ในตลาดการเงินและการลงทุน เทรดเดอร์อาจจะเคยได้ยินคำว่า Economic แปลตรงตัวก็คือ ในทางเศรษฐกิจ เมื่อนำมาใช้กับตลาด Forex แน่นอนมีความเกี่ยวข้องโดยตรง เพราะเรื่องเศรษฐกิจส่งผลโดยตรงกับค่าเงิน

เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนค่าเงินให้อ่อนหรือแข็งค่า ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีข่าวทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจประกาศออกมา กราฟมักจะมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เป็นโอกาสที่เทรดเดอร์ทั่วโลกจับจ้องหาจังหวะในการทำกำไร หรือที่เรียกว่า “เทรดข่าว” นั่นเอง

Economic ในตลาด Forex
รู้จัก Economic ในตลาด Forex คืออะไร แล้วจะนำมาใช้อย่างไรกับการเทรด

 

รู้จัก Economic Indicator

เครื่องมือชี้วัดทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลจทางเศรษฐกิจที่มีการประกาศออกมาตามตาราง นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือชี้วัด ที่สร้างการเคลื่อนไหวให้กับตลาดได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนที่เลยก็ว่าได้

ตัวเลขทางเศรษฐกิจ เทรดเดอร์หลายคนใช้ประโยชน์จากการประกาศนี้ เพื่อหาจังหวะในการเข้าเทรด โดยส่วนใหญ่จะเลือกติดตามข่าวผ่าน Forex Factory ซึ่งเป็นปฎิทินเศรษฐกิจ ที่มีการประกาศอย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้

ภาพตารางข่าว แสดงวันและเวลาที่จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ
ภาพตารางข่าว แสดงวันและเวลาที่จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ

โดยตารางบอกถึงวัน เวลาในการประกาศ ตัวเลขคาดการณ์ ตัวเลขครั้งก่อน และตัวเลขที่ประกาศล่าสุด พร้อมทั้งเนื้อหาข่าวที่เกิดขึ้น เช่นการประกาศจากบุคคลสำคัญที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลางเป็นต้น

ข่าวหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจอะไรบ้าง ที่มีความสำคัญในตลาด Forex

ข่าวหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจ นับว่าแทบจะทุก ๆ ตัวเลขที่มีการประกาศออกมา ล้วนมีความสำคัญ เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นตัวชี้วัดสภาพทางเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจดีค่าเงินก็จะแข็ง เมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก ค่าเงินก็จะอ่อน

และไม่มีประเทศไหน ที่ต้องการให้ค่าเงินอ่อนนาน ๆ หรือแข็งนาน ๆ เพราะจะกระทบกับการแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกิจนำเข้าและส่งออก บ่อยครั้งที่จะต้องอาศัยมาตรการของรัฐบาล ในการเข้ามาแทรกแซงค่าเงิน หรือกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้หมุนเวียนไปได้โดยกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

ในปฎิทินทางเศรษฐกิจ (Forex Factory) แม้จะไม่ได้จัดลำดับความสำคัญของแต่ละข่าว แต่ได้แบ่งแยกตามความเคลื่อนไหวของข่าวไว้เป็น 4 ระดับเช่น

ภาพตัวอย่างข่าวและการกรองข่าวที่มีนัยสำคัญ
ภาพตัวอย่างข่าวและการกรองข่าวที่มีนัยสำคัญ
  • กล่องแดง เป็นข่าวที่มีความสำคัญและมีการเคลื่อนไหวของกราฟเป็นอย่างมาก
  • กล่องส้ม เป็นข่าวที่มีความสำคัญ แต่ไม่ได้สร้างความเคลื่อนไหวเท่ากับกล่องแดง
  • กล่องเหลือง เป็นข่าวที่มีความสำคัญ อาจจะไม่ได้สร้างความเคลื่อนไหวใด ๆ ให้กับกราฟเลย
  • กล่องเทา เป็นข่าวที่อาจจะไม่ได้มีความสำคัญใด ๆ ต่อค่าเงินเลย

ในความเป็นจริงแล้ว ข่าวหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจ ล้วนมีความสำคัญ เพราะทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันในด้านเศรษฐกิจ แม้จะไม่ได้สร้างความเคลื่อนไหวให้กับกราฟ แต่อาจจะส่งผลต่อเนื่องไปยังข่าวอื่น ๆ ก็เป็นได้

ตัวเลขเศรษฐกิจคือตัวชี้วัดความจริงที่เป็นไป

ข่าวหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เทรดเดอร์ต้องรู้

  1. GDP (Gross Domestic Product) คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่ง บ่งบอกถึงมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมดในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น หนึ่งไตรมาส ครึ่งปี หนึ่งปี ตัวเลข GDP เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าจะส่งผลกับค่าเงินอย่างแน่นอน เพราะถ้าเศรษฐกิจดีค่าเงินก็จะแข็งขึ้น ทำให้สกุลเงินที่จับคู่กับสกุลเงินนั้น ๆ มีความผันผวนในช่วงเวลาที่ประกาศตัวเลขออกมา อีกทั้งยังสามารถบอกแนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะยาวได้อีกด้วย
  2. Inflation Rate คือ ตัวชี้วัดที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาสินค้า และบริการในปีปัจจุบันเทียบเท่ากับปีก่อน หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับภาคการลงทุน แต่ถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมา จะส่งสัญญาณถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
  3. Interest Rate คือ อัตราดอกเบี้ย หรือที่นักลงทุนเรียกว่าดอกเบี้ยนโยบาย ที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนดขึ้นเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง โดยอัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินฝาก หรือแม้แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตร ล้วนแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของธนาคารกลางทั้งสิ้น
  4. Unemployment Rate คือ อัตราการว่างงาน เป็นอัตราส่วนของกำลังแรงงานที่ไม่มีงานทำ ถ้าอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจเพราะการว่างงาน จะทำให้ลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค เกิดความเครียดทางสังคม และส่งผลเสียต่อผู้ผลิต และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลไปยัง GDP ที่เป็นตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ไม่เชื่อข่าวก็ต้องเชื่อกราฟ เพราะกราฟสะท้อนความจริงของปัจจัย

  1. Trade Balance คือ ดุลการค้า การค้าระหว่างประเทศที่นำมูลค่าการนำเข้าสินค้า กับมูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศมาเปรียบเทียบกัน ถ้านำเข้ามากกว่าส่งออกแสดงว่าขาดดุลการค้า ถ้าส่งออกมากกว่านำเข้า แสดงว่าเกินดุลการค้า และถ้าส่งออกและนำเข้าเท่ากัน เรียกว่าสมดุลการค้า สำหรับการค้าระหว่างประเทศจะทำให้รู้ว่า ภาวะการค้าของประเทศเป็นอย่างไรอยู่ในฐานะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ดุลการค้าระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึงส่วนแบ่งที่สำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวม จึงเป็นตัวเลขที่สำคัญที่ส่งสัญญาณล่วงหน้าว่าเศรษฐกิจในปีนั้น ๆ จะขยายตัวหรือไม่
  2. Consumer Price Index-CPI คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นเครื่องมือทางสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกของสินค้าและบริการในปริมาณที่เท่ากันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเทียบกับราคาสินค้าอย่างเดียวกันในช่วงเวลาตั้งต้นเรียกว่าปีฐาน ถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น CPI เพิ่มขึ้น แสดงว่าราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ประชาชนต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อสินค้าจำเป็น ถ้าอัตราเงินเฟ้อลดลง CPI ลดลง แสดงว่าราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ปรับตัวลดลง ประชาชนมีกำลังจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อสินค้าจำเป็น
  3. Producer Price Index-PPI คือ ดัชนีราคาผู้ผลิต ใช้ชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาขายส่งของสินค้าโดยเฉลี่ย ที่ผู้ผลิตในประเทศได้รับจากการขายสินค้า ณ แหล่งผลิต PPI สูงขึ้นเล็กน้อยแสดงว่า ภาวะการค้าของประเทศค่อนข้างดี ส่งผลให้ระดับราคาสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น PPI สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แสดงว่า อาจจะมีปัญหาเงินเฟ้อเนื่องจากราคาสินค้าโดยทั่วไปเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นได้ด้วย PPI มีแนวโน้มลดลง แสดงว่า ภาวะการค้าโดยรวมเริ่มมีปัญหา เนื่องจากราคาสินค้าประเภทวัตถุดิบลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโดยทั่วไปลดลง หรืออาจเป็นเพราะสินค้าบางกลุ่มมีปริมาณมากกว่าความต้องการ เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงขึ้น หรือเกิดจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
  4. Non-Farm Employment Change คือ ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เป็นข่าวเกี่ยวกับการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม ใช้ชี้วัดสภาพทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดี ในแต่ละศุกร์แรกของเดือนจะมีการประกาศตัวเลข Non-Farm นับว่าเป็นข่าวที่เทรดเดอร์ทั่วโลกให้ความสนใจสูงสุด นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงการจ้างงานที่เพิ่มหรือลดลงแล้ว ยังเป็นข่าวที่สามารถทำให้กราฟเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง เทรดเดอร์ใช้โอกาสนี้ทำกำไร หรือหลีกเลี่ยงที่จะเปิดออเดอร์ชนข่าว
เทรดเดอร์ที่ทำกำไรจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
เทรดเดอร์ที่ทำกำไรจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข่าวหรือตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มีการประกาศออกมา จะว่าไปแล้ว Economic Indicator ตีความง่าย ๆ ก็คือ เครื่องมือชี้วัดทางเศรษฐกิจ ที่จะสามารถชี้ทิศทางหรือแนวโน้มของเศรษฐกิจ เป็นประโยชน์ต่อการคาดการณ์แนวโน้มของค่าเงิน

Economic Indicator ในตลาด Forex

เสมือนเป็นเครื่องมือชี้วัดอย่างดี สำหรับเทรดเดอร์ในตลาด Forex โดยการติดตามข่าวสาร ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อดูแนวทางด้วยปัจจัยพื้นฐาน ที่จะผลักดันให้ค่าเงินอ่อนหรือแข็งค่า บ่อยครั้งปัจจัยเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่ ปัจจัยทางเทคนิคจะให้สัญญาณเลยด้วยซ้ำ

สรุป

เทรดเดอร์สาย ปัจจัยพื้นฐาน ข่าว หรือสายเทคนิค จำเป็นที่จะต้องติดตาม Economic Indicator เพื่อให้รู้ถึงแนวโน้มหรือทิศทางของค่าเงิน เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถขับเคลื่อนกราฟ ราคา หรือแนวโน้มได้เป็นอย่างดี เพราะราคาจะขึ้นหรือลง ไม่ใช่เพียงผู้คนส่วนใหญ่จะซื้อหรือขาย

แต่เบื้องหลังอาจจะมาจากเศรษฐกิจที่ทำให้ค่าเงินก่อนค่าหรือแข็งค่าต่างหาก…

จะเชื่อข่าวหรือไม่เชื่อข่าว กราฟก็จะยังคงเคลื่อนที่ด้วยปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังเสมอ…

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments