หากกล่าวถึง indicator ในการเทรด คงไม่มีเครื่องมือไหนเกิน Moving Average แต่ว่าถ้าหากกล่าวถึงระบบเทรดหรือว่า เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดใน การวิเคราะห์ ราคา Forex กลับไม่ใช่ Moving Average นะครับผม สำหรับผม สิ่งที่เรียบง่ายที่สุดจะใช้ได้ผลดีที่สุดเช่นกัน ดังนั้นเครื่องมือในการวิเคราะห์ราคาที่ดีที่สุด ไม่ใช่ Moving Average ครับ แต่มันคือ Trend Line หรือ Channel ซึ่งเราเรียกกันว่า Equidistance แต่ปัญหาของ Equidistance นั้นจะต้องใช้ความสามารถของบุคคลตีความ ดังนั้น การตีความของแต่ละคนต่างกันออกไปในแต่ละรูปแบบ ทำให้หลายคนใช้กราฟต่างกัน
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ข้อมูลทั่วไป
ก่อนที่เราจะพาไปรู้จักกับ Indicator Channel นั้นต้องขอเกริ่นพื้นฐานเกี่ยวกับ Trend Line นึดนึงครับ เทรดเดอร์มือใหม่จึงจะเข้าใจถึงหลักการการทำงานของ Indicator ตัวนี้ได้ดีขึ้น… เราต้องบอกแบบนี้ครับว่าการตีเทรนไลน์นั้นไม่ได้มีกฏที่ตายตัว นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่กฎ ที่บอกแบบนี้เพราะอะไร? เนื่องจากการที่เราจะบ่งชี้ว่าอะไรคือกฎนั้นมันต้องเป็นไปตามที่ระบุในกฎ 100% ครับ
ยกตัวอย่างเช่น กฎแรงดึงดูดของโลกคือแรง g เมื่อเราอยู่ในโลกเราจะมีแรง g = 9.8 m/s2 ซึ่งตัวเราจะไม่ลอยไปไหน และกฎนี้ก็เป็นจริงในทุกมุมของโลก คือไม่ว่าเราจะไปยืนอยู่ส่วนไหนของโลก เราก็จะไม่ลอยและมีแรง g = 9.8/m2 เสมอ (ยกเว้นในกรณีที่เราอยูบนเครื่องยนต์ที่กำลังเร่งเครื่องและมีอัตราเร่งที่สูงมากๆจนหลังติดเบาะแต่เมื่อความเร็วคงที่แล้วแรง g ก็จะกลับเป็นปกติ)
กลับมาที่ Forex ครับ ที่เกริ่นว่าการตีเทรนไลน์ไม่ใช่กฎเนื่องจากมุมมองของคนเราต่างกัน การตีเส้นก็ต่างกัน และผลลัพย่อมต่างกัน และถึงแม้ว่าเราจะตี้เส้นเหมือนกัน ผลลัพก็ไม่สามารถเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ได้ 100% เช่น เราตีเทรนไลน์แล้วมองเห็นว่าเป็นขาขึ้น..และวิเคราะห์ต่อว่าเมื่อชนเส้นล่างแล้วกราฟจะดีดขึ้นทำเป็นขั้นบันได หรือ dow theory แต่มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้น มันสามารถ Break out ลงมาได้เสมอซึ่งมันขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและเศรษฐกิจโลกรวมไปถึงภาวะโรคละบากและสงครามด้วยนั่นเองครับ
เราจะตี Trend Line ยังไงให้ถูกต้อง
เราต้องบอกแบบนี้ครับว่า การตีที่ถูกต้องจริง ๆ อะมันไม่มีครับ และมันไม่มีอะไรถูกหรือผิดเลย เพราะมันคือทฤษฎีครับ แล้วแบบนี้เราจะต้องตียังไง? เอางี้ครับการตีเทรนไลน์เรานิยมตีกันโดยใช้ 3 ขั้นตอน ซึ่งใครถนัดอันไหน หรือ สถานะการณ์ไหนควรจะตียังไง ก็ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์แต่ละท่านเลยครับ
- ขั้นตอนที่ 1 คือ การลากเส้น Trend Line โดยการเชื่อม High Low ของกราฟ ซึ่งเราจะลาก Low เดิม เชื่อมกับ New Low ที่ 1 หรือ 2 สำหรับ เทรนขาขึ้น และเราจะตีเส้น Trend Line ของ High เดิม เชื่อมกับ New High ที่ 1 หรือ 2 สำหรับเทรนขาลง (ใครไม่เข้าใจลองดูที่รูปด้านล่างนะครับ)
- ขั้นตอนที่ 2 คือ การจำแนกประเภทของเส้นเทรนไลน์ ซึ่งปกติแล้วเราแบ่งมันออกเป็น 2 ประเภทคือ Tentative Trend Line และ Valid Trend Line
- Tentative Trend Line คือ การเชื่อมโยงระหว่าง High Low เพียง 2 จุดเท่านั้น ซึ่งมันยังเอาไปใช้ได้ไม่ดีนัก เราจะให้เครดิตเป็นแค่เพียง “เส้นที่น่าจะเป็น Trend Line ในอนาคต” ครับ
- Valid Trend Line คือ การเชื่อมโยงระหว่าง High Low 3 จุด ซึ่งงอันนี้แหละที่เราจะเอาไปใช้ระบุเทรน ดังนั้นเราจึงเรียกมันว่า เส้น Trend Line ที่ควรให้ความสำคัญ (Vaild Trend Line)
- ขั้นตอนที่ 3 คือ การลากเส้นคู่ขนาด การทำแบบนี้จะทำให้เราได้กรอบเทรน หรือ Channels เทรนนั่นเองครับ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้เทรดไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบ Follow Trend หรือ การเทรดแบบ Break out ครับ โดยเรานิยมใช้ปัจจัยอื่นเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มว่ามันจะเป็นเทรนต่อ หรือ มันจะเป็นจุดกลับตัวนั่นเองครับ

เข้าสู่ Indicator Channels กันเถอะ
Indicator นี้เป็น เครื่องมือกที่ใช้ในการขีดเส้น Trend Line อัติโนมัติ ใช้ Time Frame ได้หลากหลาย โดยจะต้องใช้ค่าทั้งหมด 400 แท่งเทียน ซึ่งจำนวนแท่งเทียนไม่ครอบก็จะไม่มีกราฟเกิดขึ้น โดย Indicator นี้ นั้นคิดค้นโดย Nikolai Semko เผยแพร่ใน mql5.com
โดยสามารถดาวโหลดได้ที่: https://www.mql5.com/en/code/10882
วิธีการใช้งาน Indicator Channel
สำหรับการใช้งาน indicator มันคือ การใช้วัดการแกว่งตัว ในกรอบที่กำหนด โดยมีภาพดังต่อนี้

สำหรับการใช้งาน จะเห็นว่า indicator นั้นจะจะใช้ Time Frame ไหนก็ได้ จะปรากฏกรอบราคา ซึ่งตีเส้นอัติโนมัติให้ใช้งาน โดยการเอียงขึ้นของเส้นเทรนด์ไลน์ก็ให้ส่งคำสั่ง Buy เท่านั้น และ การเอียงลงของเส้นเทรนด์ไลน์ก็ให้ส่งคำสั่ง Buy เท่านั้น โดยตัวอย่างการเข้าคำสั่ง และจุดเข้าเทรด แสดงดังนี้

ในภาพข้างต้นจะเห็นวงกลมสีเหลือง กับเทรนด์ไลน์ขาขึ้น จึงทำให้สามารถเข้าเทรดได้เฉพาะ order Buy เท่านั้น ซึ่งในทางตรงกันข้ามสำหรับออเดอร์ Sell จะต้อง ได้ Channel เอียงลง
สำหรับจุดเข้าเทรด สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ เมื่อราคานั้นสัมผัสเส้นด้านล่างของเส้นเทรนด์ไลน์ ซึ่งในภาพมีเพียง 2 ออเดอร์เท่านั้น การส่งออเดอร์ Buy จึงมีความน่าจะเป็นสูงในการส่งคำสั่ง
Indicator นี้จะตั้งค่าเหมือนกันทุกคนที่ใช้งาน และไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะลากเส้นผิด ทำให้การเทรดนั้นมีข้อผิดพลาดน้อย อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีข้อผิดพลาดเลย ซึ่ง สิ่งที่เราสามารถป้องกันได้ คือ การตั้ง Stop loss เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
Review Broker Forex
วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...
สรุป
Indicator Channel เป็นเวอร์ชั่นอัติโนมัติของ Equidistance ที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์การแกว่งตัวภายใต้กรอบการเคลื่อนไหวของราคา โดยที่สามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย โดยมีเงื่อนไขการเข้าเทรด ตามแนวรับแนวต้าน อย่างไรก็ตามไม่มีเครื่องมือใดที่สมบูรณ์แบบ 100 % สิ่งที่เทรดเดอร์พึงระวัง คือ ต้องตั้ง Stop loss เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในกรณีที่การเคลื่อนไหวผิดพลาดจริง ๆ
อ้างอิง
https://www.mql5.com/en/code/10882
ทีมงาน: forexthai.in.th