สภาวะของตลาด Forex การระบุเทรนด์ในตลาด สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่นักเทรดต้องการพิจารณา ปัจจัยที่สามารถช่วยชี้วัดแนวโน้มในตลาด forex เพื่อระบุ Trend นั้น มีดังนี้
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการระบุเทรนด์ในตลาด forex โดยนักเทรดจะพิจารณาจากรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา ตัวอย่างวิธีการระบุเทรนด์ในตลาด forex โดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ดังนี้
- trend line พิจารณาจากเส้นแนวโน้ม: หากเส้นแนวโน้มมีทิศทางขาขึ้น แสดงว่าราคากำลังมีแนวโน้มขาขึ้น
- support and resistance พิจารณาจากแนวรับและแนวต้าน: หากราคาทะลุผ่านแนวต้านไปได้ แสดงว่าราคากำลังมีแนวโน้มขาขึ้น
- moving average พิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่: หากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวขึ้น แสดงว่าราคากำลังมีแนวโน้มขาขึ้น
การวิเคราะห์พื้นฐาน
การวิเคราะห์พื้นฐานเป็นการพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย ตัวเลขเศรษฐกิจ นโยบายการเงินและการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น
- อัตราดอกเบี้ย: หากประเทศใดมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าประเทศอื่น จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
- ตัวเลขเศรษฐกิจ: หากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศใดออกมาดี จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
- นโยบายการเงิน: หากนโยบายการเงินของประเทศใดผ่อนคลายลง จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
ข่าวและเหตุการณ์สำคัญ
ข่าวและเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเลือกตั้ง ความขัดแย้งทางการเมือง ภัยธรรมชาติ เป็นต้น ก็สามารถส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของค่าเงินได้เช่นกัน
- การเลือกตั้ง: หากประเทศใดมีการเลือกตั้ง จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นมีความผันผวน
- การเมือง: หากมีความขัดแย้งทางการเมือง จะทำให้ค่าเงินของประเทศที่ได้รับผลกระทบอ่อนค่าลง
- ภัยธรรมชาติ: หากเกิดภัยธรรมชาติ จะทำให้ค่าเงินของประเทศที่ได้รับผลกระทบอ่อนค่าลง
การระบุเทรนด์ในตลาด forex นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากราคาของค่าเงินอาจมีความผันผวนสูง และปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของค่าเงินก็มีมากมาย นักเทรดจึงควรศึกษาข้อมูลและปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถระบุแนวโน้มได้อย่างแม่นยำและตัดสินใจซื้อขายได้อย่างเหมาะสม
ตลาดที่เกิด Trend คืออะไร?
ตลาดที่เกิด Trend คือ ตลาดที่ราคามีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะเคลื่อนไหวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากราคามีการทะลุผ่านแนวต้านที่สำคัญไปได้ แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และมีโอกาสที่จะขยายตัวต่อไปได้
การเทรดบนตลาดที่เป็น Trend
ตลาดที่เกิด Trend จะช่วยในการเทรดได้ โดยช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
- เทรดตาม Trend: เป็นการเทรดโดยอาศัยแนวโน้มของราคา โดยนักเทรดจะเข้าซื้อหรือขายเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้
- เทรดสวน Trend: เป็นการเทรดโดยอาศัยการกลับตัวของแนวโน้ม โดยนักเทรดจะเข้าซื้อหรือขายเมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญไปได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดที่เกิดเทรนด์ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น นักเทรดจึงควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างทันท่วงที
ประโยชน์ของการเทรดในตลาดที่เป็น Trend
ในตลาด Forex เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถระบุได้ว่าตลาดกำลังอยู่ใน Trend ที่เป็นขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน อย่างใดอย่างหนึ่ง จะมีประโยชน์ต่อการเทรดอย่างมาก ดังนี้
- มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น: เนื่องจากนักเทรดสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำ
- ช่วยลดความเสี่ยง: เนื่องจากนักเทรดสามารถกำหนดจุดตัดขาดทุนได้อย่างชัดเจน
- มีความสม่ำเสมอ: เนื่องจากเทรดตามแนวโน้มนั้นมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าเทรดแบบสุ่ม
อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการเทรดตลาดที่เกิดเทรนด์ เนื่องจากเทรนด์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เครื่องมือ Indicator ที่ใช้เพื่อระบุเทรนด์
สำหรับเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Indicator ที่นำมาใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์หาแนวโน้มของตลาดที่เกิด Trend ได้อย่างดี ที่นักเทรดนิยมใช้กันอย่างมากนั้น มีดังนี้
- ADX (Average Directional Index)
- Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
- Bollinger Bands
ซึ่งเครื่องมือแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกัน ใครที่ชอบแบบไหนถนัดใช้ Indicator ตัวใด ก็สามารถเลือกใช้ได้จากเครื่องมือการวิเคราะห์ราคาในแพล็ตฟอร์มการเทรดได้เลย
เครื่องมือ ADX ช่วยวัดความแรงของ Trend
เครื่องมือ ADX (Average Directional Index) เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความแรงของแนวโน้มในการเคลื่อนไหวของราคา โดยค่า ADX จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 ค่า ADX ที่ 25 หรือสูงกว่า ถือเป็นแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ค่าต่ำกว่า 20 บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อ่อนแอ โดยมีหลักในการพิจารณา ดังนี้
- ค่า ADX ต่ำกว่า 20 แสดงว่าไม่มีแนวโน้ม
- ค่า ADX อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 แสดงว่ามีแนวโน้มอ่อนแอ
- ค่า ADX อยู่ระหว่าง 30 ถึง 50 แสดงว่ามีแนวโน้มปานกลาง
- ค่า ADX สูงกว่า 50 แสดงว่ามีแนวโน้มแข็งแกร่ง
การระบุ Trend ด้วย ADX
ในการระบุตลาดที่เกิดเทรนด์ด้วยเครื่องมือ ADX นักเทรดสามารถพิจารณาจากค่า ADX ดังนี้
- หากค่า ADX สูงกว่า 50 แสดงว่าตลาดที่เกิดเทรนด์
- หากค่า ADX อยู่ระหว่าง 25 ถึง 50 แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แสดงว่าตลาดกำลังเข้าสู่แนวโน้ม
- หากค่า ADX อยู่ระหว่าง 25 ถึง 50 แต่มีแนวโน้มลดลง แสดงว่าตลาดกำลังออกจากแนวโน้ม
อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องมือ ADX เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการระบุตลาดที่เกิดเทรนด์อย่างแม่นยำ นักเทรดควรพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ปริมาณการซื้อขาย ความกว้างของแท่งเทียน และแนวรับแนวต้าน
Moving Averages (MA) วัดความแข็งแกร่งของ Trend
ในการใช้เครื่องมือ Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ในช่วงที่ตลาดเกิด Trend นั้น จะช่วยในการ “วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม” ได้ โดยพิจารณาได้จากสิ่งต่อไปนี้
ทิศทางของเส้น MA:
ทิศทางของเส้น MA สามารถบ่งบอกทิศทางของแนวโน้มได้ โดยหากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มีทิศทางขาขึ้น แสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มีทิศทางขาลง แสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง
การวิ่งของราคาเมื่อเทียบกับ MA:
หากราคาเคลื่อนที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีความแข็งแกร่ง หากราคาเคลื่อนที่อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีความอ่อนแอ
ราคาทะลุผ่านเส้น MA:
หากราคาทะลุผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แสดงว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนทิศทาง
นักเทรดสามารถพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Bollinger Bands ใช้วัดความผันผวนของ Trend
Bollinger Bands เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ใน “การวัดความผันผวนของราคาที่เป็น Trend” โดยประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Moving Average แบบ 20 วัน (SMA 20) และเส้นบนและเส้นล่าง ซึ่งเป็นเส้นมาตรฐานเบี่ยงเบนจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ โดยค่ามาตรฐานเบี่ยงเบนเริ่มต้นที่ 2
Bollinger Bands สามารถใช้ในการบอกเทรนด์ของตลาดที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้นได้ โดยพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
ความกว้างของ Bollinger Bands:
- หาก Bollinger Bands กว้าง แสดงว่าราคามีความผันผวนสูง มักเกิดขึ้นในช่วงตลาดที่มีการเทรดอย่างคึกคัก Trend ของตลาดในช่วงเวลาดังกล่าวอาจไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
- หาก Bollinger Bands แคบ แสดงว่าราคามีความผันผวนต่ำ มักเกิดขึ้นในช่วงตลาดที่เงียบเหงา เทรนด์ของตลาดในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีความชัดเจนมากขึ้น
การเคลื่อนที่ของราคากับ Bollinger Bands:
- หากราคาเคลื่อนที่อยู่ภายในกรอบ Bollinger Bands แสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มไซด์เวย์
- หากราคาทะลุผ่านกรอบ Bollinger Bands แสดงว่าตลาดกำลังเข้าสู่แนวโน้มใหม่
- หากราคาทะลุผ่านเส้นกลาง Bollinger Bands แสดงว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนทิศทาง
ตลาด Side Way คืออะไร?
ตลาด Side Way คือ ตลาดที่ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน มักเกิดขึ้นในช่วงที่ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคไม่เอื้อต่อการเกิด Trend ตัวอย่างเช่น ตลาดที่เศรษฐกิจชะลอตัวหรือตลาดที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น
ลักษณะของตลาด Side Way
ในการระบุสภาพของตลาด Forex ว่าเป็นตลาด Side Way หรือไม่นั้น ให้พิจารณาจากลักษณะดังนี้
- มีช่วงราคาแคบ: ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยมักมีช่วงราคาที่ค่อนข้างจำกัด
- Volume ต่ำ: ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางของราคา
- แท่งเทียนเล็ก: แท่งเทียนจะมีขนาดเล็ก เนื่องจากแรงซื้อและแรงขายมีกำลังใกล้เคียงกัน
- แนวรับและแนวต้านชัดเจน: ราคามักมีการทดสอบแนวรับและแนวต้านอยู่บ่อยครั้ง
การใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการระบุตลาด Side Way ได้แก่ Bollinger Bands, Average Directional Index (ADX) และ Relative Strength Index (RSI) ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว
ข้อดี – ข้อเสีย ของตลาด Side Way
การเทรดในตลาด Forex เพื่อทำกำไร ในช่วงที่ตลาด Side Way มีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดี:
- มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ทำให้นักลงทุนมีโอกาสน้อยที่จะขาดทุน
- สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดได้หลากหลาย เนื่องจากตลาด Side Way ไม่มีการจำกัดทิศทางของราคา
ข้อเสีย:
- โอกาสทำกำไรน้อย เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ทำให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรน้อยลง
- ต้องใช้ความอดทนสูง เนื่องจากนักเทรดอาจต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะเห็นผลกำไร
นักเทรดควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเทรดในตลาด Side Way เนื่องจากตลาด Side Way มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ทีมงาน: forexthai.in.th