได้กลับมาก็ต่ำเช่นเดียวกัน นี่คือข้อเสียของบัญชีขนาดเล็ก
สรุปและข้อระลึก
ดังนั้นจงระลึกเสมอว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณตัดสินใจเปิดบัญชี real ไม่ว่าจะเปิดในรูปแบบของบัญชีมาตรฐานหรือบัญชีแบบขนาดเล็ก นั่นหมายความว่า คุณได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเริ่มต้นเทรด forex ด้วยความตั้งใจ ดังนั้นการเลือกประเภทบัญชีที่จะเปิดจึงมีความสำคัญกับนักเทรด หากคุณเป็น Trader หน้าใหม่และอยากลอง บัญชี real เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นจาก บัญชีซื้อ-ขายขนาดเล็กก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงและหาระบบเทรดที่เหมาะสมกับตัวเอง และจงอย่าลืมเรื่องของการใช้กลยุทธ์ การบริหารจัดการการเงิน รวมถึงหลักจิตวิทยาต่างๆด้วย เพื่อให้คุณสามารถทำเงินได้อย่างแท้จริงในตลาด forex นี้
ทีมงาน: forexthai.in.th