Forexthai.in.th ย่อให้

  • Magic 100 ใช้ EMA100 จับจังหวะ “ดึงกลับ” ของราคา Forex เพื่อเข้าเทรด
  • ง่ายต่อการใช้และทำความเข้าใจ เหมาะกับมือใหม่ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพจากการทดสอบย้อนหลังที่ดีทีเดียว
  • มีระบบจัดการความเสี่ยงชัดเจน กำหนดกำหนดจุด Stop Loss ที่ชัดเจน
  • จุดเด่นของ คือ EMA100 ตอบสนองไวต่อราคาล่าสุด ทำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ดี
  • เงื่อนไขการเข้าเทรดไม่ซับซ้อน เมื่อราคาปิดสูงกว่าหรือต่ำกว่า EMA100 สองแท่งติดต่อกัน = สัญญาณเข้า
  • จุดอ่อนของระบบ คือ สัญญาณเท็จที่มีโอกาสเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะการดึงกลับของราคาอาจจะไม่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เกิดสัญญาณนั่นเอง

ระบบเทรด Magic 100

ระบบเทรด Magic 100 คือกลยุทธ์การเทรด Forex ง่าย ๆ ที่ใช้ Indicator เพียงตัวเดียวก็ทำกำไรได้แล้ว โดยกลยุทธ์นี้จะใช้เพียงเส้น EMA100 ตัวเดียวเท่านั้นในการช่วยเทรด หลังจากที่ได้ศึกษาการใช้งานตามคำแนะนำของผู้ที่สร้างระบบเทรดตัวนี้และทดลองเทรดตามระบบดูแล้ว เห็นว่าทำตามได้ง่ายและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงขอนำมาบอกต่อ ไปดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ในการเทรดด้วยระบบ Magic 100 นี้

ข้อมูลเบื้องต้น

ระบบเทรด Magic 100 เป็นระบบเทรดที่อาศัยแนวคิดการเทรดแบบ “การดึงกลับ” ของราคา Forex ในการกำหนดจุดเข้าเทรด โดยใช้เส้น EMA100 (Exponential Moving Average) เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มระยะยาว เมื่อราคาเคลื่อนที่ห่างจากเส้น EMA100 มาก ๆ ระบบจะมองว่าเป็นโอกาสในการ Buy หรือ Sell เมื่อราคาดึงกลับสู่เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว

ระบบเทรด Magic 100 จึงเป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์อะไรมาก แค่พิจารณาราคา Forex ว่าอยู่ห่างจากเส้น EMA100 มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ซึ่งมองที่กราฟราคาก็รู้ได้ทันทีเลย

EMA100
เส้น EMA100 (Exponential Moving Average) เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มระยะยาว

จุดเด่นของ Magic 100

ข้อดีที่เป็นจุดเด่นของระบบเทรด Magic 100 นั้น มีดังนี้

  • ความเรียบง่าย: Magic 100 ใช้เพียงเส้น EMA100 ตัวเดียวจึงเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่มาก
  • ประสิทธิภาพ: กลยุทธ์การเทรดตัวนี้ หลังจากทดลองแบบเทรดย้อนหลังแล้ว มีผลงานที่ดีทีเดียว
  • การจัดการความเสี่ยง: มีการกำหนดจุดที่ควรตั้ง Stop Loss เพื่อช่วยจำกัดความเสี่ยงที่ชัดเจน

เครื่องมือที่ใช้

ระบบเทรด Magic 100 ใช้การวิเคราะห์ราคา Forex ด้วยเส้น EMA100 (Exponential Moving Average) ที่เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มระยะยาว เพียงตัวเดียวเท่านั้น ในการช่วยกำหนดจุดเข้าเทรด เดี๋ยวจะพาไปเจาะลึกอินดิเคเตอร์ตัวนี้ดูว่ามีความพิเศษอย่างไรบ้าง

Exponential Moving Average (EMA) คืออะไร?

อินดิเคเตอร์ประเภทเส้น EMA คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเลขชี้กำลัง เป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ประเภทหนึ่ง (MA) ที่ให้ความสำคัญกับชุดข้อมูลล่าสุดมากขึ้น

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ EMA ยังเรียกอีกอย่างว่าเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก ซึ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาล่าสุดได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบธรรมดา (SMA) โดยใช้การถ่วงน้ำหนักเท่ากันกับข้อมูลสังเกตทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว

ความสำคัญของ EMA

เส้น EMA คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ซึ่งให้ความสำคัญและน้ำหนักกับจุดข้อมูลล่าสุดมากกว่า เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้เพื่อสร้างสัญญาณซื้อและขาย โดยอิงจากการตัดกันของเส้นและการเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยในอดีต เทรดเดอร์มักใช้ความยาว EMA ที่แตกต่างกันหลายแบบ เช่น EMA10, EMA50, และ EMA100 เป็นต้น

การตั้งค่าเส้น EMA

แม้ว่าจะมีตัวเลือกมากมายสำหรับการตั้งค่าเส้น EMA แต่สำหรับระบบเทรด Magic 100 จะใช้ตัวเลือกในการตั้งค่าคือ

  • Period: ความยาว = 100
  • Shift: การปรับให้เรียบ = 2

ซึ่งการตั้งค่าตามนี้จะทำให้การสังเกตการณ์ล่าสุดมีน้ำหนักมากขึ้น หากปัจจัยการปรับเรียบเพิ่มขึ้น การสังเกตการณ์ล่าสุดจะมีอิทธิพลต่อ EMA มากขึ้น

ตารางสูตรการคำนวณ EMA
ตารางสูตรการคำนวณหาค่าของเส้น EMA

การคำนวณค่า EMA

การคำนวณ EMA ต้องใช้การสังเกตมากกว่า SMA หนึ่งครั้ง สมมติว่าคุณต้องการใช้ 20 วัน เป็นจำนวนการสังเกตสำหรับ EMA จากนั้น คุณต้องรอจนถึงวันที่ 20 จึงจะได้ SMA ในวันที่ 21 คุณสามารถใช้ SMA จากวันก่อนหน้าเป็น EMA แรกของเมื่อวานได้ โดยมีสูตรดังนี้

EMA  =  ราคาปิด x ตัวคูณ + EMA (วันก่อนหน้า) x (1-ตัวคูณ)

การให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดของ EMA

EMA ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากกว่าในขณะที่ SMA ให้ความสำคัญกับทุกค่าเท่ากัน และการให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดจะมากกว่าสำหรับ EMA ระยะสั้นเมื่อเทียบกับ EMA ระยะยาวด้วย ตัวอย่างเช่น

  • ตัวคูณจะอยู่ที่ 18.18% เมื่อใช้กับข้อมูลราคาล่าสุดสำหรับเส้น EMA10
  • ตัวคูณจะอยู่ที่ 9.52% เท่านั้นสำหรับเส้น EMA20

การตั้งค่า EMA ที่ได้รับความนิยม

ระบบเทรด Magic 100 เลือกใช้เพียงเส้น EMA100 เพียงเส้นเดียวเท่านั้นในการสร้างระบบเทรด แต่ถ้าว่ากันตามความนิยมแล้ว จะมีการตั้งค่าที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดดังนี้

  • ระยะสั้น: EMA12 และ EMA26
  • ระยะยาว: EMA50 และ EMA200

ซึ่งจะเป็นการตั้งค่าเส้น EMA ที่มักจะถูกอ้างถึงและวิเคราะห์มากที่สุด และเมื่อใดก็ตามที่ราคา Forex ข้ามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันไปได้ ถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคว่าเกิดการกลับตัวแล้วนั่นเอง

สัญญาณการเทรดจากระบบ Magic 100
สัญญาณการเทรดจากระบบ Magic 100 ให้เน้น Sell เมื่อราคาอยู่ใต้เส้น ให้เน้น Buy เมื่อราคาอยู่บนเส้น

EMA บอกอะไรได้บ้าง?

การวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยเส้น EMA จะมีประโยชน์มากเมื่อใช้ได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม อาจจะสร้างความเสียหายได้เช่นกันหากใช้ไม่ถูกต้องหรือตีความผิด ดังนั้นควรใช้เพื่อเป็นการยืนยันการเคลื่อนไหวของตลาดหรือบ่งชี้ความแข็งแกร่งของตลาด ตัวอย่างการใช้ EMA

  • เมื่อราคาอยู่เหนือเส้น EMA: จะเน้นไปที่การ Buy
  • เมื่อราคาอยู่ใต้เส้น EMA: จะเน้นไปที่การ Sell

สำหรับการเทรดในตลาด Forex ระหว่างวันและตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว EMA จำนวนชุดข้อมูลน้อยจะใช้ได้ดีกว่า แต่สำหรับระบบเทรด Magic 100 จะเน้นไปที่ระยะยาวเป็นหลัก

เงื่อนไขการเทรด

เงื่อนไขสำหรับการเข้าเทรดของระบบ Magic 100 นั้น ทำตามได้โดยไม่มีความยุ่งยากแต่อย่างใด ให้ทำตามเงื่อนไขดังนี้

สัญญาณ Buy
ภาพตัวอย่าง สัญญาณ Buy

สัญญาณ Buy การเข้าซื้อ:

  • รอให้ราคาปิดเหนือ EMA100 สองแท่งติดต่อกัน
  • วาง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนที่ปิดเหนือ EMA100 ล่าสุด
ภาพตัวอย่าง สัญญาณ Sell

สัญญาณ Sell การเข้าขาย:

  • รอให้ราคาปิดต่ำกว่า EMA100 สองแท่งติดต่อกัน
  • วาง Stop Loss ไว้สูงกว่าจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่ปิดต่ำกว่า EMA100 ล่าสุด

การทำกำไร:

  • ปิดกำไรบางส่วนเมื่อราคาวิ่งไปได้ 1.5 – 2 เท่า ของ Stop Loss
  • ปิดที่เหลือเมื่อราคาแตะแนวต้านที่สำคัญ หรือมีสัญญาณการกลับตัวอื่น ๆ

ในการทำกำไรนั้น ไม่มีจุดทำกำไรที่กำหนดไว้ตายตัว traders สามารถปิดสถานะเพื่อทำกำไรได้ด้วยตัวเอง ตามความพึงพอใจของแต่ละคน

ตัวอย่างการเทรดด้วย Magic 100

สำหรับกรอบเวลาที่เหมาะสมคือ H1 แต่ก็ใช้ได้กับกรอบเวลาที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน สิ่งที่คุณต้องมองหาคือแนวโน้มที่แข็งแกร่งของ EMA100 เพื่อที่เราทำการซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มเท่านั้น

BUY ซื้อ:

ราคาอยู่เหนือ 100EMA คุณวางคำสั่งหยุดซื้อเหนือแท่งเทียนสีแดง Stop อยู่ใต้แท่งเทียน TP คือ 2R (R:R อยู่ที่ประมาณ 1:2 หรือ 1:3)

ภาพตัวอย่าง การเทรดด้วยระบบ Magic 100 ในการ Buy

SELL ขาย:

ราคาอยู่ต่ำกว่า 100EMA คุณวางคำสั่งขายใต้แท่งเทียนสีเขียว

ภาพตัวอย่าง การเทรดด้วยระบบ Magic 100 ในการ Sell

คำถามที่เกี่ยวกับระบบเทรด Magic 100

ถาม: เราควรจะเลือกแท่งเทียนสีแดงรูปแบบไหน ในแนวโน้มขาขึ้น หรือแท่งเทียนสีเขียวแบบไหน ในแนวโน้มขาลง เพื่อวางคำสั่งซื้อหรือขาย?

ตอบ: ให้เลือกที่แท่งเทียนในโซนแนวรับ ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เหมือนกับแท่งนี้:

ภาพตัวอย่าง แท่งเทียนที่เป็นสัญญาณการดึงกลับตามระบบเทรด Magic 100

ถาม: ควรวางคำสั่งซื้อไว้เหนือแท่งสีแดงตัวไหน โดยเฉพาะในตัวอย่าง คำสั่งจะแสดงบนแท่งสีแดงสุดท้าย ก่อนที่แนวโน้มจะดำเนินต่อไป แต่เราไม่สามารถรู้เหตุการณ์แบบล่วงหน้าได้?

ตอบ: มีตัวอย่างจากกราฟราคาอื่นอีกที่ขอนำมาแสดง จากตัวอย่างนี้ หวังว่ามันจะชัดเจนขึ้น

ภาพตัวอย่าง การตั้งคำสั่ง Buy Stop ตามระบบ Magic 100

ถาม: จากกราฟราคาที่นำมาแสดง ซึ่งคุณเน้นที่แท่งเทียนสีแดงที่จุดเข้า ทำไมคุณถึงไม่ซื้อขายแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้านั้น หรือแม้แต่แท่งก่อนหน้านั้น?

ตอบ: เป็นคำถามที่ดี ในตอนแรก คุณตั้งคำสั่ง Buy Stop ไว้เหนือแท่งเทียนแรก หากแท่งเทียนสีแดงแท่งที่สองปรากฏขึ้นและคำสั่ง Buy Stop ของคุณไม่ได้เปิดใช้งาน คุณก็ย้ายคำสั่ง Buy Stop ของคุณลงมาด้านล่างเหนือแท่งที่สอง หากคำสั่งไม่ถูกเรียกใช้งานอีกครั้ง เนื่องจากแท่งที่สามเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณก็ย้ายคำสั่งซื้อของคุณอีกครั้ง ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีจุดเข้าที่ดีที่สุด

ถาม: ในการทำตามระบบเทรด Magic 100 นี้ ปัญหาที่สับสนคือเราจะระบุแท่งเทียนการกลับตัวครั้งสุดท้าย (การย้อนกลับ) ได้อย่างถูกต้องได้อย่างไร เราจะมีวิธีการเลือกแท่งเทียนสุดท้ายได้อย่างไร?

ตอบ: ในการเทรด Forex คุณไม่มีทางรู้เลยว่าแท่งเทียนการย้อนกลับครั้งสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อไร เว้นแต่คุณจะคาดการณ์อนาคตได้ ในแนวโน้มขาขึ้น คุณต้องเลื่อน Buy Stop ของคุณลงเรื่อย ๆ จนกว่าจะเปิดใช้งานคำสั่งซื้อ และหวังว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไป มีกราฟราคาตัวอย่างเพิ่มเติมให้ได้พิจารณา

ภาพตัวอย่าง คำสั่ง Buy Stop ที่ไม่ถูกเปิด และมีการขยับปรับตามการวิ่งของราคา Forex

ถาม: ช่วยอธิบายให้ละเอียดขึ้นอีกนิดได้ไหมว่า ต้องรอแท่งเทียนแท่งไหนจึงจะวางคำสั่งซื้อหรือขาย เหนือหรือใต้แท่งเทียน เพราะดูแล้วไม่เข้าใจในแผนภูมิตัวอย่างที่นำมาแสดง อาจจะมีแท่งเทียนหลายแท่งที่จะเป็นตัวเลือกได้ ต้องเทรดเป็นเวลาคงที่หรือไม่ แล้วต้องเทรดตลาดใด เป็นเวลากี่ชั่วโมง?

ตัวอย่างรูปภาพ อาจช่วยให้เข้าใจคำถามได้ดีขึ้น

ภาพตัวอย่าง การทำความเข้าใจกรณีที่สงสัยเรื่องการวางตำแหน่งคำสั่ง Buy Stop

นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดความสับสน มีสัญญาณซื้อที่อาจเกิดขึ้น 7 สัญญาณ ที่อาจถูกปิดก่อนที่ตัวอย่างการเข้าเทรดจะมีผล ดังนั้น การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น 7 ครั้ง เทียบกับการชนะ 1 ครั้ง ตามเครื่องหมายที่แสดงไว้

แล้วทำไมถึงไม่นำตัวอย่างการแพ้ 7 ครั้งมาใช้? จากกราฟตัวอย่างที่เห็น ทุกอย่างก็ถูกต้องตามกฎ Price Action อยู่เหนือ EMA100 ดังนั้นแนวโน้มขาขึ้นจึงเกิดขึ้น ทุกครั้งที่แท่งเทียนขาลงปรากฏขึ้น เราต้องวางคำสั้ง Buy Stop เพื่อรอดำเนินการอย่างไร

ตอบ: คุณต้องวางคำสั่ง Buy Stop เพื่อรอดำเนินการที่จุดสูงสุดของแท่งเทียนการย้อนกลับครั้งล่าสุด และจุดตัดขาดทุน (SL) อยู่ใต้จุดต่ำสุดของแท่งเทียนเดียวกัน ในการเทรดแบบ long (หากเป็นแนวโน้มขาขึ้น)

หากมีแท่งเทียนที่ก่อตัวต่ำกว่าหลังจากแท่งเทียนนั้น ให้ย้ายคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการและจุดตัดขาดทุนไปที่แท่งเทียนใหม่นั้น ตราบใดที่เส้น EMA 100 ยังรองรับทิศทางของแนวโน้มขาขึ้น

และตรงกันข้ามหากเป็นแนวโน้มขาลง กล่าวคือกำหนดคำสั่งขายที่รอดำเนินการไว้ด้านล่างและจุดตัดขาดทุนเหนือจุดสูงสุด ในการเทรดให้จำเอาไว้ว่าหากเส้น EMA 100 ไม่แสดงทิศทาง (Side Way)… อย่าเทรด

จุดอ่อนของระบบเทรด

มีเทรดเดอร์หลายคนที่เชื่อว่าข้อมูลใหม่ จะสะท้อนถึงแนวโน้มปัจจุบันของราคา Forex ได้ดีกว่า ในขณะเดียวกันก็มีบางคนรู้สึกว่าการให้ความสำคัญกับวันล่าสุดมากเกินไปจะทำให้เกิดสัญญาณเท็จได้เช่นกัน ดังนั้นจุดอ่อนของระบบ Magic 100 จึงพอจะพิจารณาได้ว่ามีดังนี้

  • สัญญาณเท็จ: สัญญาณ Magic 100 อาจสร้างสัญญาณเท็จบ่อยครั้ง
  • การดึงกลับ: กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับการดึงกลับของราคา ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นเสมอไป
  • การไม่มีจุดทำกำไร: ไม่มีจุดทำกำไรที่กำหนดไว้ตายตัว traders ต้องตัดสินใจเอง

เทรดเดอร์ Forex หลายคนเชื่อว่าราคาตลาดปัจจุบันสะท้อนข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดอยู่แล้ว การใช้ข้อมูลในอดีตไม่น่าจะบอกอะไรเกี่ยวกับทิศทางราคาสินทรัพย์ในอนาคตได้ นี่ก็เป็นอีกความเชื่อหนึ่งเช่นกัน

สรุป:

ระบบเทรด Magic 100 เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเทรด Forex เพราะเป็นระบบเทรดที่ค่อนข้างง่าย โดยใช้เส้น EMA100 เพียงเส้นเดียว

การใช้ระบบเทรดตัวนี้คือให้รอการดึงกลับหรือการพักตัวของราคาเกิดขึ้นก่อน เมื่อใดที่ราคามีการวิ่งออกห่างจากเส้น EMA100 มากเกินไป นั่นคือโอกาสในการเทรด ในตอนที่ราคากลับมาพักตัวที่เส้น EMA100

ที่ใช้เพียงเส้น EMA100 ตัวเดียวเท่านั้น เพราะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุด ทำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ดีนั่นเอง

ข้อดีของระบบเทรดนี้คือเข้าใจและใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเพราะมีการกำหนดจุด Stop Loss ที่ชัดเจน ส่วนการ TP เพื่อทำกำไรขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนเลย โดยรวมแล้วระบบเทรดตัวนี้ ใช้เทรดในตลาด Forex ได้ดี ที่มีประโยชน์ต่อนักเทรดแน่นอน

อ้างอิง

นี่คือแหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.forexfactory.com/showthread.php?p=12883065#post12883065http://

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments