Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด Noise free system: เป็นระบบที่ช่วยยกระดับจิตวิทยาในการเทรดให้ดีขึ้น โดยใช้ Heikin Ashi และ Heikin Ashi_Exit คือเครื่องมือหลักของระบบ
- จุดเด่นของ Heikin Ashi: คือลดสัญญาณรบกวน ทำให้กราฟดูเรียบเนียนขึ้น ระบุแนวโน้มได้ง่ายขึ้น
- การระบุจุดเข้าซื้อและขาย: เมื่อแท่งเทียนเปลี่ยนสีหรือมีลักษณะเฉพาะ โดยยืนยันการกลับตัวเมื่อแท่งเทียนปิดตัวต่ำกว่าหรือสูงกว่าแท่งก่อนหน้า
- จุดอ่อนของระบบ: สัญญาณที่เกิดขึ้นอาจล่าช้ากว่าราคาในตลาดจริงและการเทรดในตลาด Sideway อาจให้สัญญาณผิดพลาดได้บ่อย
- เป้าหมายของระบบ: คือการช่วยให้เทรดเดอร์ทุกระดับประสบความสำเร็จ โดยเป็นตัวช่วยลดความสูญเสียจากอารมณ์และความผิดพลาดในการตัดสินใจ
ระบบเทรด Noise free system เป็นระบบที่นำเสนอแนวทางในการจัดการกับจิตวิทยาในการเทรด และใช้เครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Heikin Ashi และ Heikin Ashi_Exit เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มาพอสมควรแล้ว สามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้ไม่ยาก ไปพิจารณารายละเอียดในด้านต่าง ๆ ของระบบเทรดตัวนี้กันเลย
ข้อมูลเบื้องต้น
Noise free system ตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยขจัดสิ่งรบกวนจิตใจในการเทรด ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจก่อนการเทรด (จิตวิทยา) โดยที่เทรดเดอร์ในตลาด Forex จะมีถึงประมาณ 95% เทรดขาดทุน ส่วนที่ประสบความสำเร็จมีเพียงแค่ 5% เท่านั้น ระบบเทรดตัวนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถเทรดประสบความสำเร็จได้มากขึ้นนั่นเอง

ส่วนประกอบสำคัญในการเทรด Forex
พื้นฐานของการลงทุนในตลาด Forex พอจะแบ่งสัดส่วนที่สำคัญได้ดังนี้
- กลยุทธ์สำหรับการเทรด 30%
- เงินทุน 30%
- การจัดการเงินทุน 30%
- จิตวิทยาการเทรด 10%
แม้ว่าจิตวิทยาในการเทรดจะมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ในส่วนประกอบสำคัญของการเทรด Forex แต่สิ่งรบกวนด้านจิตวิทยามีบทบาทสำคัญมาก เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจและผลลัพธ์ของการเทรดได้เลย

7 สิ่งรบกวนการเทรดเชิงจิตวิทยา
สิ่งรบกวนทางจิตวิทยาในการเทรด Forex ที่พบได้บ่อยมี 7 อย่าง ได้แก่
- ความโลภ (Greed)
- การพยายามทำกำไรให้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง
- การเปิดสถานะการเทรดมากเกินไป (Overtrading) เนื่องจากต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น
- ไม่ยอมปิดการเทรดที่มีกำไร เพราะหวังว่าราคาจะไปต่อ
- ความกลัว (Fear)
- กลัวการสูญเสียเงินทุนจนไม่กล้าตัดสินใจเปิดออเดอร์
- การปิดการเทรดเร็วเกินไป ทั้งที่ยังสามารถทำกำไรได้มากขึ้น
- กลัวพลาดโอกาส (FOMO – Fear of Missing Out) จนตัดสินใจเข้าตลาดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจน
- การแก้แค้นตลาด (Revenge Trading)
- เมื่อขาดทุนและพยายามเปิดการเทรดใหม่ทันทีเพื่อเอาทุนคืน
- การเทรดด้วยอารมณ์โกรธหรือผิดหวัง ส่งผลให้ขาดการวิเคราะห์ที่รอบคอบ
- ความมั่นใจเกินไป (Overconfidence)
- หลังจากทำกำไรติดต่อกันหลายครั้ง อาจเกิดความมั่นใจเกินไปจนละเลยการบริหารความเสี่ยง
- การเพิ่มขนาดการเทรด (Lot Size) โดยไม่พิจารณาความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
- การขาดวินัย (Lack of Discipline)
- ไม่ปฏิบัติตามแผนการเทรดที่กำหนดไว้
- ละเลยการตั้งจุด Stop Loss หรือ Take Profit
- เปิดเทรดโดยอาศัย “ความรู้สึก” มากกว่าเหตุผล
- การรับมือกับความผิดหวัง
- เมื่อการเทรดไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง อาจทำให้รู้สึกท้อแท้และเสียสมาธิ
- ความผิดหวังซ้ำ ๆ อาจลดความมั่นใจและทำให้เสียศรัทธาในกระบวนการเทรด
- การขาดสมาธิ (Distraction)
- สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเทรด เช่น มีเสียงรบกวน หรือเทรดในช่วงที่อารมณ์ไม่ปกติ
- การพึ่งพาข้อมูลข่าวสารที่มากเกินไปจนทำให้เกิดความสับสน

เครื่องมือที่ใช้
ระบบเทรด Noise free system จะใช้เครื่องมือ 2 ตัว คือ
- Hiken Ashi: เป็นแท่งเทียนแบบค่าเฉลี่ย
- Hiken Ashi_Exit: เป็นตัวที่ถูกพัฒนาต่อยอดจาก Hiken Ashi เพื่อหาจุดออกที่ดี
Hiken Ashi คืออะไร?
Hiken Ashi แปลว่า “แท่งเทียนค่าเฉลี่ย” ในภาษาญี่ปุ่น เป็นอินดิเคเตอร์ที่สร้างขึ้นจากการคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดของแต่ละแท่งเทียน
จุดเด่น
- ลดสัญญาณรบกวน: ทำให้กราฟดูเรียบเนียนขึ้น มองเห็นแนวโน้มชัดเจนขึ้น
- ระบุแนวโน้ม: ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุแนวโน้มขาขึ้นและขาลงได้ง่ายขึ้น
- ยืนยันสัญญาณ: สามารถใช้ยืนยันสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ได้

การใช้งาน
- ระบุจุดเข้าซื้อและขาย: เมื่อแท่งเทียน Hiken Ashi เปลี่ยนสีจากแดงเป็นเขียว แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้น และเมื่อเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง
- ยืนยันการกลับตัว: เมื่อแท่งเทียน Hiken Ashi ปิดตัวต่ำกว่าแท่งก่อนหน้าในขณะที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แสดงว่าอาจเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม
การตีความพารามิเตอร์ตามกรอบเวลา
- กรอบเวลาสั้น: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะสั้น (Scalping หรือ Day Trading) จะเห็นรายละเอียดของการเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาอันสั้น
- กรอบเวลายาว: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะกลางถึงระยะยาว (Swing Trading หรือ Position Trading) จะเห็นภาพรวมของแนวโน้มในระยะยาวได้ชัดเจนขึ้น
Hiken Ashi_Exit คืออะไร?
Hiken Ashi_Exit เป็นอินดิเคเตอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Hiken Ashi โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อระบุจุดออกจากการเทรด
หลักการทำงาน
- สัญญาณขาย: เมื่อราคาปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Hiken Ashi
- สัญญาณซื้อ: เมื่อราคาปิดสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Hiken Ashi

การใช้งาน
- ลดความเสี่ยง: ช่วยให้เทรดเดอร์ออกจากการเทรดเมื่อแนวโน้มเริ่มเปลี่ยนแปลง ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน
- เพิ่มผลกำไร: ช่วยให้เทรดเดอร์ล็อคกำไรได้ทันท่วงที
การตีความพารามิเตอร์และผลกระทบ
- กรอบเวลาสั้น: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าและออกจากตลาดอย่างรวดเร็ว จะได้สัญญาณบ่อยครั้ง แต่สัญญาณอาจมี Noise สูง
- กรอบเวลายาว: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือครองออเดอร์นานขึ้น จะได้สัญญาณน้อยลง แต่สัญญาณมักจะมีความแม่นยำสูงกว่า
ช่วงของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
- ค่าช่วงสั้น: สัญญาณจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา แต่ก็อาจเกิดสัญญาณปลอมได้บ่อยครั้ง
- ค่าช่วงยาว: สัญญาณจะช้าลง แต่มีความแม่นยำมากขึ้น เหมาะสำหรับกรองสัญญาณรบกวน
ตัวอย่างการตั้งค่า
- สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่: เริ่มต้นด้วยการใช้กรอบเวลา 1 ชั่วโมง และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 เพื่อทำความเข้าใจสัญญาณเบื้องต้น
- สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์: อาจลองปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์เพื่อหาค่าที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเอง เช่น หากต้องการสัญญาณที่ไวขึ้น อาจลดค่าช่วงของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ลงอีกก็ได้
เงื่อนไขการเข้าเทรด
การใช้ Heikin Ashi และ Heikin Ashi Exit ร่วมกันในการเทรด สามารถช่วยให้คุณกำหนดจุดเข้าและออกจากตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีเงื่อนไขการเข้าเทรด (Entry Conditions) ดังนี้

เงื่อนไขสำหรับ Buy (Long)
- แนวโน้มเริ่มเปลี่ยนเป็นขาขึ้น:
- แท่งเทียน Heikin Ashi เปลี่ยนจากสีแดง (ลง) เป็นสีเขียว (ขึ้น)
- แท่งเทียน Heikin Ashi มีลักษณะ “แท่งเต็ม” (ไม่มีเงาล่าง หรือมีเงาล่างน้อยมาก)
เงื่อนไขสำหรับ Sell (Short)
- แนวโน้มเริ่มเปลี่ยนเป็นขาลง:
- แท่งเทียน Heikin Ashi เปลี่ยนจากสีเขียว (ขึ้น) เป็นสีแดง (ลง)
- แท่งเทียน Heikin Ashi มีลักษณะ “แท่งเต็ม” (ไม่มีเงาบน หรือมีเงาบนน้อยมาก)
การออกจากการเทรด (Exit Conditions)
สำหรับการปิด Buy (Long Exit)
- ใช้ Heikin Ashi Exit กำหนดจุดปิด: โดยเมื่อแท่ง Heikin Ashi เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง หรือเมื่อแท่ง Heikin Ashi เริ่มมีเงายาวด้านบน แสดงถึงแรงขายเริ่มเข้ามา
- การใช้ Stop Loss และ Take Profit ร่วมกัน: โดย Stop Loss วางไว้ใต้แนวรับสำคัญ หรือใต้จุดต่ำสุดก่อนหน้า Take Profit ใช้ Fibonacci หรือระดับแนวต้านสำคัญ

สำหรับการปิด Sell (Short Exit)
- ใช้ Heikin Ashi Exit กำหนดจุดปิด: โดยเมื่อแท่ง Heikin Ashi เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว หรือเมื่อแท่ง Heikin Ashi เริ่มมีเงายาวด้านล่าง แสดงถึงแรงซื้อเริ่มเข้ามา
- การใช้ Stop Loss และ Take Profit ร่วมกัน: โดย Stop Loss วางไว้เหนือแนวต้านสำคัญ หรือเหนือจุดสูงสุดก่อนหน้า Take Profit ใช้ Fibonacci หรือระดับแนวรับสำคัญ
จุดอ่อนของระบบ
การใช้เครื่องมือทั้งสองร่วมกันในตลาด Forex ถือเป็นระบบเทรดที่ดี อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเครื่องมือก็มีจุดอ่อนที่ควรพิจารณามีดังนี้
- การหน่วงเวลาของสัญญาณ (Lagging Effect)
-
- Heikin Ashi คำนวณราคาจากข้อมูลเฉลี่ย (Open, High, Low, Close) ของแท่งก่อนหน้า ดังนั้น สัญญาณที่เกิดขึ้นอาจล่าช้ากว่าราคาในตลาดจริง (Real-Time Price) โดยเฉพาะในการเปลี่ยนแนวโน้มแบบกะทันหัน
- การเทรดในตลาด Sideway
-
- Heikin Ashi ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market) แต่ในตลาด Sideway หรือช่วงที่มีความผันผวนต่ำ สัญญาณอาจผิดพลาดได้บ่อย
- ไม่มีข้อมูลราคาที่แท้จริงใน Heikin Ashi
-
- แท่งเทียน Heikin Ashi ไม่แสดงราคาปัจจุบันที่แท้จริง (Real Price) โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับแท่งเทียนปกติ ดังนั้น คุณอาจไม่ได้เห็นราคาสูงสุด-ต่ำสุด (High-Low) ของช่วงเวลานั้นจริง ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้ง Stop Loss หรือ Take Profit

สรุป
ระบบเทรด Noise free system เป็นระบบที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาทางจิตวิทยาในการเทรด โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Heikin Ashi และ Heikin Ashi_Exit เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ลดผลกระทบจากอารมณ์ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
ระบบนี้ทำงานโดยการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดผ่านแท่งเทียนพิเศษที่ช่วยลดสัญญาณรบกวน ทำให้มองเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ก็มีข้อจำกัดอย่างเช่น การหน่วงเวลาของสัญญาณ และอาจไม่เหมาะสำหรับตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน ดังนั้น ผู้ที่สนใจควรศึกษาและทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งก่อนที่จะนำไปใช้ในการเทรดจริง
ทีมงาน: forexthai.in.th