Forexthai.in.th ย่อให้

  • Line Charts คือ กราฟที่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาแบบต่อเนื่องโดยใช้เพียงราคาปิด  แสดงผลออกมาในรูปแบบเส้น
  • จุดเด่นของกราฟเส้น คือความเรียบง่าย ไม่มีสิ่งรบกวนสมาธิ ทำให้มองเห็น Trend ได้ชัดเจน และเหมาะกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย ทั้งการเทรดแบบ Breakout, Multi Timeframe และใช้ร่วมกับเครื่องมือช่วยเทรดต่างๆ เพราะใช้เพียงราคาปิดในการตัดสินใจ
  • ราคาปิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงผลลัพธ์สุดท้ายของการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จึงเพียงพอต่อการตัดสินใจเทรด (ในบางระบบเทรด)
  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ต้องการข้อมูลที่ซับซ้อนเกินจำเป็น ต้องการลดสัญญาณหลอก
Line Charts คืออะไร
ไลน์ชาร์ต คืออะไร ใช้อย่างไรได้ประโยชน์สูงสุด

ถ้าพูดถึงกราฟในการเทรด Forex หลายคนมักจะนึกถึงกราฟแท่งเทียนเป็นอันดับแรก ๆ แต่รู้ไหมว่า… บางทีกราฟที่เรียบง่ายที่สุดกลับก็สามารถทำกำไรได้ดีที่สุดเช่นกัน Line Charts หรือ กราฟเส้น เป็นกราฟที่อยู่ในวงการการเทรดมาตั้งแต่ยุคแรกๆ และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้


Line Charts คืออะไร?

Line Charts คือ กราฟรูปแบบหนึ่งที่แสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในรูปแบบ “เส้นต่อเนื่อง” โดยใช้เพียง “ราคาปิด” ของแต่ละช่วงเวลามาเชื่อมต่อกัน นับว่าเพียงพอสำหรับบางระบบเทรดที่ใช้เพียงราคาปิดในการตัดสินใจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่น ๆ ในการตัดสินใจ

ย้อนกลับไปในยุคก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์ เทรดเดอร์รุ่นบุกเบิกใช้เพียงดินสอและกระดาษในการจดบันทึกราคาปิด แล้วลากเส้นเชื่อมต่อจุดเหล่านั้น เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด นี่คือจุดกำเนิดของไลน์ชาร์ตที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

 

ต่างคน ต่างมุมมอง ต่างเทคนิค ต่างทฤษฎี

 

ประโยชน์ของ Line Charts

ประโชยน์ของไลน์ชาร์ต
ประโยชน์ของไลน์ชาร์ต

ความเรียบง่ายคือจุดแข็งที่สุดของ Line Charts เพราะมันให้ข้อมูลที่จำเป็นโดยไม่มีสิ่งรบกวนสมาธิ

  1. ราคาปิดคือผู้ชนะของการต่อสู้ – ในแต่ละช่วงเวลา ราคาปิดคือผลลัพธ์สุดท้ายของการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จึงเพียงพอต่อการเทรดในระบบไม่ต้องสนใจราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด
  2. ลดสัญญาณหลอก – เมื่อไม่มีไส้เทียนหรือ Shadow ให้สับสน ใช้ข้อมูลเพียงหนึ่งเดียวในการเทรด มีผลต่อการตัดสินใจที่เฉียบขาด
  3. เห็นแนวโน้มชัดเจน – เส้นเรียบง่ายทำให้มองเห็น Trend หรือแนวโน้มได้ชัดเจนกว่า ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา
  4. เหมาะกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค – การลากเส้นแนวโน้ม แนวรับ แนวต้าน ทำได้แม่นยำกว่าเพราะใช้จุดอ้างอิงที่ชัดเจน

 

คุณจะได้รับคุณค่า ก็ต่อเมื่อมองเห็นคุณค่า

 

ไลน์ชาร์ตใช้กับการเทรดรูปแบบใดได้บ้าง

จะว่าไปแล้ว ไลน์ชาร์ต เป็นพื้นฐานของกราฟ จึงสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกระบบเทรด แม้กระทั่งกราฟแท่งเทียน หรือบาร์ชาร์ต แม้จะมีรูปแบบที่เป็นแพทเทิร์นให้เทรดเดอร์จดจำ แต่ถ้ามองให้ลึก ๆ ก็จะแฝงไปด้วยราคาปิด ที่จะเป็นตัวตัดสินใจสุดท้ายในการเทรดอยู่ดี

ยิ่งหลากหลายผู้คน การนำไปปรับใช้ก็ย่อมมีความหลากหลาย นั่นคือเสน่ห์แห่งการสร้างสรรค์ บ่อยครั้งอาจจะไม่ได้ถูกต้องตามหลักวิชา แต่ก็ยังสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เป็นอย่างดี เพราะเกิดขึ้นจากการสักเกตุ และนำไปทดลอง จนกระทั่งได้ผล การนำไปปรับใช้กับระบบเทรดด้วยไลน์ชาร์ต มีตัวอย่างดังต่อไปนี้

1. การเทรดแบบ Breakout

การเทรดแบบเบรกเอาท์ คือ การเทรดเมื่อราคาปิดทะลุกรอบ เป็นสัญญาณไปต่อของแนวโน้ม บ่อยครั้งเทรดเดอร์หลายคนใช้กราฟแท่งเทียน เมื่อเห็นราคาทะลุกรอบ จึงทำให้เกิดความกลัวที่จะตกรถ จึงรีบเปิดออเดอร์ก่อนที่แท่งเทียนจะจบแท่ง

เป็นจุดที่หลายคนพลาด โดนลากเพราะเบรกหลอก แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ไลน์ชาร์ต จะลดความผิดพลาดตรงนี้ได้ เพราะระบบเทรดนี้ไม่ต้องใช้ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด แต่ใช้เพียงราคาปิดที่ทะลุกรอบ หรือแนวรับแนวต้านเท่านั้น

 

ตัวอย่างการนำไลน์ชาร์ตมาใช้กับระบบเทรดเบรกเอาท์

2. Multi Timeframe

คือการวิเคราะห์ในหลาย ๆ ไทม์เฟรม โดยการดูในไทม์เฟรมใหญ่ก่อน แล้วหาจุดเข้าในไทม์เฟรมเล็ก เช่น ในไทม์เฟรมใหญ่เป็นแนวโน้มขาขึ้น และกำลังเป็นช่องพักตัว จากนั้นให้ทำการย่อไทม์เฟรมเล็ก เพื่อดูการสิ้นสุดแนวโน้มเล็ก ๆ แล้วหาจังหวะในการเข้าจากไทม์เฟรมเล็ก เข้าเทรดยังทิศทางเดิมของแนวโน้มใหญ่

การเทรดลักษณะนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องดูราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุดแต่อย่างใด เพียงหาจุดกลับตัวในแนวโน้มเล็ก การใช้ราคาปิดเพียงอย่างเดียวนับว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกที่อาจจะเกิดขึ้น

3.เครื่องมือช่วยเทรด

ไม่ว่าจะเป็นอินดิเคเตอร์ หรือ EA ส่วนใหญ่มักจะใช้ราคาปิดในการคำนวณ ไม่ได้มาจากราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุดแต่อย่างใด เพราะการที่จะนำไปคำนวนต่อ จะต้องใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริง และไม่มีข้อมูลใดที่จะชัดเจน หรือชี้วัดตลาดได้มากกว่าราคาปิดของกราฟ

จะเห็นได้ว่า สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม เพียงเทรดเดอร์รู้จักและเข้าใจจริง ๆ ว่าระบบเทรดที่มีอยู่ ต้องการหรือไม่ต้องการอะไร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะเอาทุก ๆ อย่างที่ใครต่อใครว่าดีมารวม ๆ กัน เพียงรู้จักนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

 

บางอย่าง ไม่สามารถเรียนรู้ได้ นอกจากประสบการณ์ในตลาด

 

คำถามโลกแตกระหว่าง…ราคาปิด VS ไส้เทียน

คำถามโลกแตก เปรียบเทียบระหว่างราคาปิด กับไส้เทียน
คำถามโลกแตก เปรียบเทียบระหว่างราคาปิด กับไส้เทียน

ใช้ราคาปิดหรือไส้เทียน การใช้แนวรับแนวต้าน เทรนด์ไลน์ กรอบราคา แพทเทิร์นต่าง ๆ บางคนใช้ใส้เทียน บางคนใช้ราคาปิดของแท่งเทียน สำหรับมือใหม่ก็ไม่รู้จะเอายังไงดี เพราะโค้ชแต่ละคนหรือแต่ละแหล่งที่คุณไปดู ก็ยังสอนไม่เหมือนกัน

จริง ๆ แล้ว มันไม่มีถูกและไม่มีผิด แต่อยากลองให้พิจารณาร่วมกัน ดังนี้ว่า

  • การจะตีเส้นใด ๆ ก็เพื่อทำให้เห็นแนวโน้มหรือระดับราคา หรือตีเพื่อให้เห็นร่องรอยหรือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณนั้น ๆ และนำใช้พิจารณาหรือวิเคราะห์ในการเทรด

ดังนั้น จึงไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนว่า เส้นใดเส้นหนึ่งจะเป็นเส้นแบ่งแยกกันได้อย่างชัดเจน แต่จะมีแนวคิดในการเทรดอย่างหนึ่งที่บอกว่ารอให้ราคาปิดเหนือเส้น ทะลุกรอบ หรือใด ๆ ก็ตาม นั่นคือการดูราคาปิด เมื่อให้ความสำคัญกับราคาปิด แล้วทำไมจะต้องสนใจราคาที่มันสวิงขึ้นลงในช่วงเวลา เพราะนั่นคือผลแพ้ชนะของราคาในช่วงเวลานั้น ๆ

ข้อถกเถียงที่หลากหลาย ตัดสินได้ด้วยการพิสูจน์

 

ไลน์ชาร์ตเหมาะกับใคร

สำหรับกราฟแบบเส้น เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความเรียบง่าย วิเคราะห์โดยไม่ใช้ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่เยอะเกินความจำเป็น การใช้ราคาปิดจึงถือว่าเป็นรูปแบบกราฟอย่างหนึ่งที่เพียงพอต่อการเทรด โดยใช้เพียงราคาปิดในการเข้าเทรดเท่านั้น สามารถนำไปปรับใช้ได้กับในหลาย ๆ ทฤษฎี

เพียงเทรดเดอร์รู้เรา และรู้เขา ว่าเครื่องมือใดที่เหมาะสมกับตัวเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปใช้ได้อย่างครบถ้วนและบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแน่นอน

สรุป

ไลน์ชาร์ต แม้จะเป็นเส้นพื้นฐานที่แฝงไปด้วยนัยสำคัญ และเทรดเดอร์หลาย ๆ คนอาจจะมองข้าม เพราะให้ข้อมูลเฉพาะราคาปิดเท่านั้น แต่จงอย่าลืมว่า แทบจะทุกระบบการเทรด ล้วนจะต้องรอสัญญาณปิดเพื่อเป็นจุดเข้า

เท่ากับว่า นั่นคือผลแพ้ชนะ หรือคำตัดสินว่า ราคาในช่วงเวลานั้นแรงใดเป็นฝ่ายชนะ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และถ้าการเทรดไม่ต้องใช้ราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุด ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องดูให้เสียสมาธิหรือการตัดสินใจ

ใช้ราคาปิดที่มีนัยสำคัญมากกว่า ตัดสินใจในการเข้า ออก ถือ หรือขาย ลดข้อผิดพลาดและมีโอกาสได้กำไร ดีกว่ามีกราฟที่สวยงาม แต่ยังทำกำไรไม่ได้ คุณว่าจริงไหม…

ทีมงาน: forexthai.in.th

 

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ