Forexthai.in.th ย่อให้
- วัฏจักรกราฟ คือ รูปแบบการขึ้น-ลงของราคาที่เกิดซ้ำ ๆ ในตลาด Forex
- เกิดจากแรงซื้อ-ขายในตลาด โดยราคาจะมีช่วงพักตัว ขาขึ้น ขาลง และวนกลับมาเริ่มใหม่เป็นวงจร
- ต้นกำเนิดมาจาก Dow Theory ที่มองว่าราคาเคลื่อนที่เป็นขึ้น-ลง ไม่ใช่เส้นตรง
- ประยุกต์ใช้กับ Forex ได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
พื้นฐานอย่างหนึ่งที่ Trader forex ควรเข้าใจ คือ วัฏจักรกราฟ (graph cycle) เป็นข้อมูลที่จะใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) ควบคู่กันไปด้วย แต่เพื่อให้บทความนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหัวข้อเรื่อง ผู้เขียนจึงขออนุญาตกล่าวเพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า วัฏจักรกราฟ แทนแล้วกันนะครับ
วัฏจักรกราฟ คืออะไร
วัฏจักรกราฟ (graph cycle) คือ กระบวนการขึ้น-ลงของกราฟที่เกิดขึ้น ตามวงจรราคาของการเทรด โดยหากเราเข้าใจเรื่องของวัฏจักรกราฟอย่างดีแล้ว เราสามารถมองหาราคาที่เราจะเข้า order ได้อย่างไม่ยากนัก และที่สำคัญคือ เราสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงจากการเรียนรู้วัฏจักรกราฟที่ถูกต้องนั่นเอง

ที่มาของวัฏจักรกราฟ
ก่อนจะเล่าความหมายของมัน เรามาดูความเป็นมาของ “วัฎจักรกราฟ” ก่อน จริง ๆ แล้วชื่อของมันก็คือ Price Cycle ซึ่งเป็นทฤษฎีเลยนะครับ
เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ Dow Theory ครับ เนื่องจากว่าทฤษฎีดาวเนี่ยจะมองว่า ราคาเคลื่อนที่ไม่ได้เป็นเส้นตรง และเคลื่อนที่เป็นลักษณะขึ้น ๆ ลง มีช่วงชัดเจนว่าเป็นขาขึ้นขาลง โดยจากจุดกำเนิดของมันแตกออกไปหลายสาขา และนำไปสู่การวิเคราะห์หลากรูปแบบซึ่งจะยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

ตัวอย่างของ ทฤษฎีคลื่น Elliott Wave ก็เป็นลักษณะของการเคลื่อนไหวของราคาแบบหนึ่ง ไม่แน่ใจว่ามีต้นกำเนิดมาจาก Dow Theory หรือไม่นะครับไม่ฟันธง แต่เอาเป็นว่าได้รับอิทธิพลมา และการพัฒนาทฤษฎี ก็คล้ายคลึงกัน นั่นคือ ราคาเคลื่อนไหวเป็นคลื่นและกลับไปกลับมาเป็นหยัก
ซึ่งทฤษฎี คลื่น Elliott Wave ก็จะมี 5 ช่วงคลื่นก็คือ 1-2-3 – a-b-c ครับ แต่ก็จะมีคลื่นย่อยอยู่ในนั้นอีก

จะเห็นว่า ความเชื่อคือ กราฟก่อนที่จะมาเป็นวัฏจักร ราคามีการเคลื่อนไหวที่ขึ้น ๆ ลง ๆ และไม่ได้เป็นเส้นตรง หลังจากนั้นมีการศึกษารูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา เช่น รูปแบบการเคลื่อนไหวแบบ Elliott wave หมายความว่า “ราคานั้นมีรูปแบบ”
รูปแบบดังกล่าวทำให้เกิดซ้ำ ๆ ได้ จึงเรียกว่าเกิดเป็น “วัฏจักร” ครับ
การเกิดของ วัฎจักรกราฟ
เกิดจาก “ปริมาณการซื้อ-ขายและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินอย่างมี Pattern” นั่นเองครับ โดยเริ่มต้นจาก การพักตัวหรือการสะสมแรง หรือเป็นช่วงที่มีการปรับตัวลงของราคาเป็นเวลานาน จนเริ่มมีการชะลอตัวของราคา ทำให้มีการปรับตามแผนเศรษฐกิจเพื่อสมดุลของค่าเงินนั้นๆ จนทำให้เริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้น

เมื่อนักลงทุนมองว่าเริ่มมีการขึ้นของราคาแล้ว จึงเริ่มมีการเปิดออเดอร์การซื้อคู่เงินนั้นเข้ามา ทำให้ราคาสูงขึ้น และเมื่อเห็นแนวโน้มอย่างชัดเจน นักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาเสริม การขึ้นของราคานี้ทำให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจนและมั่นคง
และเมื่อราคาสูงจนเกินไป ก็จะเกิดการปรับตัวของราคาค่าเงินลงอีกครั้ง (สามารถอ่านเพิ่มเติมการเคลื่อนไหวของกราฟได้ที่ “การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน” และเกิดการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงแทน เกิดเช่นนี้วนไปเป็น “วัฏจักรของกราฟ”
ยกตัวอย่างวัฏจักรกราฟ
- หากเราเห็นกราฟเป็นจังหวะพักตัวโซนแนวรับ และเห็นสัญญาณการปรับขึ้นของราคา แน่นอนว่าคนอื่นๆก็ย่อมเห็นในลักษณะเดียวกันและทยอยเปิดออเดอร์เพิ่อทำกำไร ทำให้มี Volume เพิ่มขึ้น และกราฟเริ่มปรับเป็นเทรนขาขึ้น (Bull trend)
- กลุ่มคนอีกส่วนหนึ่งที่เมื่อเห็นกราฟทำรูปแบบขาขึ้นอย่างชัดเจนค่อยออกออเดอร์ ก็จะทยอยซื้อและดันให้กราฟพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตาม Dow theory
- เมื่อถึงจุดสูงสุดของกราฟหรือจบเทรนขาขึ้น ราคาก็จะมีการปรับตัวลง นักลงทุนก็จะเริ่มเปิดออเดอร์ขายออกและส่งเสริมการลงของกราฟ ส่งผลให้ราคาเป็นเทรนขาลง (Bear trend) และกลับไปพักตัวที่โซนแนวรับ
- เป็นแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ทำให้เราสามารถใช้วัฏจักรกราฟ เข้ามาพิจารณาการซื้อ-ขายค่าเงินได้

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับวัฏจักรกราฟ
- วัฏจักรกราฟ สามารถบอกการขึ้นและลงได้: โดยปกติแล้ว เรามักจะเลือก TF ทีมีขนาดใหญ่มาจนกระทั่งถึง 1 วันก่อน ซึ่งคุณสามารถมองหาวัฏจักรกราฟ ได้โดยการพิจารณาตามสูตรที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้นเอง

- วัฏจักรกราฟมีความสัมพันธ์กับการทำกำไร: หากเราเลือกช่วงของวงจรของกราฟที่มีขาขึ้นแล้ว หรือว่าในช่วงที่กำลังมีขาลงแล้ว เราก็สามารถประเมินได้ว่าจะต้องวาง Lot เพื่อทำกำไรจากการเทรดเท่าไหร่ดี เรื่องนี้จึงถือว่ามีประโยชน์และมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
- มีระบบเทคนิคที่เข้าไปจับอยู่เรียกว่า “อีเลียตเวฟ”: มีระบบที่เรียกว่า อีเลียตเวฟ เข้ามาช่วยในการพิจารณาว่าวงจรของราคานั้นขึ้นหรือลงไปแล้วที่เท่าไหร่ ทำให้คุณนั้นสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างดีขึ้น
อิเลียตเวฟ (Elliott Wave) กับ วัฏจักรกราฟ

มีค่าทางเทคนิคเพื่อช่วยให้การเทรดของคุณง่ายดายยิ่งขึ้นนั่นคือการใช้ อิเลียตเวฟ เพื่อการเทรดของคุณ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องทำความเข้าใจของจำนวนเวฟที่เกิดขึ้นเสียก่อน โดยปกติแล้วหากเป็นไปตามสูตรนี้เรามักจะเลือก “ค่าในเวฟที่สามเพื่อการทำกำไร” ส่วนเวฟอื่นๆนั้น อย่าเพิ่งเล่น เพราะมีความเสี่ยงสูง
วัฏจักรกราฟ กับการเทรด Forex
สำหรับวัฏจักรกราฟในตลาด Forex นั้น มีข้อดีกว่าการเอาวัฏจักรกราฟไปจับกับตลาดหุ้น กล่าวคือ เราสามารถประยุกต์ใช้หลักการได้ทั้งขาที่กราฟวิ่งขึ้น และรวมทั้งในช่วงของกราฟที่มีลักษณะของการวิ่งลงด้วย จึงถือว่าปลอดภัยมากๆ สำหรับคุณ แต่แน่นอนว่าคุณจะต้องไปทำความเข้าใจในเรื่องของอีเลียตเวฟเสียก่อนนะครับ
เทคนิคการวิเคราะห์ตลาด Forex
เราสามารถนำวัฏจักรกราฟมาประยุกต์ใช้ในตลาด Forex ได้หลาหลาก ในบทความนี้ จะขอยกตัวอย่างเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ผมขอแนะนำก็คือ การใช้ Multiple Time Frame Analysis ครับ
วิธีนี้ก็คือเราจะดูกราฟหลาย ๆ Time Frame พร้อมกัน เช่น 4 ชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เพื่อหาจุดที่วัฏจักรกราฟในแต่ละ Time Frame สอดคล้องกัน เช่น ถ้าเราเห็นว่าทั้ง Time Frame Day และ Time Frame Week กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของวัฏจักร โอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อก็มีสูงมากครับ
แต่อย่าลืมว่าไม่มีอะไรแน่นอน 100% ในตลาด Forex ดังนั้นเราต้องวิเคราะห์ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ด้วย เช่น แนวรับแนวต้าน หรือ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคต่างๆ เพื่อหาจุดที่ดีในการเข้าเทรดของเราครับ
สรุป
การใช้วัฎจักรกราฟกับการเทรด Forex ต้องยอมรับทฤษฎีว่า ราคานั้นจะเกิดรูปแบบการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ซึ่งจะต้องมีทฤษฎีกราฟเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น Elliot Wave หรือ การเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น Harmonic Pattern
ในการเคลื่อนไหวต่างๆ นั้น เราสามารถศึกษาเพื่อใช้ในการเทรดได้ โดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ทฤษฎีใด ทฤษฎีหนึ่ง นอกจากนี้รูปแบบต่าง ๆ สามารถประยุกต์ใช้ด้วยกันได้หลายรูปแบบ ได้แก่ รูปแบบการกลับตัว Pric Action ต่าง ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้ว วัฎจักรกราฟสามารถใช้ในการเทรดได้หลายรูปแบบเทรดเดอร์ควรจะศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการเทรด ซึ่งวัฎจักรกราฟนั้นเป็นทฤษฎีมากกว่าที่จะเป็นวิธีการที่ใช้ในการเทรด นอกจากนี้เทรดเดอร์ควรศึกษาองค์ประกอบของการเทรดที่ทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จเพิ่มเติมด้วย
ทีมงาน: forexthai.in.th