Forexthai.in.th ย่อให้
- ข่าว Forex มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ ช่วยทำกำไรระยะสั้นได้ดี ถ้าคาดการณ์ได้ถูกต้องและจับจังหวะเป็น
- ข่าวสหรัฐฯ ส่งผลกระทบตลาดที่สุด เพราะ USD เป็นสกุลเงินหลัก และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ข่าวสำคัญ: การประชุม FED, ตัวเลข NFP, GDP, CPI และ PMI ล้วนส่งผลกระทบต่อค่าเงิน
- Forexfactory เป็นเว็บข่าว Forex ยอดนิยมสำหรับนักเทรด มีปฏิทินเศรษฐกิจให้ติดตามข่าวได้สะดวก
- ข้อควรระวังในการเทรดข่าว คือ Spread ถ่างและเกิด Slippage ในช่วงข่าว ต้องมีความรู้ ประสบการณ์ และสติในการตัดสินใจ
ข่าว Forex นั้น เป็นเรื่องที่เรา เหล่านักเทรดต้องรู้ ต้องทราบ ไม่รู้ไม่ได้ครับ และนับเป็นรูปวิธีการเทรดอีกแบบหนึ่ง ที่นักเทรดชอบใช้เพื่อทำกำไรระยะสั้น นั่นก็คือ การเทรด ข่าว Forex เพราะมันสามารถทำกำไรได้ก้อนใหญ่ ถ้าเราคาดการณ์แม่น และเข้า-ออกได้ถูกจังหวะ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ความสำคัญของข่าวกับการเทรด Forex
ข่าว Forex นั้นส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย มันสร้างความเคลื่อนไหวให้กับตลาดได้อย่างมหาศาล สมมติว่า ถ้าเราได้ยินข่าวว่าบริษัทที่เราสนใจจะซื้อหุ้นต้องเข้ารับการปรับโครงสร้างหนี้ เราคงไม่อยากแตะหุ้นตัวนั้นแน่ๆ และคนที่ถือหุ้นอยู่ก็อาจจะรีบเทขายทิ้งกันเป็นแถว ทำให้ตลาดเกิดความเคลื่อนไหว
ยิ่งเราทราบข่าวสำคัญล่วงหน้าก่อนคนอื่นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้เปรียบ ลดความเสี่ยง (หรือทำกำไร) ได้มากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเทรด Forex แต่ถ้าทำแบบนี้ในตลาดหุ้น อาจจะโดนปรับก้อนโตได้
วิธีเทรดตามข่าว Forex
- ตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจ: ดูว่าข่าวไหนจะส่งผลกระทบกับคู่เงินที่คุณสนใจ และข่าวจะออกเมื่อไหร่
- วิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง: เปรียบเทียบข่าวที่จะออกกับสถิติที่ผ่านมา เพื่อคาดการณ์ว่าข่าวจะออกมาในทิศทางไหน
- ประเมินทิศทางตลาด: วิเคราะห์ว่าตลาดจะวิ่งขึ้นหรือดิ่งลงหลังข่าวออก
- วางแผนการเข้าเทรด: เปิดคำสั่งซื้อ/ขายตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนเวลาข่าวออกเล็กน้อย หรืออีกแบบคือ เทรดตามทิศทางหลังข่าวออก
ข่าวเศรษฐกิจและการเมืองจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกล้วนมีผลกับตลาด แต่ที่มีผลกระทบกับตลาดมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
- USD เป็นสกุลเงินสำรองของโลก
- สหรัฐ ฯ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
- ธุรกรรม forex ส่วนใหญ่ซื้อขายโดยอ้างอิงจากสกุลเงิน USD
ตัวอย่างข่าวสำคัญ ๆ ที่มีผลกระทบกับตลาด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP)
- คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (FOMC)
- ดุลการค้า (Trade Balance)
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนั้นแล้ว เหตุการณ์สำคัญ ๆ อย่างการเลือกตั้ง, รัฐประหาร, สงคราม หรือ ภัยธรรมชาติ พวกนี้ล้วนส่งผลกระทบกับตลาดทั้งสิ้น
ข่าว Forex ที่ส่งผลกระทบรุนแรง
ข่าว Forex ในหัวข้อที่เราต้องรู้นั้น ผมขอนำเสนอรายละเอียดของข่าวที่สำคัญและมีผลกระทบต่อการเทรด Forex ตามนี้เลยครับ
1. การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
การประชุม FED มีความสำคัญ ไม่ใช่แค่เพราะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่มันยังให้เบาะแสเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตอีกด้วย
- การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ควรจะดึงสกุลเงินให้สูงขึ้น แข็งค่าขึ้น
- หรือในอีกทางหนึ่ง การลดลงของอัตราดอกเบี้ย จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงลบ ทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง
- หากธนาคารกลางไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย มันก็อาจจะเป็นได้ทั้ง bearish หรือไม่ก็ bullish ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของตลาด
ในระหว่างการประชุม ธนาคารกลางมักจะเปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันและคาดการณ์อนาคต ถ้าธนาคารกลางมองว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี เทรดเดอร์ก็จะคาดหวังว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต แต่ถ้าธนาคารกลางส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังอ่อนแอ เทรดเดอร์ก็อาจจะมีการขายสกุลเงินทิ้ง
ที่สำคัญ อย่าลืมว่าเราต้องพิจารณาทั้งอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มเศรษฐกิจควบคู่กันไปนะครับ เพราะบางทีแม้ดอกเบี้ยจะสูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดูไม่ดี สกุลเงินก็อาจไม่แข็งค่าขึ้นอย่างที่คาดไว้ก็ได้
2. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP)
NFP หรือ Non-Farm Payrolls เป็นรายงานที่แสดงการเปลี่ยนแปลงจำนวนคนทำงานในสหรัฐฯ (ไม่รวมภาคเกษตร) ในเดือนที่ผ่านมา ข่าวนี้สำคัญมากเพราะบ่งบอกถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโดยรวม
- สัญญาณ NFP สูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น = ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
- NFP ที่ต่ำลง จะบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง
NFP มักจะออกในวันศุกร์แรกของเดือน และทำให้ตลาด Forex เกิดความผันผวนสูงมาก เนื่องจาก USD เป็นส่วนหนึ่งของหลายคู่สกุลเงินที่เป็นที่นิยม
3. GDP (Gross Domestic Product)
GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดในเรื่องภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการวัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กว้างที่สุด โดยวัดมูลค่าสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตได้ในประเทศ ในประเทศพัฒนาแล้ว เขามีการรายงาน GDP 3 แบบด้วยกันครับ คือ
- GDP ล่วงหน้า: ตัวเลขประมาณการณ์ที่ออกมาก่อน
- GDP เบื้องต้น: ตัวเลขที่แม่นยำขึ้น แต่ยังไม่สมบูรณ์
- GDP ขั้นสุดท้าย: ตัวเลขจริงที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว
GDP ล่วงหน้าจะช่วยผลักดันตลาดได้มากที่สุด ตลาดมักจะตอบสนองกับ “ความคาดหวัง” มากกว่าตัวเลขจริง ถ้า GDP ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันหากแย่กว่าที่คาดการณ์ สกุลเงินก็จะอ่อนค่าลง
4. CPI (Consumer Price Index)
CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค แสดงถึงราคาเฉลี่ยที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของดัชนีนี้จะเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อและภาวะเงินฝืดที่สำคัญ และนอกจากนี้ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลมีประสิทธิภาพเพียงใดอีกด้วย ทีนี้ CPI มันมีสองแบบด้วยกัน ก็คือ
- CPI: วัดทุกอย่างรวมกันหมด
- Core CPI: ไม่รวมราคาอาหารและราคาพลังงานที่ผันผวน
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักกับ CPI ทั่วไปมากกว่า เพราะมันสะท้อนภาพรวมได้ชัดเจนกว่า ดังที่ทราบอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางขึ้นอยู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
และนั่นคือเหตุผลที่ธนาคารกลางให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ CPI หากการเติบโตของ CPI ใกล้เคียงกับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของประเทศหรือสูงกว่า ธนาคารกลางก็จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นและสกุลเงินก็จะปรับตัวขึ้นเช่นกัน
5. PMI (Purchasing Managers’ Index)
PMI หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เป็นตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจในภาคการผลิต จุดประสงค์คือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพธุรกิจในปัจจุบันแก่นักวิเคราะห์ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ
นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของการเติบโตหรือการลดลงของ GDP อีกด้วย และธนาคารกลางยังใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการกำหนดนโยบายการเงินเช่นกัน
- PMI สูงกว่า 50 = ภาคการผลิตขยายตัว = สกุลเงินแข็งค่า
- PMI ต่ำกว่า 50 = ภาคการผลิตชะลอตัว = สกุลเงินอ่อนค่า
หาก PMI ลดลง นักลงทุนอาจคาดหวังว่าธนาคารกลางจะเกิดการอะลุ่มอล่วย นอกจากนี้ยังอาจลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดตราสารทุนของประเทศและเพิ่มมันในตลาดตราสารทุนอื่นๆ ด้วยการอ่านค่า PMI ที่เพิ่มขึ้น
เว็บไซต์ข่าว Forex ที่ต้องรู้จัก
ถ้าพูดถึงเว็บข่าว Forex ที่เทรดเดอร์นิยมเข้าไปติดตามกันเป็นประจำนั้น ผมขอนำเสนอแบบกระชับ รวบรัด ครับ
Forexfactory.com จัดได้ว่าเป็นเว็บข่าว Forex อันดับหนึ่งเลยทีเดียว นักเทรดแทบทุกคนเข้าใช้บริการเว็บนี้ทั้งนั้น ซึ่งจะรวบรวมข่าวทางด้านเศรษฐกิจที่มีผลต่อการเทรด Forex ทั้งหมด
เรามาดูกันทีละส่วนนะครับ
- A เวลาข่าวออก: เราสามารถปรับให้เป็นเวลาในประเทศไทยได้ครับ
- B สกุลเงิน: แสดงสกุลเงินของประเทศต่างๆ
- C ความสำคัญของข่าว: แบ่งเป็น 4 สี
- 1.สีแดง เป็นข่าวที่มีผลกระทบกับค่าเงินมากที่สุด (High Impact) กราฟจะผันผวนอยู่ระหว่าง 50-300 จุด
- 2.สีส้ม เป็นข่าวที่มีผลกระทบกับค่าเงินในระดับปานกลาง (Median Impact) กราฟจะผันผวนอยู่ในระดับ 30-70 จุด
- 3.สีเหลือง เป็นข่าวที่มีผลกระทบกับค่าเงินน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย (Low Impact) กราฟจะผันผวนน้อยมาก
- 4.สีขาว เป็นวันหยุดของประเทศต่างๆ หรือ Bank Holiday
- D หัวข้อข่าว: เป็นชื่อข่าวเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ
- E รายละเอียดข่าว: บอกว่าข่าวมีผลต่อสกุลเงินอย่างไร
- F ตัวเลขจริง (Actual): ตัวเลขที่ประกาศออกมาจริง
- G ตัวเลขคาดการณ์ (Forecast): ตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- H ตัวเลขครั้งก่อน (Previous): ตัวเลขของการประกาศครั้งที่แล้ว
- I กราฟย้อนหลัง: แสดงตัวเลขเศรษฐกิจในอดีต
ในการวิเคราะห์ข่าวจากตารางข่าว Forexfactory นั้น เราจะเลือกเทรดเฉพาะข่าวสีแดงและสีส้มเท่านั้น เพราะมันมีความผันผวนและทำให้กราฟวิ่งแรง
ข้อควรระวังในการเทรดตาม ข่าว Forex
ไม่ใช่ทุกข่าวที่ส่งผลกระทบกับตลาด ดังนั้นเราต้องแยกแยะให้ได้ว่าข่าวแบบไหนที่มีผลกระทบกับตลาด นอกจากนั้นแล้วในการเทรด Forex ตามข่าว ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง ดังนี้
- Spread ถ่าง: ในช่วงประกาศข่าวสำคัญ โบรกเกอร์มักจะขยาย spread ทำให้กำไรที่คาดหวังอาจหายไป หรือแย่กว่านั้นคือขาดทุนแทนที่จะได้กำไร
- Slippage: เนื่องจากความผันผวนสูงในช่วงข่าว ความ Lack ของเซิร์ฟเวอร์หรืออะไรสักอย่าง ทำให้คำสั่งของเราอาจถูกเปิดที่อีกราคาที่ห่างจากราคาที่คุณต้องการเป็นโยชน์ แทนที่จะได้กำไรกลับกลายเป็นเสียเงินแทน
สรุป
การเทรด Forex ตามข่าวนั้นเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ดี แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงสูง ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และสติในการตัดสินใจ อย่าลืมว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ยิ่งเรารู้ข่าว เข้าใจผลกระทบ และเตรียมพร้อมรับมือ โอกาสทำกำไรของเราก็ยิ่งสูงขึ้น
แต่สุดท้ายแล้ว อย่าลืมว่าตลาด Forex นั้นผันผวนและคาดเดาได้ยาก และไม่มีใครที่จะชนะตลาดทุกครั้ง ดังนั้น จงเทรดด้วยความระมัดระวัง และอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณรับความเสี่ยงได้ครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th