Forexthai.in.th ย่อให้

  • คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs) คือ คู่เงินหลักที่จับคู่ระหว่างสกุลเงินหลักด้วยกันเอง ยกเว้นจับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ (USD) เช่น EUR/GBP, GBP/JPY, AUD/CAD เป็นต้น
  • ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาคู่เงินรอง ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย, สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • คู่เงินรองมีจุดเด่น คือ ความผันผวนสูงทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า แต่ก็มีจุดด้อยคือสภาพคล่องต่ำและสเปรดกว้างกว่าคู่เงินหลัก ทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่า
  • ความแตกต่างระหว่างคู่เงินหลักและคู่เงินรอง คือ คู่เงินหลักมักมีสภาพคล่องสูงกว่า, สเปรดแคบกว่า, ความผันผวนต่ำกว่าและความเสี่ยงน้อยกว่า

คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs)

บทความนี้เรามาปูพื้นฐานเกี่ยวกับตลาด Forex กันดีกว่าครับ โดยจะเน้นไปที่เรื่อง “คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs)” ครับ คู่เงินนี้มีความสำคัญยังไง? แตกต่างจากคู่เงินหลักในแง่ไหนบ้าง? พร้อมกับมีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากผู้อ่านทุกคนกันครับ


คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs) คืออะไร?

  • ในตลาด Forex คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs) หมายถึงเหล่าสกุลเงินหลักที่ไม่ได้มีการจับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ (USD) แต่จับคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ กันเอง เช่น EUR/GBP, GBP/JPY, AUD/CAD
  • คู่เงินรองถือว่ามีความสำคัญในตลาด Forex ค่อนข้างมากเนื่องจากเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถกระจายพอร์ตการลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น
  • โดยทั่วไปคู่เงินรองมักมีความผันผวนมากกว่าคู่เงินหลัก เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่น้อยกว่า ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้นแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน
  • มีสถิติที่น่าสนใจจาก fxssi เกี่ยวกับคู่เงินที่ได้รับความนิยมในการเทรดมากที่สุด แน่นอนว่าอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น EURUSD แต่เราจะพูดถึงคู่สกุลเงินรองกันบ้างว่าคู่ไหนที่เทรดเดอร์นิยมเทรดที่สุด?
    1. EURJPY มี Volume การเทรดทั้งหมด 3.93%
    2. GBPJPY มี Volume การเทรดทั้งหมด 3.57%
    3. EURGBP มี Volume การเทรดทั้งหมด 2.78%
    4. AUDJPY มี Volume การเทรดทั้งหมด 2.73%
    5. EURAUD มี Volume การเทรดทั้งหมด 1.8%
คู่เงินรอง คืออะไร
คู่เงินรอง หมายถึง คู่เงินหลักยกเว้น USD ทำการจับคู่กันเอง โดยคู่ที่ได้รับความนิยมในการเทรดมากที่สุดได้แก่ EURJPY ตามมาด้วย GBPJPY และ EURGBP วัดจาก % ปริมาณการเทรดทั้งหมดในตลาด Forex

ตัวอย่างปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาคู่เงินรอง

คู่เงินรองมีการขยับตามปัจจัยที่เหมือนกันกับคู่เงินหลักเลยครับ แต่อาจจะต่างกันตรงที่สกุลเงิน USD จะส่งผลทางอ้อม(ซึ่งอาจจะรุนแรงได้เช่นกัน) มากกว่าทางตรงแบบคู่สกุลงเงินหลักครับ ปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินรองก็มีดังนี้

1. อัตราดอกเบี้ย

  • การประกาศปรับตัวเลขอัตราดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารกลางในแต่ประเทศสกุลเงินรอง เช่น ธนาคารแห่งอังกฤษ (BOE) หรือ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เป็นต้น
  • หากธนาคารเหล่านี้มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะส่งผลให้ค่าเงินสกุลนั้นแข็งค่าเนื่องจากดึงดูดการลงทุนการและส่งออก กลับกันหากธนาคารกลางลดดอกเบี้ยเงินทุนก็จะไหลออกและค่าเงินก็จะอ่อนลง

2. สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

  • ปัจจัยต่อมาคือเรื่องของสถานการณ์เศรษฐกิจซึ่งอาจจะรวมไปถึงการเมืองด้วย เช่น ตัวเลข GDP, อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน, การเลือกตั้ง เป็นต้น
  • สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ หากนักลงทุนมองว่าประเทศนี้แนวโน้มเศรษฐกิจไม่น่าจะเติบโตหรือโตได้ช้า อาจจะย้ายไปลงทุนในประเทศอื่นทำให้ค่าเงินประเทศนั้นจึงอ่อนลงได้

3. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์

  • สกุลเงินรองบางสกุลมีความสัมพันธ์กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางตัวเช่น สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาทองคำ เนื่องจากออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตทองคำรายใหญ่
  • ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในตลาดโลกจึงสามารถส่งผลต่อมูลค่าของ AUD ได้โดยตรงครับ และยังมีอีกหนึ่งสกุลเงินรอง เช่น ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ที่ราคามีผลจากราคาน้ำมัน

4. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน

  • อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่า บางครั้ง ตลาด Forex ก็ได้รับผลกระทบจากจิตวิทยาและความเชื่อมั่นของนักลงทุน เช่น ความตื่นตระหนกหรือความโลภ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเทขายสกุลเงินจนราคาเคลื่อนไหวรุนแรงได้เลย
  • ดังนั้นปัจจัยต่างๆ ทั้ง อัตราดอกเบี้ย, สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ก็มีผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนเช่นกัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อคู่เงินรอง
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาคู่เงินรองก็เหมือนกันกับคู่เงินหลัก เช่น อัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง, สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศสกุลเงินนั้น แต่บางสกลุเงินก็ได้รับอิทธิพลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อนข้างสูง เช่น AUD ที่ขึ้นกับราคาทอง ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

จุดเด่นและจุดด้อยของคู่เงินรอง

คู่เงินรองแม้ว่าจะได้รับความนิยมในการเทรดอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่เท่ากับคู่สกุลเงินหลักทั้งหลายที่จับคู่กับ USD เรามาดูกันดีกว่าว่าจุดเด่นและจุดด้อยที่ควรระวังของคู่สกุลเงินรองมีอะไรกันบ้าง โดยผมสร้างตารางเปรียบเทียบเอาไว้ด้านนี้แล้วครับ

จุดเด่น จุดด้อย
ความผันผวนสูงกว่าคู่เงินหลัก ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า ปริมาณการซื้อขายน้อยกว่าคู่เงินหลัก ทำให้เกิด Slippage ได้ง่าย
เพิ่มความหลากหลายในการเทรด เป็นการกระจายความเสี่ยงจากคู่เงินหลัก สกุลเงินรองบางตัวมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าคู่เงินหลัก ทำให้ต้นทุนในการเทรดสูงขึ้น เช่น GBP/JPY
ได้รับอิทธิพลจากเศรษฐกิจของสองประเทศโดยตรง ไม่ขึ้นกับดอลลาร์สหรัฐ(USD) มากเกินไป เนื่องจากความผันผวนสูงทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มือใหม่ต้องระวัง
มีโอกาสทำกำไรจากแนวโน้มที่ชัดเจนของคู่เงินบางคู่ เช่น GBP/JPY หรือ EUR/AUD วิเคราะห์ยากกว่า เพราะต้องวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินทั้งสองที่ไม่ใช่ USD
เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกับคู่เงินหลักได้ จากความผันผวนที่รุนแรง เทรดเดอร์ต้องใช้การบริหารความเสี่ยงที่ดีเพื่อป้องกัน Margin Call
เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เทรด Forex โดยใช้ประโยชน์จากความผันผวนของคู่เงินรองได้ ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยคู่เงินหลักที่มีความผันผวนน้อยกว่า

โดยรวมแล้วคู่เงินรองเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ชอบโอกาสทำกำไรจากความเคลื่อนไหวและความผันผวนที่ไม่ขึ้นอยู่กับ USD มากเกินไป แต่ต้องเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อแต่ละคู่เงินให้ดีเพราะบางครั้งราคาอาจเคลื่อนไหวรุนแรงกว่าคู่เงินหลักมาก

ความแตกต่างระหว่างคู่เงินหลักและคู่เงินรอง

ความแตกต่างระหว่างคู่เงินหลักและคู่เงินรองนอกเหนือจากการจับคู่สกุลเงินกับ USD แล้ว เราจะมาพูดในส่วนของสภาพคล่อง (Liquidity), ส่วนต่างราคา (Spreads), ความผันผวน(Volatility) และความเสี่ยง(Risk)

1. Liquidity (สภาพคล่อง)

  • สภาพคล่องก็คือจำนวนเงินสดที่หมุนเวียนอยู่ในการซื้อขายของคู่สกุลเงินนั้น มันสะท้อนได้ว่า ถ้าสกุลเงินไหนมีสภาพคล่องสูงย่อมซื้อขายง่าย
  • โดยคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงหรือคู่เงินที่มีการซื้อขายบ่อย จะสามารถแลกเปลี่ยนได้รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำในกระบวนการเทรด
  • ตัวอย่างเช่น EUR/USD มี Volume การซื้อขายมากที่สุดในตลาด ทำให้เข้าออเดอร์ได้รวดเร็วและ Spread ต่ำ ในขณะที่ EUR/AUD อาจมีสภาพคล่องน้อยกว่า ทำให้เข้าออเดอร์ได้ช้าขึ้นและต้องระวัง Slipage

2. Spreads (ส่วนต่างราคา)

  • สืบเนื่องจากข้อที่ 1 หากคู่สกุลเงินมีสภาพคล่องสูงแล้วก็มักจะมีค่า Spreads หรือส่วนต่างราคาที่ต่ำเพราะจำนวนการซื้อขายที่เยอะเกิดการแข่งขันระหว่างผู้เข้าร่วมตลาดทำให้ราคาจึงมักจะไม่โดด
  • ส่วนใหญ่แล้วคู่เงินหลักก็มีค่า Spreads ที่ต่ำกว่าคู่เงินรองด้วยเหตุผลข้างต้น ซึ่งทำให้คู่เงินหลักใช้ต้นทุนในการเทรดน้อยกว่าแต่ระดับกำไรก็อาจจะน้อยกว่าเทรดคู่เงินรองครับ
เปรียบเทียบค่าสเปรดระหว่างคู่เงินหลักและคู่เงินรอง
จากรูปภาพตัวอย่างคือการเปรียบเทียบค่าสเปรดระหว่างคู่เงินหลัก (AUDUSD/EURUSD) กับคู่เงินรอง (GBPJPY/GBPAUD) จากแพลตฟอร์มเทรด MT5 จะเห็นได้ว่าคู่เงินหลักมีค่าสเปรดที่ต่ำกว่าคู่กว่าคู่เงินรอง

3.Volatility (ความผันผวน)

  • ความผันผวน คือ การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งราคาขึ้นลงเร็วและแรง = ความผันผวนคู่สกุเงินนั้นสูงมาก
  • การที่คู่สกุลเงินหลักมีระดับความผันผวนน้อยกว่าคู่สกุลเงินรองนั้น ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดมีความเเม่นยำเเละง่ายต่อการวิเคราะห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้การซื้อขายนั้นง่ายตามไปด้วย

4. Risk (ความเสี่ยง)

  • อันที่จริงการเทรดในตลาด Forex ถือว่าเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเทรดกับคู่สกุลเงินไหนก็ตาม
  • เพียงแต่ว่าการเทรดในคู่สกุลเงินหลักเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในเรื่องความเสี่ยงมากกว่า เพราะแนวโน้มและการวิเคราะห์ที่ง่ายกว่า รวมถึงต้นทุนการเทรดที่น้อยกว่าครับ
คู่เงินหลัก vs. คู่เงินรอง
จากภาพรวมคู่เงินหลักจะมีค่าสเปรด, ความผันผวนและความเสี่ยงโดยรวมต่ำกว่าคู่เงินรองและสิ่งที่คู่เงินหลักมีกว่าคู่เงินรองคือสภาพคล่องเพราะคนส่วนใหญ่นิยมเทรดมากกว่า

วิดีโอเกี่ยวกับคู่สกุลเงินรอง

คู่สกุลเงินสำหรับผู้เริ่มต้น และคู่สกุลเงินที่ควรหลีกเลี่ยง เครดิต By The Trading Channel (The Trading Channel) Focus นาทีที่ 04:03-08:13

วิดีโอตัวนี้พูดถึงการเลือกเทรดคู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีบัญชีขนาดเล็กและคู่สกุลเงินที่ควรหลีกเลี่ยง โดยเนื้อหาในคลิปจะยกตัวอย่างคู่สกุลเงินรองที่น่าสนใจและที่ไม่แนะนำด้วยเหตุผลต่างๆ สามารถติดตามรับชมในคลิปได้เลยครับ

  • Focus นาทีที่ 04:03 คู่สกุลเงินที่คุณควรหลีกเลี่ยง
  • Focus นาทีที่ 05:34 ความแตกต่างของความผันผวนแต่ละตลาด
  • Focus นาทีที่ 06:03 อินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดว่าสกุลไหนควรเทรด
  • Focus นาทีที่ 07:52 คู่สกุลเงินที่แนะนำ

สรุป

ด้วยเหตุผลจากในบทความดูเหมือนว่าคู่เงินรอง (Minor Currency Pairs) จะไม่เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์รับมือกับความผันผวนสูง แต่ก็ใช่ว่าในอนาคตเราจะไม่สามารถเทรดมันได้ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับตัวเทรดเดอร์เองว่าตลาด Forex ได้สอนบทเรียนอะไรไปบ้างและเราได้นำมันกลับมาพัฒนาในส่วนไหนบ้าง

หากเรากลายเป็นเทรดเดอร์ที่ดี มีแผนรองรับในทุกสถานการณ์ของตลาดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรองหรือแม้แต่สกุลเงินแปลกใหม่บางคู่ก็ไม่ใช่ปัญญาในการรับมือแต่อย่างใด

Nakrob Seareechon

บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

Krisorn Himmapan

Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

Nakrob Seareechon
บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

อ่านประวัติเพิ่มเติม

Krisorn Himmapan
Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

อ่านประวัติเพิ่มเติม

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ