คนส่วนใหญ่มักจะแยกการลงทุนกับการพนันไม่ค่อยออก นั่นเพราะว่ามันมีเพียงเส้นบาง ๆ ที่ขวางไว้อยู่ บ่อยครั้งที่คนมักจะพูดว่า “เอาเงินไปต่อทุน” ถ้าคนเริ่มพูดอย่างนั้นเมื่อไหร่ สามารถบอกได้ว่ามันคือ การพนัน เพราะอะไรหน่ะหรอครับ? ก็เพราะว่า การเอาเงินไปต่อทุน หมายความว่า ทุนหมด แล้วยังไม่รู้ตัว ยังเอาเงินไปเติมเข้าไปเรื่อย ๆ การลงทุนกับการพนันนั้น สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ และกิจการที่คนทำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการขายของชำ การทำธุรกิจ การทำร้านอาหาร การทำร้านขายของฝาก การลงทุนในหุ้น หรือการซื้อหวย ก็เรียกว่าการพนันได้หมดและไม่แตกต่างกัน
Photo by Precondo CA on Unsplash
การจะจำแนกการลงทุนออกจากการพนันได้นั้น สิ่งที่นักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ว่าตอนนี้คือการพนันหรือการลงทุน คือ การรู้ว่าตัวเองจะขาดทุนได้จากสาเหตุใด การรู้ว่าตัวเองจะสามารถทำกำไรได้จากสาเหตุใด การรู้ 2 ปัจจัยนี้แล้วหาทางแก้ไขได้เรียกว่า การลงทุน แต่ถ้าหากเราไม่รู้อะไรเลย ก็เรียกว่าการพนันได้ ขนาดที่ว่าเปิดร้านกาแฟยังเป็นการพนันเลยก็แล้วกันครับ
Photo by Frank Busch on Unsplash
แล้ว Forex หล่ะจะทำให้มันเป็นการลงทุนได้อย่างไร เราต้องรู้อะไรบ้าง บทความนี้จะมาชำแหละแนวทางให้การเทรด Forex เป็นการลงทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อท่ะจสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างถูกที่ถูกทางเสียทีหนึ่งครับ โดยปัจจัยที่จะทำให้การเทรด Forex เป็นการลงทุนมีดังต่อไปนี้
- รู้ว่าจะไม่ล้างพอร์ทได้อย่างไร – การรู้ว่าจะไม่ล้างพอร์ทได้อย่างไรสำหรับการเทรด Forex นั้น เป็นวิธีที่ง่าย และก็เรียกได้ว่าใครก็รู้แต่ก็ทำไม่ได้ มันคือการตั้ง Stop loss เมื่อเราตั้ง Stop loss เราจะไม่มีวันล้างพอร์ท หรือ ถูก Margin Call แต่ว่าเราจะขาดทุน แต่อย่างน้อยการขาดทุนก็ไม่ได้ทำให้ล้างพอร์ท ถ้าหากเรารู้ว่าเราจะเอมันคืนมาได้อย่างไร
บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์ไม่มยอมตั้ง Stop loss การไม่ตั้ง Stop loss ของเทรดเดอร์เป็นไปใน 2 รูปแบบ คือ ความตั้งใจและความไม่ตั้งใจ ความตั้งใจได้แก่ จงใจไม่ตั้ง คิดว่าระบบตัวเองออกแบบมาดีแล้ว สามารถทานทนต่อการเคลื่อนไหวมหาศาลได้ ซึ่งอาจจะส่งระบบเทรดที่มี Lot ขนาดเล็กมาก ผมเห็นเทรดเดอร์หน้าใหม่จำนวนมากใช้วิธีการนี้ เพื่อเป็นการสร้างจิตวิทยาการเทรด ให้ตัวเองนั้นสามารถเทรดกำไรได้ง่าย อย่างไรก็ตาม การทำกำไรได้ง่ายกรณีกำไรก็ง่ายกันทุกวิธีนั่นแหละ แต่ตอนขาดทุนและขาดทุนสะสม ถึงตอนนั้นอยากจะตั้ง Stop loss ก็ไม่สามารถตั้งได้แล้วเพราะว่า มันหลวมตัวมาไกลแล้วนั่นเอง อีกเหตุการณืหนึ่งคือ การไม่ได้ตั้งใจตั้ง Stop loss ตัวอย่างเช่น การประมาท คิดว่าไม่ตั้งก็ได้ก็เรียกว่า ไม่ได้ตั้งเพราะว่าระบบ แต่ไม่ตั้งเพราะว่าประมาท พลั้งเผลอ ลืม โลภ อะไรอย่างนี้เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะพาตัวเองเข้าสู่จุดตัดสินใจยากว่าจะปิดหรือเปิดต่อไปดี ซึ่งอาจจะล้างพอร์ทไปอย่างรวดเร็วก็ได้ใครจะรู้
- ทำกำไรอย่างไร – สำหรับข้อแรกเรารู้ว่าเราจะขาดทุนอย่างไร แต่ไม่ล้างพอร์ แต่การไม่ล้างพอร์ทไม่ได้หมายความว่านาน ๆ ไปเราจะไม่ล้างพอร์ท ก็ถ้าเราไม่มีการเทรดที่ดี ไม่สามารถวทำกำไรได้ก็ล้างพอร์ทได้ด้วยเหมือนกัน สำหรับการทำกำไรนั้นไม่ยาก ก็เพียงแค่ทำกำไรให้ได้มากกว่าที่ขาดทุนก็แล้วกัน แล้วฟังดูพูดแล้วเหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ ทำยาก โดยองค์ประกอบของการทำกำไร มีองค์ประกอบ 2 อย่างเท่านั้น คือ Win % และ Risk Reward Ratio แค่ 2 ตัวนี้เท่านั้น เพราะในระยะยาวแล้ว ถ้าหากเรามีจำนวนครั้งที่ชน Take Profit มากกว่า Stop loss และ กำไรขาดทุนครั้งละ 1 เท่ากัน ก็หมายความว่า เราจะกำไรในระยะยาว และเช่นเดียวกันอัตราส่วนนี้สามารถปรับได้เพราะว่า Stop loss กับ Take Profit เป็นเรื่องของขนาด ฉะนั้น ถ้าเราได้อัตราส่วนการชน Take Profit น้อยก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะขาดทุนเพราะว่าเราได้กำไรแต่ละครั้งเยอะ แต่ขาดทุนทีละน้อยนั่นเอง
- มันเรียกว่า กำไรแห่งความคาดหวัง – ทั้ง 2 องค์ประกอบนั้นเรียกว่า กำไรแห่งความคาดหวัง เพราะถ้าหากมันออกมากำไรแล้วก็หมายความว่าในระยะยาวเราจะกำไร
ย้ำกันอีกทีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรด Forex เพื่อไม่ให้มันเป็นการพนัน คือ คุณ ต้องรู้ว่าทำไมคุณถึงจะขาดทุนและล้างพอร์ ขณะเดียวกันเมือ่คุณรู้ว่าคุณจะขาดทุนได้อย่างไรแล้ว คุณก็ต้องรู้วิธีเอาผลขาดทุนนั้นกลับมาเป็นกำไรด้วย ด้วย 2 องค์ประกอบง่าย ๆ แค่นี้ต้องบอกว่า เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะทำให้มันได้ เพราะว่า ถ้าทำได้กันทุกคน ก็คงไม่มีคนที่ขาดทุนในตลาด Forex ออกไปเล่าถึงความน่ากลัวของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วหล่ะ
ทีมงาน: forexthai.in.th
