Forexthai.in.th ย่อให้

  • เทคนิคอ่านกราฟ Forex แบบง่ายๆ ช่วยให้เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสับสนและความเครียด
  • วิธีใช้แนวรับ-แนวต้าน: ให้มองเป็นโซน ไม่ใช่เส้นเดี่ยว เทคนิคนี้ให้ระวัง Bull trap
  • ใช้ Trend Lines ดูภาพรวม ไม่ใช่การหาจุด Buy/Sell
  • Moving Average ใช้หาจุดเข้า-ออก, แนวรับ-แนวต้าน และทิศทางแนวโน้ม
  • เทคนิคทางจิตวิทยา: การรับมือความกลัว, มีแผน และให้ความสำคัญกับการพักผ่อน

เทคนิคการอ่านกราฟ อย่างง่าย

เทคนิคการอ่านกราฟ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เทรดเดอร์หลายคนมักมีปัญหาในการตีความกราฟที่ซับซ้อนจนเกินไป จนทำให้การเทรดนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย เทคนิคการการอ่าน Price action อย่างง่าย

  • เพื่อให้เทรดเดอร์เข้าใจกราฟที่อ่านอย่างไม่สับสน
  • ไม่ต้องไปใช้เวลาบนหน้าจอนาน
  • เพื่อลดความตึงเครียด รวมทั้งลดการ Focus และเสพติดการเทรด ซึ่งจะนำไปสู่การเทรดที่มีประสิทธิภาพ ในระยะยาวมากกว่า
  • การใส่เครื่องมือในการเทรดเข้าไปจำนวนมากแล้วดูวุ่นวายและไม่สามารถตัดสินใจได้สักที

ซึ่งในบทความนี้เราจะขอแบ่งเทคนิคออกเป็น 2 Ways หลักๆ คือ เทคนิคการเทรดเชิงประจักษ์ และเทคนิคการเทรดเชิงจิตวิทยาครับ

เทคนิคการเทรดเชิงประจักษ์

1. เทคนิคการอ่านกราฟ โดยใช้ Swings – Highs และ Lows

รูปแบบกราฟ Swing High และ Low เป็น Basic ของ Technical analysis คือการใช้ทฤษฎี Dows ในการวิเคราะห์แนวโน้มว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง

  • ขาขึ้น: ราคาทำ Higher high (ยอดสูงขึ้น) และ Higher Low (ฐานสูงขึ้น)
  • ขาลง: ราคาทำ Lower High (ยอดต่ำลง) และ Lower Low (ฐานต่ำลง)
รูปแสดง Higher High, Higher Low ในตลาด Bullish (ขาขึ้น) และ Lower High, Lower Low ในตลาด Bearish (ขาลง)

ซึ่งจุด ยอดและฐาน สามารถพิจารณาได้จาก “รอบสวิง” ของราคา ตามธรรมชาติของราคาแล้วนั้น ราคาไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเส้นตรง มีการแกว่งตัวขึ้นลง อยู่ตลอดเวลา เทรดเดอร์สามารถอาศัยรอบการแกว่งตัวนี้สร้างข้อได้เปรียบในการเทรดได้เช่นกัน

  • ตัวอย่างของนักเทรดประเภท Swing trader ก็จะซื้อในช่วงที่ราคาย่อตัวในแนวโน้มขาขึ้น หรือ ขายในช่วงราคาดีดตัวในแนวโน้มขาลง เพื่อที่จะได้ราคาที่ดีกว่า มีอัตราส่วนผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ดีกว่า เป็นต้น

อีกอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาประกอบ คือ การพิจารณารอบสวิงนั้น ยังสามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาได้อีกมุมหนึ่งคือ “ความลึกในการ Pullback”

  • ถ้าหากการ Pullback หรือการย่อตัวนั้น “ไม่ลึก” แสดงถึง แนวโน้มในช่วงนั้นยังคงแข็งแกร่ง
  • หากการ Pullback หรือการย่อตัวนั้น “ลึก” แสดงว่า แนวโน้มนั้นเริ่มอ่อนแอลง

VPS
ผู้สนใจ Forex สามารถศึกษารายละเอียด ได้ดังต่อไปนี้

ฟังดูหลักการเหล่านี้มันค่อนข้างง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเทรดในการใช้ Price action ในลักษณะนี้มันค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการใช้งานจริงและต้องใช้ประสบการณ์ในการพิจารณา เมื่อทำการฝึกบ่อยครั้งขึ้นก็จะทำให้การเทรดนั้นสามารถทำและตัดสินใจได้คล่องแคล่วขึ้น

 

“Simple is Better การเทรดไม่จำเป็นต้องยาก เทรดแบบยากๆ ใช่ว่าจะกำไรเสมอไป…”

 

จากตัวอย่างของกราฟด้านล่างแสดงถึงตัวอย่างการวิเคราะห์จำนวนรอบการสวิงของราคา จะเห็นได้ว่าช่วง Bear market หรือขาลง ราคาสร้างจุด Low ต่ำลงกว่าครั้งก่อน และ High ต่ำลงกว่าครั้งก่อน ซึ่งเราสามารถหาจังหวะ Short ในช่วงที่ราคา Pullback กลับขึ้นมาได้ และในช่วงที่เปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นนั้น ราคากลับมายกฐานสูงขึ้นกว่าเดิม และยอดสูงขึ้น (แสดงในเส้นสีแดง)

เทคนิคอ่านกราฟอย่างง่าย
ตัวอย่างการวิเคราะห์รอบสวิงของราคา

2. เทคนิคการอ่านกราฟ โดยใช้ แนวรับ-แนวต้าน

แนวรับและแนวต้าน คือ จุดที่ราคามักจะเกิดการกลับตัวเกิดขึ้น เมื่อราคาเข้าสู่บริเวณแนวรับ/แนวต้านดังกล่าว ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนมากทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นใช้เจ้าสิ่งนี้ในการเทรดทั้งสิ้น

การวิเคราะห์โดยใช้แนวรับและแนวต้านเป็น “สัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือในการเทรด” เพราะว่า มันเป็นเทคนิคเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาของการเทรดโดยตรง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญ

แนวรับ/แนวต้าน
ระดับแนวรับแนวต้าน (เส้นประ)

จากกราฟด้านบนจะสังเกตุได้ว่าในช่วงที่ราคาทดสอบระดับแนวรับแนวต้าน (เส้นประ) มักจะเกิดการกลับตัวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเทรดเดอร์สามารถนำประโยชน์ตรงนี้ไปประกอบการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่อยากจะเสริมในการใช้แนวรับแนวต้านนั้น เราไม่ควรใช้เส้นแนวนอนแบบเส้นเดี่ยว เนื่องจากการเคลื่อนไหวจริงของราคา มันไม่ได้เป๊ะอยู่ที่ระดับราคานั้น 100% ควรใช้เป็น “โซน” มากกว่า เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพราะการเคลื่อนไหวของราคานั้นไม่ได้เป็นเส้นตรง

Tip การเทรด:

  • ยิ่งเห็นแนวรับแนวต้านชัดเจนมากเท่าไหร่ ให้คิดไว้เลยว่าคนส่วนมากก็เห็นเหมือนเรา (และคนส่วนมาก มักจะผิดพลาดซะด้วย )
  • เช่น วงกลมสีแดงในกราฟตัวอย่าง คนส่วนมากมักเห็นว่าราคาทะลุผ่านแนวต้านสำคัญได้แล้ว จึงเปิด Long ตาม และสุดท้ายการทะลุนั้นเป็น Bull trap (หรือทะลุหลอก)

 Review Broker Forex

วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...

3. เทคนิคการอ่านกราฟ โดยใช้ Trend lines

เป็นที่ถกเถียงกันมากว่าการตีเส้น Trend lines นั้นค่อนข้างเป็นอะไรที่ หาแนวทางที่ชัดเจนในการอธิบาย หรือจับต้องไม่ได้ (Subjective) มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการใช้งานมากกว่าที่เราจะใช้ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งมาจับอย่างตายตัว และออกจะคล้ายคลึงกับศิลปะ มากกว่าวิทยาศาสตร์ พูดอย่างง่าย ๆ คือ เวลาตีเส้นเทรนด์ไลน์มันไม่มีถูกผิด

สิ่งสำคัญเทรดเดอร์ต้องรู้ว่าเราตีไปเพื่ออะไร มิฉะนั้นการตีโดยไร้ความหมาย การตีเส้นเทรนด์ไลน์ควรมีหลักการของตัวเอง จะว่าไป ผมก็ใช้หลักการง่ายๆ เช่น การวาดรูป เราอยากจะลากและจินตนาการให้ไปทางไหนก็ไป ส่วนตัวผมชอบคิดว่าราคาคือ “การไหลของแม่น้ำ” และเส้นเทรนด์ไลน์คือ “ร่องน้ำ” (พอได้รึเปล่าครับ) นั่นแหละเรียกว่า ศาสตร์และศิลป์

*เราไม่ควรใช้เส้น Trend lines เป็นจุด Trigger หรือจุด Buy sell เพราะมันมีข้อผิดพลาดเยอะมาก

  • ใช้มันดูภาพรวมดีกว่า
  • ใช้มองทิศทาง แนวโน้มของตลาด
Trend lines

4. เทคนิคการอ่านกราฟ โดยใช้ เส้นค่าเฉลี่ย

เส้นค่าเฉลี่ย หรือ เส้น Moving Average เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ง่ายในการเทรด แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ สามารถทำหน้าที่หลายหน้าที่ ดังนี้ครับ

  • บอกจุดเข้า-ออกการเทรด
  • เป็นแนวรับ-แนวต้าน
  • ช่วยดูทิศทางแนวโน้มตลาด

จากตัวอย่างภาพด้านบน:

1. เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (สีน้ำเงิน)

    • เคลื่อนไหวเร็ว
    • บอกเทรนด์ระยะสั้น
    • ใช้หาจุดเข้า-ออกการเทรด

2. เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (สีม่วง)

    • เคลื่อนไหวช้า บอกแนวโน้มระยะยาว
    • เป็นแนวรับเวลาราคาย่อตัว (ดูลูกศรดำ)

โดยการตัดกันของเส้น 2 เส้น จะสามารถบอกทิศทางของการเทรดและสามารถใช้ดูทิศทางของแนวโน้มใหญ่ได้ด้วย

  • ราคาอยู่เหนือเส้น 200 วัน = แนวโน้มขาขึ้น
  • ราคาต่ำกว่าเส้น 200 วัน = แนวโน้มขาลง

ซึ่งแสดง จุดที่กากบาท (สีน้ำเงิน) เป็นช่วงเปลี่ยนแนวโน้มของแนวโน้มใหญ่ จากขาขึ้นสู่ขาลง เพราะราคาหลุดใต้เส้น 200 วันไปแล้ว

เทคนิคการเทรดเชิงจิตวิทยา

1. เทคนิคการเทรดแบบพิชิตความกลัว

การเทรดแบบพิชิตความกลัวเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ “นักเทรดรับรู้ความกังวล หรือ ความกลัวที่อาจมีต่อการเทรด” วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดรู้ตัวเมื่อต้องเผชิญกับความกลัว และใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในการจัดการกับอารมณ์ครับ ซึ่งหลักการนี้จะเป็นการจัดการกับสภาพจิต ดังนี้

1. รับรู้ความกลัว

เราต้องตั้งคำถามต่อตัวเองว่า ความกลัวมาจากไหน เช่น ความกลัวที่จะเสียเงิน หรือ ความกลัวที่จะเสียประวัติการเทรดที่สวยงาม เป็นต้น เมื่อเรารู้จักความกลัวของเราแล้ว ก็ให้ไปจัดการกับมันซะ

2. วางแผนการจัดการความกลัว

วิธีจัดการกับความกลัว เราต้องวางแผนการเทรดที่ชัดเจน ตั้งเป้าหมายกำไร ควบคุมความเสี่ยง พร้อมวางกลยุทธ์การเทรดให้รอบคอบ แล้วเทรดไปตามแผน เราต้องไม่ลืมว่าเราควรบันทึกสถิติการเทรดทุกครั้งที่ทำ เพราะมันจะสามารถเอามาวิเคราะห์และปรับปรุงได้เสมอครับ

3. การปรับตัว

หากคุณยังกลัวอยู่ ให้ลองลด Lot size หรือเปลี่ยนมาใช้ บัญชี Cent ดูครับ เพราะมันสามารถลดความเสี่ยงในการเทรดเสียได้ดีมาก ๆ

2. เทคนิคการเทรดด้วยการผักผ่อนและดูแลสุขภาพ

อ่านกันไม่ผิดครับ การพักผ่อนและการดูแลสุขภาพ คือเทคนิคหนึ่งที่สามารถ Full Fill สภาพจิตได้ โดยเราต้องกำหนดเวลาพักผ่อนในแต่ละวันให้ชัดเจน ต้องมีวันหยุดให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนบ้าง

เมื่อพักผ่อนเต็มที่แล้ว ให้เรากลับมานั่งทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ทำไปแล้วมาวิเคราะห์ดูว่า เราควรจะดำเนินงานต่อไปด้วยกลยุทธ์ไหนจึงเหมาะสมที่สุดครับ

สรุป

การเทรด Forex ไม่ได้เป็นเรื่องง่าย แต่อย่าเพิ่งท้อ ด้วยความมุ่งมั่น การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตามเคล็ดลับที่ให้ไว้ในบทความนี้ คุณสามารถพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในตลาด Forex ได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือทางเทคนิคอย่างชาญฉลาด หรือการรู้จักจัดการกับอารมณ์และจิตใจของตัวเอง ทุกอย่างล้วนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในเส้นทางนี้

ทุกคนมีจุดเริ่มต้น และใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FOREX

Q: ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเทรดเป็น?

A: แล้วแต่คนครับ บางคนไว บางคนช้า สำคัญที่สุดคือการมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และลงมือทำ

Q: ควรเริ่มเทรดด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่?

A: ควรเริ่มเทรดด้วยจำนวนเงินที่เราสามารถรับความเสี่ยงได้ หรือ “เงินเย็น” ที่เสียแล้วไม่เดือดร้อนครับ ควรคำนึงถึงการจัดการเงินและควบคุมความเสี่ยงด้วย

Q: การเทรด Forex มีความเสี่ยงมากแค่ไหน?

A: ก็เสี่ยงพอๆ กับการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูงอื่น ๆ ครับ ต้องศึกษาให้ดี เรียนรู้เทคนิคการจัดการเงิน การควบคุมความเสี่ยง และวิธีการป้องกันความเสี่ยงในการเทรด

Nakrob Seareechon

บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

Krisorn Himmapan

Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

Nakrob Seareechon
บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

อ่านประวัติเพิ่มเติม

Krisorn Himmapan
Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

อ่านประวัติเพิ่มเติม

ทีมงาน: forexthai.in.th

 

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments