Forexthai.in.th ย่อให้
- Money Flow Index หรือ MFI คือ indicator ที่วัดดัชนีการวัดกระแสเงิน บอกทิศทางการไหลของเงินในตลาด
- MFI เป็นการผสมผสานระหว่าง volume และ price movement มีการแกว่งระหว่าง 0-100 คล้าย RSI
- ใช้สัญญาณ Overbought/Oversold ในการเทรด โดยมักกำหนดที่ระดับ 80 และ 20
- ข้อดี: วัดทั้งราคาและ volume ช่วยจับจังหวะ reversal ได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดวิ่งในกรอบ
- ข้อเสีย: อาจให้สัญญาณหลอกในตลาดที่มีเทรนด์แรงๆ ควรใช้ร่วมกับ indicator อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ indicator อีกตัวที่ใช้ได้ดีในตลาด Forex นั่นก็คือ Money Flow Index (MFI) ครับ ตัวนี้เป็นเครื่องมือ ดัชนีการวัดกระแสเงิน ที่จะช่วยให้เทรดเดอร์อย่างเราๆ เห็นทิศทางการไหลของเงินในตลาด ว่าตอนนี้กระแสเงินนั้นไหลไปที่ไหนว่า กำลังไปทาง Buy หรือ Sell
แต่ว่าตอนใช้งานจริง ๆ มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว ดังนั้น ก่อนจะใช้งาน เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า MFI มันคืออะไร และใช้ยังไง
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
MFI คืออะไร?
Money Flow Index หรือ MFI ชื่อของมันก็บอกตรงตัวอยู่แล้วครับ ว่าเป็นการบอกดัชนีกระแสการเคลื่อนไหวของเงิน เป็น indicator ที่พยายามจะบอกเราว่า “ตอนนี้เงินมันไหลไปทางไหน” จะขึ้นหรือจะลง จะ Buy หรือ Sell
ซึ่งถ้าแบบนี้ก็น่าจะใช้ปริมาณในการคำนวณ แต่!!! มันเป็น indicator ที่อยู่ในหมวดของ Oscillator โดยมันจะวัดทั้งปริมาณการเทรดและทิศทางของราคา เรียกว่าเป็นการผสมผสานระหว่าง volume กับ price movement เข้าด้วยกัน
โดยหน้าตาของ MFI นั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างกับ RSI เลยเสียด้วยซ้ำ มันจะแกว่งไปมาระหว่าง 0-100 เหมือนกับ RSI เป๊ะ เพียงแต่ใช้ปริมาณในการคำนวณ (Volume) ซึ่งสามารถใช้ MFI ในการเทรดคล้ายคลึงกับ RSI ได้เช่นกัน นั่นคือใช้สัญญาณ Overbought และ Oversold
วิธีการคำนวณ
การคำนวณ MFI ไม่ได้มีขั้นตอนเดียว แต่เป็นหลายขั้นตอนประกอบกันครับ
-
คำนวณ Typical Price
Typical Price = (High + Low + Close) / 3
-
คำนวณ Raw Money Flow
Raw Money Flow = Typical Price x Volume
-
คำนวณอัตรากระแสเงิน Money Flow Ratio
(14 Period Positive Money Flow) / (14 Period Negative Money Flow)
- Positive Money Flow คำนวณจาก ผลรวมของ Money Flow ของทุกวันในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งราคา Typical Price อยู่สูงกว่า ราคา Typical Price ก่อนหน้า
- Negative Money Flow คำนวณจากยอดรวมของ Money Flow ของทุกวันในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่ง Typical Price อยู่ต่ำกว่า Typical Price ก่อนหน้า
-
สุดท้าย คำนวณ MFI
Money Flow Index = 100 – 100 / (1 + Money Flow Ratio)
ดูเป็นการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อนและหลายขั้นตอน แต่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเราครับ เพราะโปรแกรมเทรดส่วนใหญ่จะคำนวณให้เราอัตโนมัติอยู่แล้ว เราแค่ต้องรู้ว่ามันทำงานยังไงเท่านั้นเอง
วิธีการใช้งาน
สำหรับการใช้งาน MFI นั้นสามารถใช้งานในฐานะเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ Zone Overbought และ Oversold ข้อที่ดีของมันมาก ๆ เลยก็คือ มันไม่ใช่เครื่องมือที่คำนวณอยู่บนฐานของราคา ทำให้มันจะไม่มีภาวะที่ทำให้การเคลื่อนไหวของเทรนด์ที่เป็นแบบค่อย ๆ ทยอยลง ดังนั้น บางจุดบางช่วง MFI มีความแม่นยำกว่า RSI หรือ indicator ที่คำนวณมาจากราคาเสียอีก
วงกลมสีเหลืองและสีแดงซึ่งหมายถึงจุดให้สัญญาณเทรดของ MFI
เงื่อนไขการ Buy และ Sell
สำหรับเงื่อนไขการ Buy นั้นง่ายมาก ในภาพเป็นการใช้ MFI (7) ในกราฟ Daily ซึ่งทุกคนสามารถประยุกต์ใช้ indicator นี้ในกราฟ 4 ชั่วโมงก็ได้ แต่กราฟที่เหมาะที่สุดคือ กราฟ 1 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการวัดการสวิงของราคา ดังนั้นกรอบ 1 ชั่วโมงจึงมีความชัดเจนมาก
- ในการส่งเงื่อนไขการ Buy นั้น เราต้องทำการกำหนด Zone Overbought และ Oversold ในกราฟขึ้นมาก่อน ซึ่งกราฟดังกล่าว ทำการกำหนดโซน Overbought และ Oversold ไว้ที่ระดับ 20 % และระดับ 80 % ตามลำดับ
- โดยในภาพจะเห็นว่า ผมได้ทำเครื่องหมายวงกลมสีเหลืองและสีแดงซึ่ง ก็คือ จุดให้สัญญาณเทรดของ MFI เมื่อ MFI อยู่ต่ำกว่าโซน oversold เราจะทำการ Buy ค่าเงินนั้น
- กรณีที่ MFI เคลื่อนไหวสูงกว่า โซน Overbought เราจะทำการส่งคำสั่ง Sell ณ ราคาช่วงนั้น
ข้อควรสังเกตุสำหรับการส่งคำสั่งของ MFI นั้นจะต้องดูก่อนว่า กราฟแท่งเทียนนั้นเพิ่งเคลื่อนไหวเป็นเหตุให้ MFI เข้าสู่ overbought หรือ oversold หรือเปล่า ซึ่งเราไม่ควรจะเข้าเทรดเมื่อแท่งเทียนแรกเข้าสู่โซน ควรรอยืนยันจากแท่งที่ 2 เป็นต้นไป
ข้อดี-ข้อเสียของ Money Flow Index
ข้อดี:
- วัดทั้งราคาและ volume ทำให้เห็นภาพรวมตลาดได้ดีกว่า RSI
- ช่วยจับจังหวะ reversal ได้ดี โดยเฉพาะในตลาด ranging
ข้อเสีย:
- อาจให้สัญญาณหลอกได้ในตลาดที่มี trend แรง ๆ
- ควรใช้ร่วมกับ indicator อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
สรุป
Money Flow Index (MFI) เป็น indicator ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเทรดเดอร์ Forex ช่วยให้เราเห็นทั้งแรงซื้อ-ขายและปริมาณการเทรดในตลาด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจเทรด และข้อดีอีกอย่างขงมันก็คือ มันไม่มีผลของราคาที่ทยอยขยับลงทำให้การเคลื่อนไหวของ Oscillator ค่อนข้างคงที่และมีความสมบูรณ์ ณ จุดหนึ่ง
แต่ก็มีบ้างที่เครื่องมือนั้นผิดพลาด เพราะไม่มี indicator ไหนที่แม่นยำ 100% ดังนั้น อย่าลืมตั้ง Stop Loss ทุกครั้งที่เทรด นอกจากนี้ Money management ก็ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการพอร์ทลงทุนอีกด้วยจ้า
Review Broker Forex
วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Money_flow_index
https://www.tradingview.com/wiki/Money_Flow_(MFI)
https://www.investopedia.com/terms/m/mfi.asp
ทีมงาน: forexthai.in.th