Forexthai.in.th ย่อให้

  • ระบบเทรดตาเปล่า: ระบบเทรดที่ใช้แนวรับแนวต้านในการวิเคราะห์และเทรด Break Out  ใช้ได้กับไทม์เฟรม 15 นาทีขึ้นไป
  • หลักการเทรดเบื้องต้น:  มองไปทางซ้ายมือเพื่อดูโครงสร้างราคาและดูกรอบราคารอการเกิด Break Out จากกรอบราคาและเทรดในทิศทางเดียวกับโครงสร้างราคาที่เกิดขึ้น
  • เครื่องมือที่ใช้: เส้นแนวรับแนวต้าน
  • ข้อดี: มี RR สูง, ไม่ต้องเฝ้าจอ, ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์
  • ข้อเสีย:  ต้องใช้ประสบการณ์, มีโอกาสโดน Fake Out และพลาดโอกาสการเทรดบ่อย 

ภาพปกระบบเทรดด้วยตาเปล่า

หลักการเทรดเบื้องต้น

ระบบเทรดนี้เป็นระบบเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) โดยเราจะไม่ใช้อินดิเคเตอร์แม้แต่ตัวเดียวสิ่งที่เราต้องใช้ก็คือสายตาของเราในการดูกราฟทางซ้ายมือพร้อมกับการตีเส้นแนวรับแนวต้านรอการ Break Out ของราคาและเข้าเทรด

เครื่องมือที่ใช้เทรด

  1. เส้นแนวรับแนวต้าน

ช่วงราคาไม่มีเทรนด์ (Sideway)

ตลาด Sideway
ภาพอธิบายเกี่ยวกับตลาด Sideway และข้อดีข้อเสียของตลาดโดยย่อ

การที่เราจะใช้ระบบเทรดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสิ่งที่เราต้องเรียนรู้เลยก็คือโครงสร้างตลาดในตลาด Forex  โครงสร้างตลาดจะมีอยู่ 3 รูปแบบ

  1. ตลาดขาขึ้น (Bull Market)
  2. ตลาดขาลง (Bear Market)
  3. ตลาดไม่มีเทรนด์ (Sideway)

ในช่วงที่ตลาดเป็นเทรนด์เรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องเล่นแบบไหนเทรดอย่างไร แต่ในช่วงที่ตลาดไม่มีเทรนด์นั้นเป็นเหมือนฝันร้ายของนักเทรดมือใหม่เลยก็ว่าได้ เราจะมาทำความรู้จักกับช่วงตลาดนี้ให้ดีมากขึ้นและจะรู้ว่าเราควรรับมือกับมันอย่างไร

ช่วงเวลาที่ตลาดไม่มีเทรนด์คือช่วงที่นักลงทุนตลาดเกิดความลังเล ไม่กล้าซื้อและไม่กล้าขาย ทำให้ราคาเกิดเป็นกรอบขึ้นมานั่นเองครับ ซึ่งช่วงเวลาตลาดไม่มีเทรนด์แต่ละช่วงจะมีความยาวนานไม่เท่ากัน ปัจจัยที่จะทำให้ช่วงนี้จบลงก็คือปริมาณการซื้อ-ขาย ที่เข้ามาในตลาด ช่วงเวลาการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ หรือเกิดเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อค่าเงินครับ

ทำไมช่วงตลาดไม่มีเทรนด์ถึงทำกำไรได้ยาก?

  1. ไม่สามารถคาดเดาทิศทางของราคาได้
  2. เป็นช่วงที่ปริมาณการซื้อ-ขาย ต่ำ
  3. ในบางช่วงมีความเสี่ยงกับผลตอบแทนไม่มากพอ ทำให้ไม่คุ้มที่จะเข้าไปเทรด

ข้อดีของตลาดไม่มีเทรนด์

  1. สามารถใช้ในการวางแผนการเทรดได้ เช่น ใช้ในการตีเส้นแนวรับแนวต้านหรือเส้นแนวโน้ม
  2. สามารถเก็บกำไรในระยะสั้นได้โดยใช้ระบบการเทรด Sideway

เส้นแนวรับแนวต้าน 

เส้นแนวรับแนวต้าน
ภาพอธิบายเกี่ยวกับเส้นแนวรับแนวต้านและประโยชน์ของเส้นแนวรับแนวต้าน

เส้นแนวรับแนวต้าน (Horizontal Line) เป็นเส้นแนวนอนที่ตีขึ้นเพื่อดูกรอบการวิ่งของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง  ซึ่งการตีเส้นแนวรับแนวต้านมีประโยชน์หลายอย่างเลยทีเดียวครับ

  1. ช่วยในการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค
  2. ช่วยคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา
  3. ช่วยให้เราเห็นทิศทางของราคาในระยะสั้นและระยะยาว
  4. ใช้ในการวางแผนการเทรด

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น 

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

1. ซูมกราฟออกมาและมองไปทางด้านซ้ายของกราฟและหาโครงสร้างตลาดขาขึ้น

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

2. มองหาช่วงตลาดที่ไม่มีเทรนด์

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

3. ตีเส้นแนวรับแนวต้านเพื่อสร้างกรอบของราคาขึ้นมา

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

4. รอราคา Break Out (วิ่งทะลุ) เส้นแนวต้านที่ตีเอาไว้

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

5. รอให้ราคากลับลงมาที่เส้นแนวต้านที่เพิ่งทะลุออกมาและกลับตัว

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

6. เปิดออร์เดอร์ Buy

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

7. ตั้ง Stop loss  ใต้แท่งเทียนที่เข้าเทรด หรือ ใต้เส้นแนวต้าน

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

8. ตั้ง Take Profit ที่แนวต้านต่อไป

เงื่อนไขการเทรดขาลง 

เงื่อนไขการเทรดขาลง

1. ซูมกราฟออกมาและมองไปทางด้านซ้ายของกราฟและหาโครงสร้างตลาดขาลง

เงื่อนไขการเทรดขาลง

2. มองหาช่วงตลาดที่ไม่มีเทรนด์

เงื่อนไขการเทรดขาลง

3. ตีเส้นแนวรับแนวต้านเพื่อสร้างกรอบของราคาขึ้นมา

เงื่อนไขการเทรดขาลง

4. รอราคา Break Out (วิ่งทะลุ) เส้นแนวรับที่ตีเอาไว้

เงื่อนไขการเทรดขาลง

5. รอให้ราคากลับลงมาที่เส้นแนวรับที่เพิ่งทะลุออกมาและกลับตัว

เงื่อนไขการเทรดขาลง

6. เปิดออร์เดอร์ Sell

เงื่อนไขการเทรดขาลง

7. ตั้ง Stop loss เหนือแท่งเทียนที่เข้าเทรด หรือ เหนือเส้นแนวรับ

เงื่อนไขการเทรดขาลง

8. ตั้ง Take Profit ที่แนวรับต่อไป

ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรดตาเปล่า

ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด
ภาพสรุปข้อดีและข้อเสียของระบบเทรดเพื่อให้นักเทรดได้นำไปพิจารณาก่อนนำไปใช้งาน

ข้อดีของระบบเทรด

  1. เป็นระบบเทรดที่มี Risk Reward สูง
  2. เป็นระบบเทรดที่ไม่ต้องเฝ้าจอสามารถตั้งแจ้งเตือนหรือตั้งเปิดออเดอร์ล่วงหน้าได้
  3. ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์ระยะยาว

ข้อเสียของระบบเทรด

  1. ระบบเทรดมี Win rate ต่ำ มีโอกาสโดน Break Out หลอกบ่อยครั้ง
  2. ไม่เหมาะกับการเทรดในไทม์เฟรมเล็กกว่าไทม์เฟรม 15 นาที
  3. ต้องใช้ประสบการณ์ในการตีแนวรับแนวต้าน

คำแนะนำการใช้ระบบเทรด

คำแนะนำการใช้งานระบบเทรด
ภาพ 7 คำแนะนำการใช้งานระบบเทรดเพื่อให้นักเทรดได้นำระบบไปพัฒนาต่อยอด
  1. ใช้การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมเข้ามาช่วยในการวางแผนเทรด
  2. ปรับ Risk Reward Ratio  ให้เหมาะสมกับ Win Rate
  3. สามารถยืดหยุ่นขั้นตอนการเทรดได้เพราะราคาไม่ได้กลับลงมาทดสอบที่เส้นแนวรับแนวต้านเสมอไปทำให้มีโอกาสพลาดการเทรดได้
  4. ดูโมเมนตัมและปริมาณการซื้อ-ขาย ก่อนเข้าเทรด Break Out   เพื่อลดการโดน Fake Out
  5. ระบบนี้ควรเทรดในไทม์เฟรม 15 นาทีขึ้นไปแนวรับแนวต้านจะมีความแข็งแรงและระบบจึงมีความแม่นยำมากขึ้น
  6. นำระบบไป Back Test  ก่อนจะใช้งานจริง
  7. เรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ในการวิเคราะห์กราฟเปล่าและใช้เส้นแนวรับแนวต้าน

สรุป

ระบบเทรดตาเปล่า เป็นการใช้สายตาในการดูไปทางซ้ายของกราฟราคา(ดูอดีตที่ผ่านมา) เพื่อหาโครงสร้างตลาดและช่วงที่ตลาดไม่มีเทรนด์ในการสร้างกรอบแนวรับแนวต้านในการวางแผนเข้าเทรด ส่วนการเทรดนั้นจะเทรดเมื่อราคา Break Out จะกรอบแนวรับแนวต้านและทิศทางเดียวกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น ระบบนี้จะเหมาะกับไทม์เฟรม 15 นาทีขึ้นไปครับ เพราะว่าแนวรับแนวต้านจะเริ่มมีความแข็งแรงมากขึ้น และระบบเทรดจะเริ่มมีความแม่นยำมากขึ้นครับ

ระบบเทรดนี้จึงสามารถให้คำจำกัดความง่าย ๆ ว่า “Consideration and Breakout” เป็นระบบที่ให้ Risk Reward สูงแต่ก็แลกมาด้วย Win Rate ต่ำ และมีโอกาสพลาดการเทรดบ่อยครั้ง เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสเราสามารถตั้งแจ้งเตือนราคาหรือสามารถเปิดคำสั่งการเทรดล่วงหน้าได้ครับ

เพื่อพัฒนาระบบเทรดนี้ให้มีความแม่นยำมากขึ้น การดูโมเมนตัมของตลาดและปริมาณการซื้อ-ขาย จะลดโอกาสการโดนหลอกจาก Fake Out สุดท้ายแล้วก็อย่าลืมนำระบบไป Back Test  และ Forward Test ก่อนนำไปใช้งานจริงนะครับ เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ของตัวเองมากขึ้น

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมอัพสกิลการเทรดเพื่อนำไปต่อยอดการเทรด

อ้างอิง

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ