MindSet ของบรรดาเทรดเดอร์ที่จะต้องรู้ จะต้องทำให้ได้ในการเทรด Forex ก่อนอื่นต้องมาดูความหมายของ Mindset ก่อนครับ โดย MindSet ดั่งกล่าว คือ กระบวนการคิด เป็นสิ่งหนึ่งที่แยกระหว่างเทรดเดอร์มืออาชีพกับเทรดเดอร์มือใหม่ออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งคนส่วนมากชอบคิดว่าวิธีการเทรด, เครื่องมือที่ใช้, Indicator ต่างๆ เป็นตัวแปรที่ทำให้ชนะการเทรดในระยะยาว แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดมันคือ Mindset ของเทรดเดอร์
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Mindset ที่สมบูรณ์ต้องพร้อมด้วย
-
วินัย หรือ Discipline
ชุดความคิด หรือ Mindset ที่ต้องจำไว้แทบจะทุกวินาทีเลย นั่นคือ วินัย หรือ Discipline เราจะทำการเทรด Forex อย่างไรต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน เช่น
- เราต้องรอ Indicator ที่เราเลือกใช้ทำการยืนยันสัญญาณอย่างน้อย 1-2 ตัว
- แบ่งใช้เงินเทรดจำนวน 15-20% ของเงินทุนทั้งหมดที่มีในพอร์ต อย่าทุ่มหมดหน้าตัก
- หากเทรดผิดทางให้ตั้งสติหาวิธีแก้ทางหรือยอมขาดทุนหากไม่มีโอกาสกลับขึ้นไป
เตรียมขั้นตอนการเทรดให้ชัด แบบข้างบน และรักษาวินัยในการเทรดทุกครั้ง อย่าเทรดมั่ว อย่าเอาอารมณ์และความโลภเป็นที่ตั้งครับสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นคุณจะล้างพอร์ตได้แน่นอน
-
Money Management
ระบบ Money Management เป็น ส่วนสำคัญของ Mind Set ว่าตามหลักความจริงเลยนะครับ ถ้าอยากได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการเทรดไบนารี่ ออฟช้ั่น หรือ ฟอเร็กส์
สิ่งที่ควรทำมากที่สุดเลยคือ การมีเงิน Balance ในพอร์ตให้เพียงพอตามความเหมาะสมกับการเทรดที่คุณมีครับ ทีนี้ตัวเลขที่ว่าเหมาะสมเป็นเท่าไหร่ ผมอยากให้ตั้งเป็น % ต่อวันไว้ดีกว่าครับ โดยจากประสบการณ์ของผมเองแบ่งความเสี่ยงเป็น % ที่น่าสนใจเป็นดังนี้
- ระดับความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ % ที่ต้องการต่อวันคือ 1-5 %
- ระดับความเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปานกลาง % ที่ต้องการต่อวันคือ 6-10 %
- ระดับความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง % ที่ต้องการต่อวันคือ 10 % ขึ้นไป
มือใหม่มักจะคิดถึงแต่ผลลัพธ์ แต่มืออาชีพจะคิดถึงกระบวนการมากกว่า … เทรดเดอร์มือใหม่วัดประสิทธิภาพการเทรดอย่างเดียวเลยคือ “เงิน” คิดว่าตราบที่ผลตอบแทนยังเป็นบวก ไม่ว่าจะด้วยเพราะอะไรก็ตาม ก็ถือว่าถูกต้อง การที่คิดว่าเทรดเสียนั้นคือสิ่งผิด และเทรดได้คือสิ่งที่ถูกต้อง
พอผิดก็คิดจะเปลี่ยนวิธีการไปเรื่อย ๆ มักจะหาเครื่องมือที่เป็นชนะ 100% หรือที่เรียนกันว่าการตามหา Holy Grail ซึ่งในโลกในการเทรดแล้วมันไม่มีอยู่จริง แต่! เทรดเดอร์มืออาชีพจะวัดประสิทธิภาพการเทรดจาก “กระบวนการเทรด” มากกว่าตัวเงิน
เขาเข้าใจว่าการเทรดเสียไม่ไม่ใช่สิ่งไม่ดี การเทรดเสียเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการเทรดที่มีเป็นธรรมชาติ เพียงแต่เราต้องเข้าใจถึงกระบวนการที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์มืออาชีพจะ Focus ที่การพัฒนากระบวนการเทรดและพฤติกรรมการเทรดมากกว่า
คำถามที่มักจะเจอบ่อย ๆ ในการเทรด
-
เปิด lot น้อย ทำกำไรได้ เปิด lot ใหญ่ๆ ทำไมขาดทุน ?
เพราะ เปิด lot น้อยๆ เราไม่กดดัน สามารถรอให้แท่งเทียนสวิง แล้วกลับมาตามเทรนด์ได้ ส่วนเปิด lot ใหญ่ เมื่อแท่งเทียนสวิงผิดทางก็ขาดทุนหนัก ไม่มีโอกาสกลับมาตามเทรนด์
-
เวลาได้กำไร รีบปิดออเดอร์ แต่เวลาขาดทุน มักปล่อยให้ติดลบหนัก
จนล้างพอร์ต!! เพราะ คนเรากลัวการสูญเสีย ได้กำไรนิดหน่อย แล้วกลัวจะเสีียคืนรีบปิด แต่พอพอร์ตติดลบทำใจตัดขาดทุนไม่ได้ รอให้พอร์ทกลับคืนมา ก็ยิ่งลบมากขึ้นวิธีแก้คือ ต้องมีวินัย ผิดเทรนคือ Cut loss
-
ทำไมเทรดครั้งแรกๆถึงดีงาม ครั้งต่อไปย่ำแย่
เทรดครั้ังที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ทำไมมีแต่กำไร แต่ครั้งต่อไป ทำไมขาดทุน และขาดทุนหนักขึ้นเรื่อยๆ
เพราะ ก่อนเทรดครั้งแรกๆ เราศึกษากราฟอย่างดี ดูเทรนแล้วดูเทรนอีกจนมั่นใจจึงเทรดได้กำไร แต่ต่อๆ ไป เริ่มมั่นใจไม่ดูเทรน เทรดง่ายๆ ทำให้พลาดขาดทุน และสมองเริ่มเมื่อยล้าเพราะจ้องมาทั้งวัน วิธีแก้คือ ควรมี limit ในการเทรดได้ถึงเป้าหมาย ให้หยุด และถ้าเทรดพลาดเกินสองครั้งติดให้หยุดเทรดวันนั้น
-
เวลาเทรดที่ดีที่สุดคือช่วงใด
ตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 6 โมงเย็น ไม่ควรเปิดออเดอร์หลัง 6 โมงเย็น เพราะอาจไม่ได้นอนทั้งคืนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ การตัดสินใจผิดพลาด และควรหลีกเลี่ยงช่วงที่มีข่าว ถ้าถือออเดอร์อยู่ควรปิดก่อนข่าว เพราะก่อนข่าวออกแท่งเทียนอาจสวิงไปทางหนึ่งหลังข่าวออกอาจสวิงตรงข้ามและไปไกล ทางที่ดีอย่าเสี่ยง
-
ถ้าเปิดออเดอร์แล้ว แท่งเทียนเคลื่อนผิดทาง
เปลี่ยนเทรนและพอร์ทติดลบมากขึ้น ควรเปิดออเดอร์ฝั่งตรงข้ามจำนวน lot เท่ากัน รอการแก้พอร์ทหรือไม่
อย่า อย่า .. ทำเช่นนั้นเด็ดขาด ยิ่งเป็นการสร้างปมมัดตัว เสียทั้งค่าคอม ค่า swap เสียทั้งความรู้สึก พอร์ตยิ่งเสียหายหนัก เมื่อเห็นว่าแท่งเทียนเปลี่ยนเทรน ให้รีบ Cut loss ทัันที ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ก่อนเทรดทุกครั้ง ต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด อย่าคิดว่า เดี๋ยวมันก็กลับคืน
ทางออกสำหรับคนที่ยังปรับ Mindset ไม่ได้
การปรับเปลี่ยนชุดความคิดสำหรับท่านคนอาจจะเป็นเรื่องที่ยากและใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นหลายๆคนจึงพยายามใช้คนอื่นเทรดให้ ทางคนก็เลือกที่จะใช้ระบบ Copy Trade และบางคนก็เลือกใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)
- ระบบ Copy Trade หรือ บางโบรกเกอร์ก็เรียกว่า Social Trade คือ ระบบที่อนุญาตให้เทรดเดอร์ หรือ นักลงทุน เลือกผู้ให้สัญญาณเทรด (Master trade / Signal Provider) เพื่อเป็นต้นแบบในการเทรด เมื่อเขาเข้าออเดอร์ราคาไหนเวลาไหน เราก็จะได้ออเดอร์นั้น ๆ แบบ Real Time ครับ การทำแบบนี้จะทำให้เราได้กำไรตาม Master Trade แบบแป๊ะ ๆ แต่อาจจะโดนหักค่า Profit Shearing ให้เขาซักหน่อย โดยข้อดีคือเราไม่ได้เทรดเอง แต่ข้อเสียคือหากเราเลือก Master Trade พลาด เราก็จะได้รับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรืออาจะพอร์ตแตกเลยก็ได้
- ระบบเทรดอันโนมัติ หรือ EA เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายมาก ๆ เพราะมันคือการให้ Robot เทรดแทนเราทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราจำเป็นต้องค้นหา EA ที่เหมาะสมกับเรา หรือ เป็น EA ที่มีประสิทธิภาพดีจริง ๆ ไม่ใช่การจกตากันครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th