FXTM (Forextime) เป็น โบรกเกอร์ที่เริ่มมาแรงในระยะ 4-5 ปีมานี้ มีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน จัดได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วโบรกเกอร์หนึ่ง FXTM เริ่มก่อตั้งในปี 2011 (ถือว่าเป็นโบรกที่มีอายุเกิน 10 แล้ว ความน่าเชื่อถือในแง่ความมั่นคงของบริษัทถือว่าผ่านเกณฑ์) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศมอริเชียส
ระบบ Server ค่อนข้างดีเทรดเร็ว เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในยุโรปและเอเชีย spread อยู่ในระดับกลางถึงแคบ เว็บไซต์รองรับภาษาทั้งหมด 18 ภาษารวมถึงภาษาไทย มีระบบ VPS Hosting และมีระบบ Copy Trade
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
มาตรฐานและ ใบอนุญาต FXTM
โบรกเกอร์ FXTM ได้รับอนุญาตจาก
- ใบอนุญาต Financial Conduct Authority (FCA) (หมายเลขทะเบียน FCA777911 )
- ใบอนุญาต Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ( ใบอนุญาตเลขที่ CySEC185/12 )
- International Financial Services Commission (IFSC)
ซึ่งถือได้ว่า มีความมั่นคงและเชื่อมั่นสูงพอสมควร โบรกเกอร์ FXTM มีระบบแยกเงินของเทรดเดอร์ โดยจะได้รับการจัดเก็บแยกต่างหากจากเงินของบริษัท และรักษาไว้ในธนาคารชั้นนำของยุโรป ทางโบรกเกอร์ FXTM ยังเป็นสมาชิกของ ICF (Investor compensation fund) เพื่อมอบความมั่นใจและรับประกันการชดเชยเงินแก่ลูกค้าสูงสุดถึง 20,000 ยูโร
FXTM แบรนด์ที่ได้รับรางวัลระดับโลก
มีชื่อเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ forex ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ForexTime (FXTM) มีความคืบหน้าอย่างก้าวกระโดดในเวลาอันสั้น ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติมากมาย ครับ
- 2019 รางวัล BEST TRADING EXPERIENCE ประสบการณ์เทรดที่ยอดเยี่ยม
- 2018 รางวัล REPUTABLE INVESTOR EDUCATION FOREX BROKER รางวัลโบรกเกอร์ Forex ด้านการให้ความรู้แก่นักลงทุนที่มีชื่อเสียง
- 2018 FOREX BRAND OF THE YEAR CHAINA แบรนด์ Forex แห่งปี
- 2018 BEST FX BROKER ASIA โบรกเกอร์ FX ที่ดีที่สุดในเอเชีย
- 2018 BEST TRADING CONDITIONS เงื่อนไขในการเทรดยอดเยี่ยม
- 2017 BEST CUSTOMER SERVICE GLOBAL ฝ่ายบริการลูกค้าที่ดีที่สุดในโลก
นำเสนอเพียงบางส่วนของ FXTM ที่ได้รับรางวัลครับ
แพลตฟอร์มเทรด FXTM
โปรแกรมบน PC
ทุกบัญชีของ FXTM ใช้แพลตฟอร์มมาตรฐานอย่าง MetaTrader 4 ในทั้งสามประเภทบัญชี ได้แก่ Micro, Advantage, และ Advantage Plus และ MetaTrader 5 ในบัญชี Advantage, และ Advantage Plus
App บนมือถือ
มี Platform MetaTrader ที่สามารถใช้งานบนมือถือและแท็บเล็ต ทั้งบนระบบ iOS และ Android ข้อได้เปรียบในการใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader คือฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดทั่วไป
Webtrader
เป็นรูปแบบการเทรด online รองรับได้ทุก Brower ไม่ว่าจะเป็น Chrome, firefox, Opera, Safare แต่โดยส่วนตัวชอบ MT4-5 มากกว่า เพราะเทรดผ่านเว็บจะมีปัญหาเรื่องการส่งคำสั่งที่ช้ากว่า เนื่องจากระบบจะแชร์ทรัพยากรร่วมกับข้อมูลอื่นๆที่ Brower โหลดมานำเสนอด้วย
คุณสมบัติของ FXTM
- Spread ต่ำ
- มีบัญชีหลากหลาย ถึง 7 ชนิดบัญชี
- มีระบบ Copy Trade
- รองรับการฝาก ถอน ผ่านธนาคารไทย
- ให้ เลเวอเลจ สูงสุดที่ 1:1000
- เปิดบัญชีได้ง่าย รวดเร็ว
- ไม่มีฝากเงินขั้นต่ำ
- มี Support เป็นภาษาไทย
- มี VPS ไว้ให้บริการ
- มีโบนัสและโปรโมชั่นตลอดปี
เปรียบเทียบรายละเอียดประเภทบัญชี ของ FXTM (บัญชีแบบเดิม 7 ประเภท)
FXTM มีบัญชีให้เราเลือกเทรดได้ถึง 7 บัญชี ซึ่งด้วยบัญชีการเทรดที่หลากหลายจะทำให้เรามีโอกาสเลือกบัญชีที่ตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์ด้านการลงทุนของเทรดเดอร์ เริ่มต้นเส้นทางในโลกแห่งการเทรด Forex ด้วยบัญชีที่เหมาะกับตัวตนของเรา
1.บัญชี Standard:
บัญชีประเภทนี้กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pip และ margin call อยู่ที่ 40% ใน FT Global Limited และ 80% ใน Forextime Limited ข้อได้เปรียบของบัญชีนี้คือคุณยังสามารถเทรดข้อเสนอสกุลเงินดิจิทัลที่มีบน FT Global Limited
2.บัญชี Cent:
เป็นบัญชีขั้นต้น เงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ สเปรดจะกว้างกว่า โดยเริ่มต้นที่ 1.5 pip และ margin call อยู่ที่ 60% ใน FT Global Limited และ 80% ใน Forextime Limited มีข้อจำกัดเรื่องคู่สกุลเงินที่สามารถเทรดด้วยมีคู่สกุลเงินหายากจำนวนมากที่ Spread จะกว้างกว่าซึ่งไม่เหมาะสมกับขนาดของบัญชี สิ่งที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียวของบัญชีเมื่อเปรียบเทียบกับบัญชีอื่น ๆ คือเงินฝากขั้นต่ำ ดังนั้นหากคุณมีเงินสำหรับลงทุน แนะนำให้เปิดบัญชี Standard ตามที่ระบุข้างต้นหรือบัญชี ECN Zero
3.บัญชีหุ้น:
บัญชีหุ้นกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ Spread เริ่มต้นที่ 0.1 pip และ margin call ที่ 40% ใน FT Global Limited และ 80% ใน ซึ่ง FXTM ได้นำเสนอการเทรดประมาณ 180 หุ้นบริษัทจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและแนสแด็กและให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์จากทั้งสองตลาดหลักทรัพย์
4.บัญชี ECN:
หากเรากำลังมองหา Spread ที่แคบกว่าและรับได้กับการจ่ายค่าคอมมิชชันต่อล็อต บัญชีนี้อาจเป็นบัญชีสำหรับคุณ ด้วยเลเวอเรจมาตรฐานที่เสนอ บัญชีนี้กำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
5.บัญชี ECN Zero:
spread เริ่มต้นที่ 1.5 pip สำหรับบัญชีประเภทนี้ แต่ไม่มีค่าคอมมิชชันต่อล็อตการเทรดและเงินฝากขั้นต่ำที่ต่ำลงเหลือเพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะ Spread ที่กว้างกว่า คุณจะจ่ายค่าธรรมเนียมที่มากกว่าให้กับโบรกเกอร์ในระยะยาวเมื่อเปรียบเทียบกับบัญชี ECN หลักหมายเหตุ: บัญชี ECN ของ FXTMมีสองประเภทบัญชีหลักสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มือสมัครเล่นและหนึ่งประเภทบัญชีสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ ที่มีเงินฝากขั้นต่ำสูงกว่า ทุกบัญชี ECN ใช้การดำเนินการแบบตลาดในการดำเนินการคำสั่งและเสนอทางเลือกในการใช้แพลตฟอร์ม MT5 เพราะเป็นบัญชีที่มีการดำเนินการแบบตลาด คุณจะไม่สามารถตั้ง stop loss และ take profit ในขณะที่เปิดการเทรด เพิ่มความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ทุกบัญชี ECN กำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าบัญชี Standard แต่ Spread จะแคบกว่า
6.บัญชี FXTM Pro:
เงินฝากขั้นต่ำที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่มีค่าคอมมิชชันจากการเทรดและ Spread ที่ต่ำเพียง 0 pip บัญชี FXTM Pro เป็นบัญชีสำหรับมืออาชีพชั้นเยี่ยม ที่ไม่สามารถปรับปรุงได้มากนัก หากคุณเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ลงทะเบียนและติดต่อกับทีมงานเพื่อดูว่า FXTM ใช่สำหรับคุณหรือไม่
7.บัญชีอิสลาม
เปรียบเทียบรายละเอียดประเภทบัญชี ของ FXTM (บัญชีแบบใหม่ 2023)
ปัจจุบันบัญชีของ โบรกเกอร FXTM มี 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
1. Micro (เดิมคือ FXTM Cent)
การเปิดใช้งานด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 $ แต่สเปรดจะกว้างที่สุดใน 3 ประเภทบัญชี (เมื่อเทียบค่าบริการรวมคือ Spread + Commission ก็แพงที่สุด ชดเชยกับที่ฝากขั้นต่ำน้อย) โดย spread เริ่มต้นที่ 1.5 pip และ margin call อยู่ที่ 60% และ stop out (ปิดคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ) อยู่ที่ 40% ซึ่งถือว่าโหดมาก มี Platform เฉพาะ MT4 จึงทำให้เทรดได้เพียง FX, ดัชนี FX, โลหะมีค่า, สินค้าโภคภัณฑ์, และกลุ่มหุ้น บัญชีเป็นแบบ Instant execution ออกคำสั่งทันที แต่ยังผ่านตัวกลาง
Leverage เป็นแบบคงที่ตามที่เราเลือก คือ
- FX – 1:3 ถึง 1:1000 (คงที่)
- โลหะมีค่า – 1:500 (คงที่)
* เหมาะเป็นเพียงบัญชีทดลองเทรด หรือใช้เป็นบัญชีฝึกฝนระบบเทรดเท่านั้น หรือรัน EA ที่ % Drawdown(DD.) ต่ำ ดังนั้นหากคุณมีเงินสำหรับลงทุน แนะนำให้เปิดบัญชี Advantage ไปเลย
2. Advantage (เดิมคือ FXTM ECN)
เป็นบัญชีที่ Spread แคบที่สุด และค่าบริการโดยรวมต่ำที่สุด (ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้น $0.40 ถึง $2 ตามปริมาณซื้อขายและยอดสุทธิ) เลเวอเรจลอยตัวจาก 1:2000 (ยิ่งเงินในบัญชีน้อย Leverage ยิ่งสูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและแน่นอนเพิ่มโอกาสล้างพอร์ต)
Stop out 50% ซึ่งถือว่าโหดมาก ต้องวางแผนการเทรดดีๆ แต่เพราะบัญชีให้ Leverage มาสูงแล้ว แค่ไม่ Overtrade ก็อาจรอดได้โดยไม่ต้องเติมเงินแก้พอร์ต บัญชีนี้กำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 500 $ แอบแพงแต่เข้าใจได้เพราะเป็นบัญชีประเภท ECN ที่ส่งคำสั่งโดยตรงต่อตลาด (Market execution)
* บัญชีนี้เป็นบัญชีแนะนำเพราะเป็นบัญชีประเภท ECN ที่เทรดลื่นไหล ส่งคำสั่งโดยตรงต่อตลาด ค่าบริการรวมโดยเฉลี่ยคู่เงินหลักที่เทรดกันถูกที่สุดใน 3 บัญชี และการฝากเงินต่ำสุดก็เท่ากับ บัญชี Advantage Plus ที่ค่าบริการรวมสูงกว่ามาก
3. Advantage Plus (เดิมคือ FXTM ECN ZERO)
spread เริ่มต้นที่ 1.5 pip ไม่มีค่าคอมมิชชัน เงินฝากขั้นต่ำ 500 $, Platform เทรดได้ทั้ง MT4 / MT5, ออกคำสั่งโดยตรงต่อตลาด (Market Execution) เช่นเดียวกับบัญชี Advantage, Stop out 50% ซึ่งโหดกว่าหลายๆโบรก ชดเชยด้วย เลเวอเรจลอยตัวจาก 1:2000 (ยิ่งเงินในบัญชีน้อย Leverage ยิ่งสูง)
รายละเอียดของแต่ละบัญชีอย่างละเอียด ซึ่งปัจจุบัน บัญชีของ โบรกเกอร์ FXTM จาก 7 บัญชี ลดเหลือเพียง 3 บัญชี ได้แก่ Micro, Advantage, และ Advantage Plus
ข้อดีของโบรกเกอร์ FXTM
- เทรดเร็ว ลื่นไหล เปิด-ปิดออร์เดอร์ และตั้งค่าลากเส้น เช่น TP SL ได้เร็ว แม้เทรดในช่วงข่าว
- Spread ไปทางต่ำ โดยเฉพาะบัญชี Advantage โดยเมื่อรวมค่าบริการทั้ง Spread + Commission บัญชี Advantage ก็ต่ำที่สุด (น่าเสียดายที่ไม่มีบัญชี FXTM Pro แล้ว เพราะค่าบริการรวมต่ำที่สุด ต่ำกว่า บัญชี Advantage มาก)
- ไม่มี swap ทุกบัญชีที่เป็น MT4 แต่ต้องขอเป็นรอบๆ ไป แล้วแต่คู่เงินด้วย
- ระบบหน้าบ้าน (ตัวเว็บ) และหลังบ้าน (User Account) ใช้งานง่าย
- ให้ เลเวอเลจ สูงสุดที่ 1:2000 (ลอยตัว) แต่ไม่สัมพันธ์กับ stop out ที่สูงไป ทำให้เวลาเทรดช่วงมันๆมือ คือ Over trade อาจเจอปัญหาขาดทุนหนักได้
- เปิดบัญชีได้ง่าย รวดเร็ว
- มี Support เป็นภาษาไทย การตอบคำถามเข้าใจง่าย และมีหลายช่องทางในการติดต่อ
- มีระบบ Copy Trade ไว้สำหรับเทรดตาม “เทพ Forex” ที่เทรดเก่งๆที่ โบรกเกอร์ FXTM เลือกมาแล้วแบบอัตโนมัติ (ให้บริการ Copy Trade ภายใต้ Brand FXTM Invest)
- รองรับการฝาก-ถอน ผ่านธนาคารไทย (แต่ตอนถอนโดยเฉพาะครั้งแรกยุ่งยากมาก ที่หงุดหงิดคือไม่บอกอะไรให้ชัดเจนว่าต้องทำตามกติกาอะไรบ้าง)
- มี VPS ไว้ให้บริการ ภายใต้เงื่อนไข ต้องมีเงินฝากสุทธิ 5,000 $ ซึ่งผมมองว่าสูงไป โบรกอื่นแค่ 500-1,000 $ เอง
ข้อเสียของโบรกเกอร์ FXTM
- การปิดคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ (Stop out) สูงมาก โดยบัญชี Micro 40%, บัญชี Advantage และ Advantage Plus 50% ซึ่งถือว่าโหดมาก ใครที่เทรดแบบทนลาก หรือเทรด EA ชนิดลากยาว จะใช้กับโบรกนี้ไม่ได้
- ไม่ค่อยมี โปรโมชั่นหรือโบนัส ทั้งๆที่ Stop out สูงขนาดนั้น ควรจะชดเชยด้วยโบนัสให้ทนลากบ้าง ไม่สมดุลกับ Leverage ที่ให้เลย
- การโอนเงินบัญชีภายใน micro ต้องไม่มีเศษถึงจะโอนเงินได้
- ถอนเงินยาก โดยเฉพาะครั้งแรกของการถอนเงิน มีการเรียกร้องจาก Trader หลายคน เพราะเงื่อนไขการถอนดูจุกจิก เพราะต้องแนบ สลิปหรือหน้ารายการย้อนหลังใน internet banking หรือ e-bank statement ที่แสดงรายการฝากเงิน ตลอดจนกรอกข้อมูลละเอียดมาก และบางทีการถอนเงินจะเรียกขอภาพบัตรประชาชนด้วย ( แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง )
- ช่วงข่าวอาจจะมี Re-Quote บ้าง
เลเวอเรจ ของ FXTM
โบรกเกอร์ FXTM ให้ Leverage สูงสุด 1:2000 (ลอยตัว) ตามรายละเอียดในตาราง เลเวอเรจ ของบัญชีเทรดแบบ Advantage และ Advantage Plus (MT4 & MT5) ยิ่งเงินฝากมาก Leverage ก็ต่ำลง…. ส่วนของบัญชี Micro (MT4) จะเป็น FX – 1:3 ถึง 1:1000 (คงที่), โลหะมีค่า – 1:500 (คงที่)
โปรโมชั่นโบนัสและแคชแบ็คสำหรับ FXTM
ปัจจุบัน FXTM ไม่มีนโยบาย การให้โปรโมชั่น โบนัส หรือแคชแบ็คแล้ว คงมีแต่โปรแกรมแนะนำเพื่อน 50 $ (จะหมดอายุกลางปี 2022 นี้) สำหรับการแนะนำเพื่อนให้มาเทรดโบรกนี้ (มีกำหนดในการฝากเงินขั้นต่ำและจำนวนล็อตที่เทรด) สมัยก่อน มี The Deposit Booster และ รับแคชแบ็คเพิ่มเติม $8/ล็อตด้วย (ปัจจุบันไม่แล้ว แต่ยังลงให้ดูเผื่อโบรกเอากลับมาใหม่)
- The Deposit Booste : โบนัสเอาไว้ทนลากหลังฝากเงิน และรับแคชแบ็ค $8 ในทุกล็อตที่เทรดเป็นเวลาสองสัปดาห์เต็ม เพียงแค่ทำการฝากเงินใหม่และปลดล็อคโบนัสอีกสองสัปดาห์
- แคชแบ็ค 8 $: เงินคืนสำหรับสมาชิก FXTM ตอบแทนนักเทรดด้วยเงินคืนตามจำนวนเทรดที่เป็นเงินสดและถอนได้จริง
- ไม่ใช่ให้เป็นคะแนนหรือเครดิตอิเล็กทรอนิกส์
- สำหรับทุกล็อตที่เทรดสูงสุดถึง 6 เดือน! รับสิทธิประโยชน์ได้ถึงห้าระดับ ยิ่งระดับสูงเท่าใด ก็ยิ่งได้รับเงินคืนมากเท่านั้น!
การฝาก ถอนเงิน ของ FXTM
วิธีการฝากและถอนเงิน มีหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การฝากผ่าน Online Banking Thailand, QR Promptpay Thailand, Google Pay, Mastercard Cards, PerfectMoney, Neteller, Skrill, และบิตคอยน์ เป็นต้น รองรับเงินสกุลที่มีความหลากหลาย ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการฝาก ส่วนการถอนมีและไม่มีค่าคอมมิชชั่นแล้วแต่ช่องทาง (แต่ระยะเวลาดำเนินการก็ไม่เท่ากัน แต่จะมีรายละเอียดระบุให้ชัดเจน)
ช่องทางการฝากเงินที่ FXTM ช่องทางหลัก ที่แนะนำคือ Online Banking Thailand (ธนาคารในประเทศไทย) หรือ QR Promptpay Thailand ครับ
โดยทาง FXTM รับรองว่าการ ฝาก-ถอน หรือโอนเงิน ผ่านช่องทางหลัก จะดำเนินการให้ภายใน 24 ชั่วโมง ตามเวลาทำการของบริษัทนั่นก็คือ 7.00-20.00 น. โดยระยะเวลาการฝากเงินประมาณ 5 นาที และ เวลาในการถอนจริงประมาณ 1 ชั่วโมง (ถ้าไม่ติดขัดอะไร หรือถ้าไม่ใช่การถอนครั้งแรก ที่ต้องแนบและกรอกเอกสารอะไรมากมาย) ถ้านานกว่านี้ติดตามได้ทันที
โดยลูกค้าของโบรกเกอร์ FXTM จากประเทศไทย สามารถฝากและถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย
นี่คือช่องทางการฝากเงินที่เป็นช่องทางรองของโบรกเกอร์ FXTM
ช่องทางการถอนเงินของโบรกเกอร์ FXTM ช่องทางหลักที่แนะนำคือ Online Banking Thailand (ธนาคารในประเทศไทย) ครับ เพราะถ้าถอนผ่าน QR Promtpay Thailand จะมีค่าคอมมิชั่น 2.5% (โหดไป)
ช่องทางการถอนเงินของ โบรกเกอร์ FXTM ช่องทางรอง โดยมีเงื่อนไขค่าธรรมเนียม (คอมมิชชั่น) และระยะเวลาดังแสดง ## โดยบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน (ไม่มีการดำเนินการซื้อขาย) เป็นระยะเวลา 6 เดือน จะเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานเป็นจำนวน 5 EUR/ USD/ GBP ## อันนี้ไม่ค่อยโอเค
บริการ VPS ของ FXTM
โบรกเกอร์ FXTM มีบริการ VPS ฟรีแก่ลูกค้าที่ฝากเงินขั้นต่ำ 5,000 $ สำหรับลูกค้าที่เทรดโดยใช้ EA (Expert Advisor) ส่วนตัวแล้ว มองว่า ต้องฝากเยอะเกินไปมั๊ย หลายโบรกฝากแค่ 1,000$ เอง
บทสรุป รีวิว โบรกเกอร์ FXTM
โบรกเกอร์ FXTM (Forextime) เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ถือว่ามีอายุเกิน 10 แล้ว ความน่าเชื่อถือในแง่ความความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัทสูง, ระบบ Server ค่อนข้างดี เทรดเร็ว ลื่นไหล แม้เทรดในช่วงข่าว, spread อยู่ในระดับกลางถึงแคบ, ไม่มี swap ทุกบัญชีที่เป็น MT4 แต่ต้องขอเป็นรอบๆ ไป แล้วแต่ละคู่เงินด้วย, ระบบหน้าบ้าน(ตัวเว็บ) และหลังบ้าน (User Account) ใช้งานง่าย
ข้อเสียคือ การปิดคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ (Stop out) สูงมาก โดยบัญชี Micro 40%, บัญชี Advantage และ Advantage Plus 50% ซึ่งถือว่าโหดมาก ถอนเงินยาก โดยเฉพาะครั้งแรกของการถอนเงิน เงื่อนไขการถอนดูจุกจิก เพราะต้องแนบ สลิปหรือหน้ารายการย้อนหลังใน internet banking หรือ e-bank statement ที่แสดงรายการฝากเงิน ตลอดจนกรอกข้อมูลละเอียดมาก บางครั้งช่วงข่าวอาจจะเจอ Re-Quote
* บัญชีที่แนะนำ: เนื่องจากการเทรดลื่นไหลพอๆกัน หากไม่ต้องการใช้บัญชีประเภท Cent ซึ่งฝากขั้นต่ำ 10$ (ค่าบริการรวมแพงสุดในสามบัญชี) แนะนำให้ใช้บัญชี Advantage เนื่องจากค่าบริการรวม (Spread + Commission) ถูกที่สุด แต่ก็ต้องฝากขั้นต่ำ 500 $ ซึ่งอาจใช้เทคนิคฝากไปก่อนแล้วเทรดสักไม้ จากนั้นค่อยปิดไม้แล้วถอนออกบางส่วน
ทีมงาน: forexthai.in.th