Forexthai.in.th ย่อให้
- 6 สิ่งที่ต้องรู้ คือ การบริหารความเสี่ยง, การเลือกโบรกเกอร์, แพลตฟอร์มเทรด, เทคนิคการเทรด, สิ่งที่ต้องเตรียมในการเปิดบัญชี และการควบคุมจิตใจให้นิ่ง
- เน้นการบริหารเงินทุน อย่าเสี่ยงเกิน 1-2% ของทุนต่อการเทรด
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต ฝาก-ถอนง่าย บริการดี รองรับ MT4/MT5 เป็นแพลตฟอร์มหลัก
- รู้จักรอ เอาชนะความกลัวและอย่าโลภ จำไว้ “กำไรสูง ขาดทุนก็สูงตาม”
เทรด Forex เริ่มต้นนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา หาข้อมูล ฝึกฝนก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาดหุ้นนับร้อยเท่า “แต่ยิ่งเสี่ยงสูงกำไรก็สูงตาม ขาดทุนยิ่งสูงกว่า” เพราะตลาด Forex วิ่งกันวันละ 1000 จุด ก่อนอื่นที่เราจะเริ่มต้นเทรด Forex ควรรู้อะไรบ้าง ตามมาครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
สิ่งที่ต้องเรียนรู้ เมื่อเริ่มต้นเทรด Forex
วิธีเทรด Forex เริ่มต้น ต้องรู้ในเรื่องเหล่านี้เลยครับ..
- การบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการเงิน
- โบรกเกอร์ที่เราจะเปิดบัญชี
- แพลตฟอร์มและโปรแกรมใช้ในการเทรด
- ความรู้และเทคนิคในการเทรด
- จะเปิดบัญชีต้องเตรียมอะไรบ้าง
- จิตวิทยา จิตใจ ความนิ่ง และต้องไม่โลภ
1. การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex เริ่มต้น..
แนวคิดหลักในการบริหารจัดการเงินทุนก็คือ “ให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่มากกว่า 1-2% ของเงินทุน” เมื่อเทรดในแต่ละครั้ง หลักการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างมาก
- หากเงินฝากเริ่มต้นเพียง 1% ตกอยู่ในความเสี่ยง การเทรดที่ขาดทุนหลายครั้งก็ไม่ทำให้คุณต้องเสียยอดคงเหลือส่วนใหญ่ในบัญชีไป
- อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน แสดงถึง กำไรที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวนที่คุณอาจขาดทุนในการเทรดนั้นๆ
ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเสี่ยงลงทุนในจำนวนเงิน 100$ เพื่อลุ้นกำไร 300$ อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะเท่ากับ 1:3
ซึ่งอัตราส่วน 1:2 ถือเป็นอัตราส่วนขั้นต่ำที่เทรดเดอร์ควรตั้งเป้าไว้ เนื่องจากเพียงหนึ่งในสามของสถานะจะต้องทำกำไรได้เพื่อให้เกิดจุดคุ้มทุน กำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นสามารถกำหนดได้ด้วยระดับ Stop Loss และ Take Profit
ควรลงทุนเท่าไหร่ดี อันนี้บอกได้เลยว่า “แล้วแต่ประเภทของบัญชีและการเล่นของแต่ละบุคคล” แต่ถ้าสำหรับผู้ที่เทรด Forex เริ่มต้น ผมแนะนำให้เล่นประเภทบัญชี Cent เนื่องจากเงินลงทุนน้อยและกระจายความเสี่ยงได้ดี เงินลงทุนควรจะอยู่ที่ 3500 และเมื่อเข้าสู้ระบบเทรดแล้วนั้นจะถูกแปลงเป็น 10000 Cent ซึ่งมากพอที่จะใช้เลี้ยงพอร์ตและเทรดแบบระมัดระวังได้
และ Trader ก็ควรที่จะเข้าใจอีกเรื่องหนึ่งเช่นเดียวกันนั่นคือ “Lot ก็ใส่น้อย ๆ ไว้อย่าสูงมาก” เช่น ไม่เกิน 0.01 – 0.05 lot ตาม Leverage ที่รับได้ เราสามารถตั้ง Leverage สูงได้ เพื่อที่จะวาง order ได้มากขึ้น แต่ก็แลกมากับความเสี่ยง แนะนำอ่านบทความเกี่ยวกับ Leverage เพื่อทำความเข้าใจ
2. โบรกเกอร์ที่เราจะต้องเปิดบัญชีเทรด Forex
ในการเทรด Forex เริ่มต้น เราต้องเลือกโบรกเกอร์forexที่ดีมาเทรด เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีคุณภาพก็เสี่ยงแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องโอนเงินของเราเข้าไปในบัญชีของโบรกเกอร์ที่เราจะเทรด ประวัติการดำเนินงานของโบรกจึงจำเป็นที่ต้องศึกษาอย่างละเอียด มาดูวิธีการเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเทรด Forex เริ่มต้น กันเลยครับ
วิธีเลือกโบรกเกอร์ สำหรับการเทรด Forex เริ่มต้น
-
มีใบอนุญาตหรือไม่
ใบอนุญาตก็เป็นเหมือนการการันตีว่าโบรกเกอร์นั้นๆ ได้ผ่านการตรวจสอบหรือได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือแล้ว เช่น FCA, ASIC หรือ Cysec ไม่ใช่แค่บริษัทที่ตั้งขึ้นมาหลอกเอาเงินนักลงทุน แต่จะรู้ได้ยังไงล่ะว่าโบรกเกอร์มีใบอนุญาตจริง? ซึ่งคุณสามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้
-
- เช็คที่เว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน
- เข้าไปเช็คที่ฐานข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแล
- ติดต่อหน่วยงานโดยตรง (หน่วยงานพวกนี้จะมีเบอร์โทรหรืออีเมลที่สามารถติดต่อได้)
-
การฝากเงิน-ถอนเงิน (Deposit-Withdrawal)
สามารถรองรับการฝากเงิน-ถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทยได้ เพื่อความสะดวกสำหรับนักเทรดเดอร์ และควรมีช่องทางการฝากเงิน-ถอนเงินอื่นๆ นอกจากธนาคาร ในประเทศเพื่อเป็นทางเลือกให้กับ นักเทรดเดอร์ หลายๆ ช่องทาง เช่น
-
- Credit/Debit Cards
- Neteller, Skrill
- WebMoney
-
ระยะเวลาการฝากเงิน (Deposit)
ไม่ควรเกิน 1 วัน และระยะเวลาการถอนเงิน (Withdrawal) ไม่ควรเกิน 3 วัน ขอแนะนำโบรกเกอร์ XM, FBS และ Exness ที่เราแจ้งถอนเงินแล้วเงินเข้าบัญชีของเราภายใน 24 ชม.ผ่านธนาคารในประเทศไทย
-
การบริการให้ความช่วยเหลือ
-
- การตอบคำถามเทรดเดอร์ทางด้านเทคนิค
- การปฏิเสธคำสั่งซื้อขาย (Requote)
- ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ
- การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของบัญชี
- ความล่าช้าของการฝากเงิน-ถอนเงิน
“โบรกเกอร์ที่ดีต้องสามารถให้คำตอบกับคำถามเหล่านี้ได้ชัดเจน” ให้หายข้อข้องใจในรูปแบบภาษาไทย ขอแนะนำโบรกเกอร์ XM, FBS และ Exness ที่มีบริการให้ความช่วยเหลือลูกค้าในรูปแบบภาษาไทยผ่าน Chat ตลอด 24 ชม.
สำหรับประโยชน์ของ Broker ที่มองเห็นเป็นเรื่องหลักๆ คงจะเป็นหน้าที่นายหน้าให้แก่เรานั่นเอง เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้ว นักเทรดหรือนักลงทุนไม่สามารถที่จะทำการซื้อขายกับตลาด Forex ได้โดยตรงจึงจำเป็นต้องกลายเป็นโบรกเกอร์เหล่านี้มาเป็นนายหน้า เพื่อทำให้เราสามารถเข้าซื้อหรือขายในตลาด Forex ได้นั่นเอง
3. แฟลตฟอร์มและโปรแกรมใช้ในการเทรด
การเทรด Forex เริ่มต้น แฟลตฟอร์มที่คุณควรจะลือกเทรดหลัก ๆ เลย คือ 2 แฟลตฟอร์ม ดังนี้ครับ
- MetaTrader 4 (MT4): MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรด Forex เก่าแก่ที่ได้รับความนิยมมานาน ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีลักษณะเดียวกันกับ Streaming pro ที่ใช้ในการเล่นหุ้น แต่ MT4 ถูกออกแบบมาเพื่อการเทรด Forex โดยเฉพาะ เนื่องจากมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราตัดสินใจในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีระบบตัวช่วย Expert Advisors (EA) หรือที่เราเรียกกันว่า Robot ซึ่งเป็นโปรแกรมช่วยการเทรดอัตโนมัติ
- MetaTrader 5 (MT5): MT5 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่อัพเกรดมาจาก MT4 มีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ระบบเครือข่ายการซื้อขาย (hedging) มีความสามารถในการเทรดสินค้าอื่นๆ หรือหุ้นได้ รวมถึงมีเครื่องมือให้เลือกใช้มากกว่า MT4
โดยเราสามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Meta Trader ทั้ง 2 ตัวมาติดตั้งได้ฟรีทั้งในคอมพิวเตอร์และบนมือถือ ทั้งในระบบ Android และ IOS
4. การเปิดบัญชีเทรดต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ควรเตรียมความพร้อม ดังนี้ก่อน
- วางแผนการเงินให้แน่น: คุณพร้อมจะลงทุนเท่าไหร่? แต่ผมจะแนะนำว่า “ให้ใช้แค่เงินที่คุณพร้อมจะเสีย” คือให้คิดถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่ ก่อนคิดว่าคุณจะได้กำไรเท่าไหร่ และที่สำคัญเงินที่เสียไปนั้นต้องไม่ไปกระทบกับชีวิตประจำวัน
- เลือกโบรกเกอร์ให้ดี แล้วเปิดบัญชี: เตรียมข้อมูลส่วนตัวให้พร้อม ทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล แล้วก็ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งบางโบรกเกอร์อาจจะขอดูหลักฐานเพิ่มเติม
- ยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย: ในการเปิดบัญชีของทุก ๆ โบรกเกอร์จะต้องมีการการยืนยันตัวตน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวความปลอดภัยของการทำธุรกรรม ดังนั้นให้เตรียมพวกเอกสารสำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และบิลค่าน้ำค่าไฟเพื่อใช้ยืนยันที่อยู่ของคุณ
- ติดตั้งแพลตฟอร์มการเทรด: เมื่อเปิดบัญชีพร้อมแล้ว จะได้รับข้อมูลที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบของแพลตฟอร์มการเทรด จากนั้นให้ติดตั้งให้เรียบร้อย
- ฝึกซ้อมก่อนใช้เงินจริง: ก่อนจะเอาเงินจริงไปลงทุน คุณสามารถลองใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนได้เพื่อช่วยให้มีความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม หรือจะนำไปใช้ทดสอบระบบเทรดของคุณก่อนเพื่อเซฟเงินทุน
5. ความรู้และเทคนิคในการเทรด Forex
สำหรับการเทรด Forex เริ่มต้น ความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น
- การใช้อินดิเคเตอร์พื้นฐาน เป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยทำกำไรในตลาด Forex หากเราเข้าใจและชำนาญในการใช้งานตัวนั้น ๆ แล้วก็ย่อมเหมือนกับการเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกกับประเภทงาน
- การเลือกคู่เงินที่จะเทรด ควรเลี่ยงคู่เงินที่ วิ่งแรง ๆ แนว ๆ ดิ่งทะลุแกนโลก หรือพุ่งทะลุชั้นบรรยากาศ เช่น GBP/USD , GBP/JPY ควรเลือก Save แบบ AUD/CHF ประมาณนี้ครับ
- ระบบเทรดที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น Close System , Trend Follow , KZM หรืออีกหลาย ๆ ระบบที่มาการเผยแพร่ใน อินเตอร์เน็ต
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน กล่าวง่ายๆเลยคือ อ่านข่าวที่มีผลกระทบต่อค่าเงินเป็น ซึ่งทำความเข้าใจได้ง่าย ผ่านตารางข่าวของ Forex Factory ถ้าเข้าใจก็เปรียบเสมือนเรารู้ทิศทางลมก่อนออกเรือนั่นเอง
6. จิตวิทยาและการควบคุมอารมณ์
ความกลัวและความโลภเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเทรด Forex ถ้าเราสามารถควบคุมอารมณ์ ได้ก็มีโอกาสอยู่รอดในตลาด Forex สูง
-
การ “รอคอย” เวลา
ถือว่าเป็นวินัยการเทรด Forex อย่างหนึ่ง ในเมื่อราคาของคู่สกุลเงินยังไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ก็ไม่ควรรีบร้อนเปิด Order เราควรอดทนรอราคาให้มาถึงตามที่เราได้กำหนดไว้ เช่น การย่อตัวของกราฟ 2 Fibonacci Retracement เป็นการย่อตัวตามแนวรับและแนวต้านแล้วเราจึงค่อยเปิดคำสั่งซื้อขาย หากเราไม่อยากเสียเวลานั่งเฝ้ากราฟ เราอาจะตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order) ก็อาจเป็นได้
-
การเอาชนะความกลัว
ในเมื่อคำนวณราคาตามสูตรของเราได้แล้ว ฉะนั้นก็ต้องมีความมั่นใจในสูตรของเรา และตัดสินใจทันทีที่จะเปิดคำสั่งซื้อขาย (Order) ทันทีเมื่อโอกาสมาถึง
-
การขจัดความโลภ
ในบางครั้งการเทรด Forex เมื่อเราปิดทำกำไร (Take Profit)ได้ตามเป้าหมายแล้ว เราก็ควรหยุดการเทรดก่อนเพื่อรอดูทิศทางของราคาว่าจะวิ่งไปต่อหรือย่อตัวลงมาแล้วเราจึงค่อยคำนวณหาราคาเพื่อเปิดคำสั่งซื้อขาย (Order) อย่างนี้ถึงจะมีโอกาสอยู่รอดในตลาดสูง
และในบางครั้งอีกเช่นกัน หากคำสั่งซื้อขาย (Order) ที่เราเปิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามราคาที่เราวางแผนไว้ ราคาอาจจะวิ่งเข้าหา (Stop Loss) เนื่องจากมีสิ่งที่เราไม่คาดคิดเข้ามากระทบต่อราคาของหุ้น Forex เช่น การประกาศข่าวตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ (ข่าว Forex) หรือกราฟอาจมีการเปลี่ยน Trend Day Trend Week โดยที่เราคาดไม่ถึง
เมื่อเป็นเช่นแล้ว..
เราควรจะยอมรับและปิดขาดทุนที่ (Stop Loss) และไม่ควรขยับ Stop Loss เพื่อรักษาเงินทุนของพอร์ตเราเอาไว้
สรุป
ในตลาด Forex ที่เต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด และภัยพิบัติมากมาย ซึ่งในฐานะเทรดเดอร์แล้ว ควรจะเรียนรู้เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในตลาด Forex ให้ได้… โดยสิ่งที่เทรดเดอร์ควรจะศึกษาให้ชำนาญได้แก่ การบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการเงิน, โบรกเกอร์ที่เราจะเปิดบัญชี, แพลตฟอร์มและโปรแกรมใช้ในการเทรด, ความรู้และเทคนิคในการเทรด, จิตวิทยา จิตใจ ความนิ่ง และที่สำคัญคือความไม่โลภ นั่นเองครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th