Forexthai.in.th ย่อให้

  • MT5 คือโปรแกรมเทรดรุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4 โดยบริษัท MetaQuote
  • มีฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เช่น timeframe เพิ่มขึ้น, รองรับการเทรดหุ้นและคริปโต, ประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • ข้อดีของ MT5 คือติดตั้งง่าย ใช้งานได้กับทุกความเร็วเน็ต เชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ได้เกือบทุกที่
  • MT5 กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่ MT4 ก็ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้เดิม
  • การเลือกใช้ MT4 หรือ MT5 ขึ้นอยู่กับความถนัดและความต้องการของแต่ละคน แต่สำหรับมือใหม่แนะนำให้เริ่มต้นกับ MT5

MT5 คือ อะไร ? ดีกว่า MT4 ไหม ?

เอาล่ะครับ เรามาถึงสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องทำความรู้จักอีกอย่างหนึ่งสำหรับการเทรด Forex ซึ่งมีความสำคัญมาก.. เพราะเป็นโปรแกรมที่ช่วยในการเทรดของคุณให้ประสบความสำเร็จ โดยโปรแกรมที่ว่านี้คือ MT5

สำหรับบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า MT5 มีข้อดีอะไรบ้าง และมันต่างจาก MT4 ยังไง เผื่อว่าถ้าคุณยังไม่ได้ลองใช้จะได้ใช้ดูนะครับ

MT5 คืออะไร? 

MT5 หรือ MetaTrader 5 คือ โปรแกรมเทรดที่ใช้ส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท MetaQuote จากประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่สร้าง MT4 (MetaTrader 4) ที่โด่งดังมาก่อนหน้านี้ และโปรแกรมเทรด MT5 มันคือก็พัฒนามาจาก MT4 อีกทีนั่นเองครับ

แต่ MT5 ไม่ใช่แค่เวอร์ชันอัพเกรดธรรมดา เพราะมันมีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้การเทรดของคุณง่ายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มีกราฟที่ยืดหยุ่นมากขึ้น มี timeframe ให้เลือกมากขึ้น และใช้ ระบบ MQL5 ที่เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้เขียน EA และ indicator ได้ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

ความสามารถใหม่ของ MetaTrader 5 อัพเดทล่าสุด!

MT5 คืออะไร forex

  • เครื่องมือทางการเงิน: MT5 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Forex อีกต่อไปแล้วครับ ตอนนี้คุณสามารถเทรดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และตราสารอนุพันธ์ได้ในที่เดียว สะดวกสุดๆ เลย
  • Hedging และ Scalping กลับมาแล้ว: ข่าวดีครับ MT5 รองรับทั้ง Hedging และ Scalping แล้ว (เนื่องจากตอนที่เปิดตัวตอนแรกนักพัฒนา MT5 ได้นำออกไป) ทำให้คุณสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดได้หลากหลายมากขึ้น
  • คำสั่งซื้อขายแบบใหม่: เพิ่มคำสั่งซื้อคงค้างประเภทใหม่ “Buy Stop limit” และ “Sell Stop limit”
  • นโยบายในการดำเนินการ: ตอนนี้คุณสามารถตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมเวลาซื้อขายในตลาดหุ้นได้ด้วย เช่น “Fill or Kill (FOK)” หรือ “Immediate or Cancel (IOC)” ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
  • จองคำสั่ง: วิเคราะห์ตลาดได้ลึกซึ้ง ด้วยการเสนอราคาระดับที่ 2 คุณสามารถเจาะลึกข้อมูลตลาดได้มากกว่าเดิม ทำให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
  • MetaEditor : พัฒนา EA หรือ Indicator ได้ง่ายขึ้น และยังอัพเดท ใน MetaTrader 5 โดยอัตโนมัติ สะดวกขึ้นมากเลยครับ
  • MQL5: : ภาษาโปรแกรมมิ่งรุ่นใหม่ MQL5 มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ๆ ให้คุณสร้าง EA และ Indicator ได้มากกว่าข้อจำกัดหลายอย่างของตัว MT4 ตรงนี้ถือเป็นการยกระดับจาก MQL4 เลยครับ
  • Time Frame: มี Time Frame ให้เลือกถึง 21 แบบ ตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 1 เดือน เก็บข้อมูลแต่ละ Time Frame ได้เพิ่มขึ้น

แต่ก็ต้องบอกว่า MT4 ยังคงได้รับความนิยมอยู่มากครับ โดยเฉพาะในหมู่เทรดเดอร์ที่คุ้นเคยกับมันแล้ว และการเลือกใช้ MT4 หรือ MT5 ไม่ได้บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์นะครับ ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ด้วย

หน้าตาโปรแกรม MT5
หน้าตาโปรแกรม MT5

ประโยชน์ และข้อดีของ MT5

1.สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วในทุกความเร็วของอินเทอร์เน็ต

ข้อดีประการแรกของโปรแกรม MT5 คือ มีความสามารถในการใช้งานได้ในทุก ๆ ความเร็วของอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัญหาข้อนี้ผมว่าคนใหม่ ๆ อาจมีความรู้สึกกังวลถ้าต้องเทรดในขณะที่อินเทอร์เน็ตไม่เอื้ออำนวย แต่ MT5 สามารถทำได้ดีกว่าตัว MT4 ทีเดียว โดยใช้ Bandwidth ในการส่งคำสั่งน้อยกว่า ทำให้ใช้งานได้รวดเร็วขึ้น

2.ติดตั้งง่ายน้ำหนักเบา

โปรแกรม MT5 พัฒนาขึ้นมาจากเวอร์ชั่น 4 มีข้อดีเพิ่มขึ้นอีกในเรื่องของความเบา ด้วยขนาดโปรแกรมที่เล็กลง ทำให้ติดตั้งได้เร็วขึ้น ไม่ค่อยเจอปัญหาโปรแกรมผิดพลาด หรือติดตั้งเสร็จแล้วเปิดใช้งานไม่ได้ แถมยังมีตัวช่วยติดตั้งที่ทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นอีกด้วย

3.เชื่อมต่อเข้ากับโบรกเกอร์ได้เกือบทุกที่

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของโปรแกรม MT5 คือ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับบรรดาโบรกเกอร์ได้เกือบทุกที่ ไม่ว่าคุณจะสมัครเป็นสมาชิกโบรกเกอร์ไหน ก็สามารถเทรด Forex ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งในปัจจุบัน MT5 รองรับการเทรดกับทุกโบรกเกอร์ในโลกนี้เรียบร้อยแล้ว

4.ติดตั้ง indicator ง่าย หรือจะทำ EA ก็ง่าย

MT5 มีอินดี้ ให้คุณเลือกมากมายประกอบการเทรด Forex รวมทั้งการติดตั้ง EA และการใช้งานก็สามารถทำได้อย่างง่าย และไม่ค่อยเกิดปัญหาการ Requote เท่าใดนัก เมื่อคุณติดตั้ง EA ลงไปบน MT5 ดังนั้นผมจึงถือว่า MT5 คืออาวุธคู่กายของบรรดานักเทรดในอนาคตกันเลยทีเดียว

MT5 คืออะไร forex

ข้อแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5

เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้งาน Metatrader กันอยู่สองเวอร์ชั่น คือ Metatrader 4 (MT4) และ Metatrader 5 (MT5) ดังนั้นเรามาดูกันครับว่ามันต่างกันอย่างไร

ลักษณะ MT4 MT5
การติดตั้ง
  • มีระบบติดต่อกับโบรกเกอร์โดยตรงและง่าย
  • แค่ใส่ Server Address ในการเชื่อมต่อและการติดตั้ง
  • เซิร์ฟเวอร์ Metaquotes trading ในปัจจุบัน มีการบรรจุเซิร์ฟเวอร์ในการเปิดบัญชีในระหว่างการติดตั้งไว้ให้แล้ว แต่การส่ง ping ไปยังเซิร์ฟเวอร์ยังคงมีปัญหาเป็นบางครั้ง
  • เพิ่ม Demo Account ได้ไม่จำกัด
จำนวนหน้าจอ/Timefreame
  • 9 Timeframe
  • 21 Timeframe ตั้งแต่เวลา 1 นาที จนถึง 1 เดือน พร้อมไม่จำกัดจำนวนหน้าจอที่ใช้ได้
  • เปิดได้ถึง 100 กราฟพร้อมกัน

 

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

(การเทรดตามข่าว)

  • ไม่มีตารางข่าว
  • มีตารางข่าวแบบละเอียดยิบ พร้อมผลกระทบและการคาดการณ์
การพาณิชย์/การตลาด
  • ต้องเข้าเว็บ MQL4.com แยกต่างหาก
  • ซื้อขายผลิตภัณฑ์ Forex ได้ในโปรแกรมเลย ผ่านแท็บ Market
อินดิเคเตอร์ และการวิเคราะห์เชิงวัตถุ
  • มี 30 ตัว

 

  • มี 38 ตัว
  • มีการเพิ่ม indicator ใหม่
  • Indicator แสดงผลเป็นวัตถุ 22 ตัว + กราฟิก 46 ตัว
การส่ง Order
  • วางได้ 2 Order + 4 Pending Order
  • วางได้ 2 Order + 4 Pending Order + 2 Stop Order
Expert Advisor
  • มีโปรแกรม MT4 Editor & Strategy Tester มาพร้อมกับโปรแกรม EA ใช้ภาษา MQL4 ทำงานเร็ว
  • ไม่สามารถนำโค้ดของ EA MT4 ย้ายไป MT5 ได้
  • มีโปรแกรม MT5 Editor ซึ่งมีการพัฒนา Strategy Tester
  • EA ถูกออกแบบด้วยภาษา C++ ทำให้มันทำการคอมไพล์ได้ช้าลง
  • มีระบบ Strategy Tester Agent Manager ปรับแต่ง EA จากภายนอกได้
อินเตอร์เฟซ
  • ง่ายต่อการแก้ไขให้เหมาะต่อการใช้งาน
  • มี One Click Trading และ Drag & Drop ใน Build 500+
  • ปรับปรุงดีไซน์ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น กล่องค้นหา แท็บข้อมูลเพิ่มเติม
  • มีระบบ One Click Trading และ Drag & Drop และอื่นๆ อีกมากมาย
การรองรับเทคนิคการเทรด
  • รองรับเทคนิคการเทรดทุกรูปแบบ แต่บางโบรกเกอร์อาจจำกัด
  • รองรับเทคนิคการเทรดทุกรูปแบบ แต่ต้องทำตามข้อกำหนด FIFO 

เหตุผลที่คนยังรักที่จะใช้ MT4 กว่า MT5

1. EA คนละภาษา ใช้ข้ามกันไม่ได้

  • MT4 ใช้ภาษา MQL4
  • MT5 ใช้ภาษา C++ ทำให้ EA ของ MT4 ไม่สามารถใช้กับ MT5 ได้เลย แถมแปลงก็ไม่ได้ด้วย เทรดเดอร์ที่มี EA ดี ๆ อยู่แล้วบน MT4 ก็เลยไม่อยากย้ายไปไหน

2. ช่วงแรกไม่สามารถทำ Hedging และ Scalping ได้

แต่ก่อน MT5 มีความเข้มงวดด้านกฎระเบียบ ไม่รองรับ Hedging และ Scalping เพราะต้องการทำตามกฎของ NFA ที่คอยกำกับดูแลตลาดการซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตลาดอนุพันธ์, Forex และ OTC Derivatives (แลกเปลี่ยน) ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ควรมีกฎแบบนี้เลย -_-

ซึ่งก็มีเทรดเดอร์ไม่ใช่น้อยๆ เลยครับ ที่ใช้เทคนิค 2 อย่างนี้ในการเทรด แต่ปัจจุบัน MT5 กลับมารองรับแล้ว ทำให้ข้อนี้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ทำให้ในอนาคต ผมคาดว่าคนน่าจะหันมาใช้ MT5 กันขึ้นมากเลยทีเดียว

3.MT4 ใช้ง่าย คุ้นเคย

ในตัวของ MT4 จริง ๆ มันก็เครื่องมือครบเกินพออยู่แล้วครับ ใช้งานง่าย คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับมันแล้ว เลยไม่อยากเปลี่ยนไปใช้อะไรใหม่ๆ

แล้ว MT5 จะแทนที่ MT4 ไหม?

สำหรับผม คำตอบคือ ยังไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ครับ แต่ MT5 กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะ

  • ลูกค้าใหม่ๆ เริ่มหันมาใช้ MT5 มากขึ้น
  • โบรกเกอร์หลายที่เริ่มผลักดัน MT5 มากกว่า MT4
  • MT5 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ยุคใหม่มากกว่า

ถ้าให้ผมแนะนำ โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดมือใหม่หรือคนที่ยังไม่ยึดติดกับ MT4 ผมว่า MT5 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ มันให้คุณมากกว่าและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในอนาคต

  • มี Timeframe และ Indicator ให้เลือกใช้มากกว่า
  • ประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่า โดยเฉพาะเวลาใช้ EA
  • อัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

แต่สุดท้ายแล้ว การเลือกใช้ MT4 หรือ MT5 ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและความต้องการของคุณนะครับ ทั้งสองแพลตฟอร์มก็ยังใช้เทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าคุณกำลังเริ่มต้นและยังไม่มีความผูกพันกับ MT4 ผมแนะนำให้ลองใช้ MT5 ดูครับ คุณอาจจะพบว่ามันตอบโจทย์การเทรดของคุณได้ดีกว่าที่คิดก็ได้

วีดีโอแนะนำการใช้ MT5

สำหรับท่านที่ต้องการชมวีดีโอแนะนำการใช้ MT5 สามารถชมด้านล่างได้เลยครับ                                     

สรุป

MT5 เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4 และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่นี้แล้ว นอกจากฟีเจอร์ที่เหนือกว่า MT4 ในหลายด้าน MT5 ยังสามารถใช้เทรดในตลาดหุ้นและคริปโตได้ด้วย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ยุคใหม่ที่ต้องการความหลากหลายและประสิทธิภาพสูง

อย่างไรก็ตาม หากคุณคุ้นเคยกับ MT4 และมีชุด EA ที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยน สุดท้ายแล้ว การเลือกใช้แพลตฟอร์มไหนควรขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของคุณ ที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาทักษะการเทรดของตัวคุณเองครับ

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments