Forexthai.in.th ย่อให้
- เทรดทองใน Forex คือการซื้อขายทองคำผ่านคู่สกุล XAUUSD โดยไม่ต้องถือครองทองคำจริง อ้างอิงจากราคาทองโลก
- ทำกำไรได้โดยการซื้อถูกขายแพง, ใช้สัญญา CFD และวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน/เทคนิค
- ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทอง: อัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน สถานการณ์การเมือง/เศรษฐกิจโลก
- ข้อดี: สภาพคล่องสูง ทำกำไรได้ 2 ทาง ใช้เงินลงทุนน้อย เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีความผันผวนที่ทำกำไรได้ดี
- ข้อควรระวัง: ความเสี่ยงสูง ต้องติดตามข่าวสาร ศึกษากลยุทธ์ให้เข้าใจก่อนลงทุนจริง
หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “เทรดทอง” กันบ่อย ๆ ซึ่งมันคือหนึ่งในวิธีทำเงินยอดนิยมในตลาดการเงินระดับโลก ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจกันอย่างมาก
คำนี้มีความหมายที่แท้จริงว่าอย่างไร และมีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Forex รวมไปถึงคุณสามารถเริ่มต้นทำเงินจากการเทรดทองได้หรือไม่ ถ้าหากมีต้นทุนที่ต่ำ? หาคำตอบได้ที่นี่เลยครับ บทความนี้ออกแบบมาเพื่อคุณเลย
เทรดทอง (XAU) คืออะไร
การเทรดทอง ก็คือ การซื้อขายทองคำผ่านตลาด Forex โดยใช้ราคาทองคำโลกเป็นตัวอ้างอิงในการทำกำไร ซึ่งมีข้อดีคือสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงราคาขึ้นและลง โดยไม่จำเป็นต้องถือครองทองคำจริง
ในตลาด Forex เราจะเห็นคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับทองคำคือ XAUUSD ซึ่งย่อมาจาก XAU (สัญลักษณ์ของทองคำ) และ USD (ดอลลาร์สหรัฐ) นั่นเอง โดย XAU มาจากสัญลักษณ์ทางเคมีของทองคำ (Au) ในตารางธาตุ (ในชาร์ตตลาด Forex ไม่มีคำว่า gold นะครับ ^^)
เมื่อคุณเห็น XAUUSD ในแพลตฟอร์มเทรด นั่นหมายความว่าคุณกำลังดูราคาของทองคำ 1 ออนซ์ เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น ถ้า XAUUSD อยู่ที่ 1,800 แปลว่าทองคำ 1 ออนซ์มีราคา 1,800 ดอลลาร์สหรัฐครับ
ทำไมการเทรดทองถึงได้รับความนิยม?
- สภาพคล่องสูง: ตลาดทองคำมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้า-ออกตลาดได้ตลอดเวลา
- ทำกำไรได้ทั้ง 2 ทาง: สามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงราคาขึ้นและลง ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลง ก็มีโอกาสทำเงินเสมอ
- ใช้เงินลงทุนน้อย: สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินลงทุนไม่มาก ผ่านการใช้ Leverage ทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักลงทุนรายย่อยแบบเรา ๆ ครับ
- เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย: ทองคำมักถูกใช้เป็นที่เก็บมูลค่าในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หรือค่าเงินอ่อน นักลงทุนเลยหันไปลงทุนในทองคำแทน ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีในการกระจายความเสี่ยง
- มีความผันผวนอยู่ตลอด: ราคาทองคำมีความผันผวนพอสมควร ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้ดี ในขณะเดียวกันก็ไม่รุนแรงเกินไปจนเกินควบคุม
เทรดทอง ทำกำไรได้อย่างไร?
1. เทรดโดยการซื้อถูกขายแพง
นี่เป็นวิธีพื้นฐานที่สุดครับ หลักการเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ หรือเล่นหุ้น
- การซื้อทองเมื่อราคาต่ำ และขายเมื่อราคาสูงขึ้น
- เช่นเราซื้อทองที่ 1 บาท ราคา 20,000 บาท และขายไปในวันถัดมาที่ราคา 1 บาท ราคา 21,000 บาท เราก็จะได้กำไรทันที 1,000 บาท หรืออีกตัวอย่างคือ ซื้อทอง 1 ออนซ์ที่ราคา $1,800 และขายออกที่ $1,850 คุณจะได้กำไร $50 ต่อออนซ์
2. เทรดทองโดยการใช้สัญญาแบบ CFD หรือใช้การทำนายส่วนต่าง
เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการเทรด Forex โดยที่ทำกำไรจากส่วนต่างของราคา โดยไม่ต้องถือครองทองคำจริง
- ทำนายหรือคาดการณ์ราคาทองว่ามันจะขึ้นหรือลงในอนาคต
- ถ้าคาดการณ์ถูก จะได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคา แต่ถ้าคาดการณ์ผิด ก็จะเสียเงินทุนตรงนี้ไปครับ
- สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
3. วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค
- ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจที่มีผลต่อราคาทองคำ และปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน และสถานการณ์การเมืองโลก
- ศึกษาแนวโน้มราคาจากกราฟ หรือการใช้ Indicators ช่วยในการตัดสินใจ เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

- อัตราเงินเฟ้อ: เมื่อเงินเฟ้อสูง นักลงทุนก็มักหันมาลงทุนในทองคำเพื่อรักษามูลค่าของเงิน ทองคำจึงมักมีราคาสูงขึ้นในช่วงที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
- นโยบายการเงินของธนาคารกลาง: อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อราคาทองคำ โดยทั่วไปเมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ราคาทองมักสูงขึ้น และการพิมพ์เงินเพิ่มมักส่งผลให้ราคาทองสูงขึ้นในระยะยาว
- สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก: ในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาทองมักสูงขึ้น เพราะทองคำถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในช่วงที่ตลาดอื่นๆ มีความผันผวนสูง
ข้อดีของการเทรดทอง
โดยข้อดีของการเทรดทองนั้นมีมากมาย ผมขอสรุปออกมาเป็นข้อที่น่าสนใจได้ ดังต่อไปนี้
1.คุณสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากการแกว่งตัวของราคาทองคำของโลกนั้น มีวาระที่ค่อนข้างจะสามารถทำนายได้อย่างแน่นอน เมื่อเป็นดังนี้ การเลือกที่จะเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาทองคำ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้นั่นเอง และคุณสามารถทำได้อย่างแน่นอนด้วย
2.การใช้กราฟทางเทคนิคมีความคลาดเคลื่อนต่ำ
ข้อดีประการต่อมาคือ เมื่อคุณเทรดทองโดยการใช้กราฟทางเทคนิค สิ่งที่ตามมาคือค่าความคลาดเคลื่อนนั้นก็จะต่ำลง ทำให้คุณมีโอกาสในการเทรดได้ถูกทางในสัญญา CFD ได้มากกว่านั่นเอง
3. ความถี่ของการซื้อขาย
ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดทองคำได้ตลอดเวลา… แถมยังลดความเสี่ยงจากการถือทองคำจริงๆ เป็นไหนๆ อีกทั้งสามารถลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายทองคำจริงๆได้ด้วยเน่ะ
ข้อเสียของการเทรดทอง
1.ความเสี่ยงสูง
การซื้อขายทองในตลาด Forex เป็นการเสี่ยงสูงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงราคาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้เทรดต้องรับความเสี่ยงที่อาจสูญเสียเงินลงได้ แม้ว่าความเสี่ยงในการซื้อขายทองจะน้อยกว่าการซื้อขายเงินตราอื่น ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี
2. ต้องติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ
ถึงแม้จะไม่ได้ถือทองจริงๆ แต่ก็ต้องตามข่าวสารอยู่ดี เพราะตลาดทองคำแท้และตลาด Forex มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้ราคาทองและอัตราแลกเปลี่ยนสามารถผันผวนได้ตามเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของการเทรดทองในตลาด Forex
3. ยังไม่เข้าใจวิธีการเทรด หรือ กลยุทธ์ในการเทรด
อย่างที่เราทราบกันดีว่าการเทรดไม่ว่าจะเทรดคู่เงิน หรือ เทรดโลหะ ก็จำเป็นต้องเข้าใจระบบและกลยุทธ์ในการเทรดให้ดีเสียก่อน ใช้ความรู้และประสบการณ์ และต้องอาศัยการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งปัจจุบันมีความรู้เหล่านี้ค่อนข้างมาก เราสามารถคัดสรรกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเราได้เลย
กลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ในการเทรดทองได้
คุณอาจเลือกใช้เส้นไข่ปลาอย่าง parabolic ในการทำนายทิศทางการขึ้นหรือลงของกราฟ หรือคุณอาจเลือกใช้ Bollinger Band ในการมองหาช่วงแกว่งของราคาที่รุนแรงเพื่อทำการเทรดก็สามารถทำได้ครับ
เครื่องมือที่ช่วยในการเทรดทอง
1.แพลตฟอร์มเทรด
- MT4 และ MT5: แพลตฟอร์มยอดนิยมที่มี Indicators และเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย
- แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์: บางโบรกเกอร์มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจมีฟีเจอร์เฉพาะที่น่าสนใจ
2. Indicators
สำหรับการเทรดทอง Indicators คือเครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยวิเคราะห์ราคาและแนวโน้มของทองคำในตลาด Forex เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองได้แม่นยำมากขึ้น
3. ปฏิทินเศรษฐกิจ
- ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ ช่วยในการวางแผนการเทรดล่วงหน้าและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของข่าว
- ผมแนะนำเป็นเว็บไซต์ Forex Factory เป็นแหล่งข้อมูลที่นิยมใช้กันมากสำหรับเทรดเดอร์ครับ

4. เครื่องมือจัดการความเสี่ยง
- Stop Loss: จำกัดการขาดทุน
- Take Profit: ล็อกกำไรโดยปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อได้กำไรถึงเป้าหมาย
3 Indicators ยอดนิยมที่ใช้เพื่อ เทรดทอง
1.Supply and demand indicator
Indicator นี้ช่วยให้ Trader ระบุพื้นที่ที่มีกิจกรรมการซื้อและขายจำนวนมาก ช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าเมื่อใดควรเข้าหรือออกจากการซื้อขาย
2. Triangles and Pennants
Indicator ตัวนี้จะบอก Chart patterns ที่สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มการกลับตัวหรือไปต่อ trader สามารถวาง Stop loss เส้นแนวโน้มขาลงหลังจากที่เส้นแนวโน้มทั้งสองมาบรรจบกัน และสามารถออกคำสั่งขายในกรณีที่ราคาของ XAU/USD ทะลุผ่านได้สำเร็จ
3. Moving Average (MA)
เจ้า Indicator ตัวนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการเทรด forex เพราะมันช่วยให้ Trader ระบุแนวโน้มและจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้ กลยุทธ์ทั่วไปคือการใช้ MA ตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เช่น MA 50 และ 200 เพื่อช่วยระบุความแข็งแกร่งและทิศทางของแนวโน้ม (ที่จริงแล้วค่า 2 ตัวนี้สามารถหาใหม่ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นค่านี้เท่านั้น)
สรุป
โดยสรุปแล้ว การเลือกที่จะเทรดทอง ก็เหมือนกับการเทรด Forex ในส่วนของราคาเงินหรือว่าเป็นการเทรดในส่วนของหุ้นนั่นเอง แต่ว่ามีข้อดีประการสำคัญคือ คุณนั้นสามารถคำนวณหาจุดของการเทรดทอง หรือทำนายทิศทางของการแกว่งตัวของทองคำได้ง่ายกว่าสิ่งอื่นๆ นั่นเองครับ อีกครั้งยังไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาจี้หรือมาปล้นเงินของคุณไปอย่างแน่นอน
ถือเป็นวิธีการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ด้วยสภาพคล่องสูงและโอกาสทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
คำเตือน: การลงทุนในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง อย่าลงทุนด้วยเงินที่เกินความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ
ทีมงาน: forexthai.in.th