Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบ Bollinger Band RSI: เป็นระบบเทรดตามโมเมนตัมของตลาดในไทม์เฟรม Daily ผ่านการดู Bollinger Band กับ RSI
- หลักการเทรดเบื้องต้น: ดูแนวโน้มของตลาดจากเส้น MA ที่ใช้ควบคู่กับ RSI ที่รวมกับ BB และเข้า เทรดเมื่อเส้น MA เกิดการตัดขึ้นและตัดลง
- เครื่องมือที่ใช้: Bollinger Band และ RSI
- ข้อดี: เป็นระบบเทรดกราฟเปล่าที่เรียบง่าย, ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์, มี Trailling stop
- ข้อเสีย: กำไรอาจได้ไม่คุ้มเสีย, แพ้ตลาด Side Way, มือใหม่ที่เริ่มใช้งานอินดิฯอาจจะเกิดความสับสน
หลักการเทรดเบื้องต้น
ระบบเทรด Bollinger Bands RSI เป็นระบบที่ใช้เทรดในไทม์เฟรม Daily โดยใช้โมเมนตัมของตลาดในการตัดสินใจเข้าเทรดจากการดูการตัดกันของเส้น Bollinger Bands กับ RSI โดยระบบนี้การทำกำไรจากการ Trailing stop ตามเทรนด์
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- Bollinger Bands
- RSI ตั้งค่า 8
Bollinger Bands

Bollinger Bands หรือ BB เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ดูความผันผวนของตลาด ดูกรอบการเคลื่อนที่ของราคา โดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดย BB มีส่วนประกอบ 3 ส่วนประกอบด้วยกัน
- Upper Band (แสดงถึงตลาดขาขึ้น)
- Middle Band (แสดงตลาดไม่มีเทรนด์)
- Lower Band (แสดงถึงตลาดขาลง)
นอกจากจะใช้ดูทิศทางของตลาด BB ยังมีประโยชน์อีกมากมายดังนี้
- ใช้ดูจุดที่ราคามีโอกาสกลับตัวจากการทะลุกรอบ Upper Band และ Lower Band
- คาดการณ์จุดที่ราคามีโอกาสพักตัวและไปต่อในทิศทางเดิมโดยการดูที่ Middle Band
- ดูความผันผวนของราคาผ่านการดูกรอบ BB (กรอบมีขนาดเล็กมีความผันผวนต่ำ , กรอบมีขนาดใหญ่และเริ่มกว้างออกจากกันแสดงว่าตลาดมีความผันผวนสูง)
- ใช้รวมกับ RSI ในการดูโมเมนตัมของตลาด
RSI

RSI หรือ Relative Strength Index เป็น indicator ใช้ดูโมเมนตัมและการกลับตัวของตลาดซึ่งในปัจจุบันนี้ RSI ได้รับการพัฒนาให้สามารถดูควบคู่กับเส้น MA ได้ด้วยทำให้เราสามารถบ่งบอกแนวโน้มของตลาดด้วย RSI ได้ ดังนี้
- เส้น MA ตัดเส้น RSI ขึ้น แสดงถึงแนวโน้มของตลาดขาขึ้น
- เส้น MA ตัดเส้น RSI ลง แสดงถึงแนวโน้มของตลาดขาลง
การใช้เส้น MA ควบคู่กับ RSI ทำให้ RSI มีมิติและสามารถนำมาสร้างระบบเทรดได้หลายรูปแบบมากขึ้นครับ ซึ่งเส้น MA ก็มีให้ปรับได้หลายรูปแบบเช่น SMA, EMA, WMA และ SMA + Bollinger Bands
ดูคลิปการตั้งค่าอินดิเคเตอร์ BB และ RSI สำหรับใช้เทรด
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. รอให้เส้น RSI (เส้นสีม่วง) อยู่ในบริเวณ Lower Band (ต่ำกว่าเส้นสีเหลือง)
2. เส้น SMA (เส้นสีแดง) ตัดเส้น RSI (เส้นสีม่วง) ขึ้น
3. เปิด Buy เมื่อแท่งเทียนปิดแท่ง
4. ตั้ง Stop loss ไว้ใต้แท่งเทียนแท่งก่อนหน้า
5. เมื่อราคาวิ่งมาถึง 40 pips ให้เลื่อน Stop loss มากันหน้าทุน
6. เมื่อราคาวิ่งเกินกว่า 40 pips ให้ Trailing stop ขึ้นมาให้ห่างจากราคาปัจจุบัน 25 pips
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. รอให้เส้น RSI (เส้นสีม่วง) อยู่ในบริเวณ Upper Band (สูงกว่าเส้นสีเหลือง)
2. เส้น SMA (เส้นสีแดง) ตัดเส้น RSI (เส้นสีม่วง) ลง
3. เปิด Sell เมื่อแท่งเทียนปิดแท่ง
4. ตั้ง Stop loss ไว้เหนือแท่งเทียนแท่งก่อนหน้า
5. เมื่อราคาวิ่งมาถึง 40 pips ให้เลื่อน Stop loss มากันหน้าทุน
6. เมื่อราคาวิ่งเกินกว่า 40 pips ให้ Trailing stop ลงมาให้ห่างจากราคาปัจจุบัน 25 pips
ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด BB RSI
ข้อดีของระบบเทรด

- เป็นระบบเทรดไทม์เฟรม Daily ที่ไม่ต้องถือออร์เดอร์นาน
- ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์
- มีการใช้ Trailing stop ช่วยลดความเสี่ยงของระบบเทรดได้ดี
- เป็นระบบเทรดที่เข้าใจง่าย
- ไม่จำเป็นต้องเฝ้าจอเพราะเทรดในไทม์เฟรม Daily
ข้อเสียของระบบเทรด

- เมื่อนำ RSI, SMA และ BB มารวมกันเป็นหนึ่งเดียวอาจทำให้เกิดความสับสนในการใช้งานอินดิเคเตอร์
- มีโอกาสที่จะเทรดสวนเทรนด์บ่อยครั้ง
- แพ้ตลาด Side Way
- การไม่ใช้ Risk Reward เข้ามาช่วยคุมความเสี่ยงอาจทำให้การเทรดบางครั้งได้ไม่คุ้มเสี
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด

- ลองใช้ Risk Reward เข้ามาช่วยในการคุมความเสี่ยง
- ลองใช้ Trailing stop หลังจากที่ราคาวิ่งมาได้ RR 1:1
- เพิ่มอินดิเคเตอร์ที่สามารถบ่งบอกเทรนด์ระยะยาวเพื่อไม่เทรดสวนเทรนด์
- นำระบบไปปรับปรุงและทดสอบก่อนจะใช้เทรดในตลาดจริง
- ในช่วงแรกของการใช้งานให้เทรดกับคู่เงินหลักเท่านั้น
สรุป
ระบบเทรด Bollinger Band RSI เป็นระบบเทรดสั้นที่ใช้เทรดในไทม์เฟรม Daily โดยใช้เครื่องมืออย่าง RSI และ BB ในการวิเคราะห์ทิศทางพร้อมเข้าเทรดตามโมเมนตัมของตลาดที่เกิดขึ้น ระบบนี้มีข้อดีคือ เข้าใจง่ายเหมาะกับมือใหม่, สามารถใช้รันเทรนด์ได้ และมีการคุมความเสี่ยงโดยการใช้ Trailing stop
ส่วนที่เป็นข้อเสียของระบบนี้ก็คือนักเทรดที่เพิ่งเริ่มใช้งานระบบอาจจะมีการสับสนเพราะเมื่อรวมอินดิเคเตอร์ 2 ตัวเข้าด้วยกันทำให้มีเส้นหลายเส้น การเทรดด้วยระบบนี้อาจจะได้ไม่คุ้มเสียเนื่องจากไม่ได้มีการคุมความเสี่ยงด้วย Risk Reward Ratio ที่สำคัญคือแพ้ตลาด Side Way
แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียแต่เราก็สามารถพัฒนาระบบเทรดนี้ให้ดีขึ้นได้นะครับโดยการใช้ RR เข้ามาคุมโดยการเทรดทุกครั้งเราควรคุมความเสี่ยงให้ได้อย่างน้อย 1:1 แล้วจึงค่อยใช้การ Trailing stop เข้ามาเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยง ซึ่งการทำรูปแบบนี้อาจจะเปลี่ยนจากการเทรดระยะสั้นมาเป็นเทรดระยะกลางหรือเทรดระยะยาว เราก็ควรคำนึงถึงค่า Swap ด้วยเช่นเดียวกันนะครับ
นอกจากนี้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ของตลาดเพื่อป้องกันการเทรดสวนเทรนด์ สุดท้ายเพื่อให้สามารถพัฒนาระบบนี้ให้ได้ดีที่สุดก็อย่าลืมนำไปทดสอบกันก่อนนำไปใช้งานจริงนะครับ
แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมอัพสกิลการเทรดเพื่อนำไปต่อยอดการเทรด
อ้างอิง
- The Daily Fozzy Method จาก Forex Factory
ทีมงาน: forexthai.in.th