Line Charts (ไลน์ชาร์ต) เป็นกราฟรูปแบบหนึ่ง ที่แสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ เป็นรูปแบบเส้น โดยแสดงข้อมูลเพียงราคาปิดเท่านั้น นับว่าเพียงพอสำหรับบางระบบเทรด ที่ใช้เพียงราคาปิดในการตัดสินใจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่น ๆ ในการตัดสินใจ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Line Charts คืออะไร
กราฟราคาในรูปแบบของเส้น แสดงประวัติราคาปิดของสินทรัพย์ตามช่วงเวลา เป็นกราฟพื้นฐานของทุก ๆ โปรแกรมเทรดก็ว่าได้
ในก่อนยุคที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ เทรดเดอร์หรือนักลงทุนจะใช้เพียงราคาปิดเท่านั้น ที่จะนำมาเขียนกราฟลงกระดาษ เพื่อดูแนวโน้มของราคา
ต่างคน ต่างมุมมอง ต่างเทคนิค ต่างทฤษฎี
ประโชยน์ของ Line Charts
- ให้ราคาปิด เพียงพอต่อการเทรด ที่ระบบไม่ต้องสนใจราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด
- ใช้ข้อมูลเพียงหนึ่งเดียวในการเทรด มีผลต่อการตัดสินใจที่เฉียบขาด
- คือราคาที่แท้จริง เพราะราคาปิดนั่นคือราคาปัจจุบันของช่วงเวลานั้น ๆ
- ไม่มีสัญญาณหลอก ราคาปิดก็คือราคาสุดท้ายของช่วงเวลา ไม่มีสัญญาณหลอกที่กราฟไปแล้วย้อนกลับมา
คุณจะได้รับคุณค่า ก็ต่อเมื่อมองเห็นคุณค่า
ไลน์ชาร์ตใช้กับการเทรดรูปแบบใดได้บ้าง
จะว่าไปแล้ว ไลน์ชาร์ต เป็นพื้นฐานของกราฟ จึงสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกระบบเทรด แม้กระทั่งกราฟแท่งเทียน หรือบาร์ชาร์ต แม้จะมีรูปแบบที่เป็นแพทเทิร์นให้เทรดเดอร์จดจำ แต่ถ้ามองให้ลึก ๆ ก็จะแฝงไปด้วยราคาปิด ที่จะเป็นตัวตัดสินใจสุดท้ายในการเทรดอยู่ดี
การนำไปปรับใช้กับระบบเทรด ด้วยไลน์ชาร์ต มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
ยิ่งหลากหลายผู้คน การนำไปปรับใช้ก็ย่อมมีความหลากหลาย นั่นคือเสน่ห์แห่งการสร้างสรรค์ บ่อยครั้งอาจจะไม่ได้ถูกต้องตามหลักวิชา แต่ก็ยังสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เป็นอย่างดี เพราะเกิดขึ้นจากการสักเกตุ และนำไปทดลอง จนกระทั่งได้ผล
1. ระบบเทรดเบรคเอาท์
การเทรดแบบเบรคเอาท์ คือการเทรดเมื่อราคาปิดทะลุกรอบ นั่นคือสัญญาณไปต่อของแนวโน้ม บ่อยครั้งเทรดเดอร์หลายคนใช้กราฟแท่งเทียน เมื่อเห็นราคาทะลุกรอบ จึงทำให้เกิดความกลัวที่จะตกรถ จึงรีบเปิดออเดอร์ก่อนที่แท่งเทียนจะจบแท่ง
เป็นจุดที่หลายคนพลาด โดนลากเพราะเบรคหลอก แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ไลน์ชาร์ต จะลดความผิดพลาดตรงนี้ได้ เพราะระบบเทรดนี้ไม่ต้องใช้ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด แต่ใช้เพียงราคาปิดที่ทะลุกรอบ หรือแนวรับแนวต้านเท่านั้น
2. Multi Timeframe
คือการวิเคราะห์ในหลาย ๆ ไทม์เฟรม โดยการดูในไทม์เฟรมใหญ่ก่อน แล้วหาจุดเข้าในไทม์เฟรมเล็ก เช่น ในไทม์เฟรมใหญ่เป็นแนวโน้มขาขึ้น และกำลังเป็นช่องพักตัว จากนั้นให้ทำการย่อไทม์เฟรมเล็ก เพื่อดูการสิ้นสุดแนวโน้มเล็ก ๆ แล้วหาจังหวะในการเข้าจากไทม์เฟรมเล็ก เข้าเทรดยังทิศทางเดิมของแนวโน้มใหญ่
การเทรดลักษณะนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องดูราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุดแต่อย่างใด เพียงหาจุดกลับตัวในแนวโน้มเล็ก การใช้ราคาปิดเพียงอย่างเดียวนับว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกที่อาจจะเกิดขึ้น
3. เครื่องมือช่วยเทรด
ไม่ว่าจะเป็นอินดิเคเตอร์ หรือ EA ส่วนใหญ่มักจะใช้ราคาปิดในการคำนวน ไม่ได้มาจากราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุดแต่อย่างใด เพราะการที่จะนำไปคำนวนต่อ จะต้องใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริง และไม่มีข้อมูลใดที่จะชัดเจน หรือชี้วัดตลาดได้มากกว่าราคาปิดของกราฟ
จะเห็นได้ว่า สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม เพียงเทรดเดอร์รู้จักและเข้าใจจริง ๆ ว่าระบบเทรดที่มีอยู่ ต้องการหรือไม่ต้องการอะไร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะเอาทุก ๆ อย่างที่ใครต่อใครว่าดีมารวม ๆ กัน เพียงรู้จักนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
บางอย่าง ไม่สามารถเรียนรู้ได้ นอกจากประสบการณ์ในตลาด
คำถามโลกแตกระหว่าง…
ใช้ราคาปิดหรือไส้เทียน การใช้แนวรับแนวต้าน เทรนด์ไลน์ กรอบราคา แพทเทิร์นต่าง ๆ บางคนใช้ใส้เทียน บางคนใช้ราคาปิดของแท่งเทียน สำหรับมือใหม่ก็ไม่รู้จะเอายังไงดี เพราะโค้ชแต่ละคนยังสอนไม่เหมือนกัน
จริง ๆ แล้วไม่มีถูกและไม่มีผิด แต่อยากลองให้พิจารณาร่วมกันดังนี้ว่า การตีเส้นใด ๆ เพื่อให้เห็นแนวโน้มหรือระดับราคา ตีเพื่อให้เห็นร่องรอยหรือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณนั้น ๆ เพื่อใช้พิจารณาหรือวิเคราะห์ในการเทรด
ดังนั้น จึงไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนว่า เส้นใดเส้นหนึ่งจะเป็นเส้นแบ่งแยกกันได้อย่างชัดเจน แต่จะมีแนวคิดในการเทรดอย่างหนึ่งที่ราคา รอให้ราคาปิดเหนือเส้น ทะลุกรอบ หรือใด ๆ ก็ตาม นั่นคือการดูราคาปิด เมื่อให้ความสำคัญกับราคาปิด แล้วทำไมจะต้องสนใจราคาที่มันสวิงขึ้นลงในช่วงเวลา เพราะนั่นคือผลแพ้ชนะของราคาในช่วงเวลานั้น ๆ
ข้อถกเถียงที่หลากหลาย ตัดสินได้ด้วยการพิสูจน์
ไลน์ชาร์ตเหมาะกับใคร
เทรดเดอร์ที่ชอบความเรียบง่าย วิเคราะห์โดยไม่ใช้ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด ที่เยอะเกินความจำเป็น การใช้ราคาปิดจึงถือว่าเป็นรูปแบบกราฟอย่างหนึ่ง ที่เพียงพอต่อการเทรด โดยใช้เพียงราคาปิดในการเข้าเทรดเท่านั้น สามารถนำไปปรับใช้ได้กับในหลาย ๆ ทฤษฎี
เพียงเทรดเดอร์รู้เรา และรู้เขา ว่าเครื่องมือใดที่เหมาะสมกับตัวเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปใช้ได้อย่างครบถ้วนและบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแน่นอน
สรุป
ไลน์ชาร์ต แม้จะเป็นเส้นพื้นฐานที่แฝงไปด้วยนัยสำคัญ และเทรดเดอร์หลาย ๆ คนอาจจะมองข้าม เพราะให้ข้อมูลเฉพาะราคาปิดเท่านั้น แต่จงอย่าลืมว่า แทบจะทุกระบบการเทรด ล้วนจะต้องรอสัญญาณปิดเพื่อเป็นจุดเข้า
เท่ากับว่า นั่นคือผลแพ้ชนะ หรือคำตัดสินว่า ราคาในช่วงเวลานั้นแรงใดเป็นฝ่ายชนะ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และถ้าการเทรดไม่ต้องใช้ราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุด ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องดูให้เสียสมาธิหรือการตัดสินใจ
ใช้ราคาปิดที่มีนัยสำคัญมากกว่า ตัดสินใจในการเข้า ออก ถือ หรือขาย ลดข้อผิดพลาดและมีโอกาสได้กำไร ดีกว่ามีกราฟที่สวยงาม แต่ยังทำกำไรไม่ได้ คุณว่าจริงไหม…