PinBar จัดเป็นรูปแบบการเทรดใน Price อีกรูปแบบที่ถือว่ามีประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเปิด ออร์เดอร์ พอสมควรครับ โดยคำว่า “Pin” นั้นย่อมาจากคำว่า “Pinocchio” ครับ ซึ่งเราน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง เรื่องนิทานของหุ่นเชิดน้อยที่ชอบโกหก ดังนั้นรูปแบบแท่งเทียน “Pin Bar” ที่จะพูดถึงต่อไปนี้ คือ “Reversal Pattern” ที่แสดงถึงระดับราคาหรือจุดราคาหนึ่งของตลาดที่เกิดการ เปลี่ยนทิศทาง
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ลักษณะเฉพาะของ PinBar
ด้วยแท่งเทียน “Pin Bar” นั้นจะประกอบไปด้วย “หางยาว” ด้านบนหรือด้านล่าง … ซึ่งหางยาวที่เหมือนกับจมูกของ Pinocchio นั่นแหล่ะคือการแสดงถึงการ Reject หรือ False Break (Fakey) ณ ระดับราคาสำคัญๆ
บริเวณระหว่างราคา “เปิด” และ “ปิด” ของแท่งเทียนเราเรียกว่า “Body” โดยปกติจะเป็นสีขาว (หรือเขียว) สำหรับแท่งเทียนที่ราคาปิดสูงกว่าเปิด และจะเป็นสีดำ (หรือแดง) สำหรับแท่งเทียนราคาปิดตำกว่าเปิด
“Body” ของแท่ง Pin Bar ควรอยู่เอียงไปทางด้านบน หรือด้านล่างของแท่งเทียนจะดีกว่า ไม่ควรอยู่ตรงกลาง โดยที่ Body นั้นอาจมีขนาดเล็กจนเป็นขีด (เปิดเท่ากับปิด) ก็ได้
“หางยาว” ของ Pin Bar ควรยืดออกไปจากกลุ่มของแท่งเทียนก่อนหน้า ยิ่งหางยาว ยิ่งดี
กฎเหล็กเลยคือจะเห็น “Body” ที่มีขนาดไม่เกิน 1/3 ของความยาวทั้งแท่ง (หางยาว 2/3 ของทั้งแท่ง)
เรามาเริ่มค้นหา PinBar จาก กราฟ กันเลยครับ โดยเริ่มจากคู่ EUR/JPY โดยผมใช้กราฟ H1
ในภาพ บริเวณ ลูกศร เกิดภาวะ PinBar แล้ว กราฟมีการกลับทิศ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ..
มาตามหา PinBar กันต่อ ขอใช้คู่ GBP/AUD ซึ่งคู่นี้ การแกว่งตัวถือว่า แนวหน้า ครับ 4 – 500
Pips เลย แหละครับ เวลาวิ่งแต่ละที ในภาพ บริเวณ ลูกศรชี้ เกิดภาวะ PinBar แล้ว กราฟมีการกลับทิศ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
จุดเด่นของ PinBar
- เป็นรูปแบบการเทรดที่มีผลกำไรค่อนข้างสูง ความเสี่ยงต่ำ
- เกิดขึ้นไม่บ่อย นัก และมักจะเกิดขึ้นในเวลาที่ มีเหตุการณ์สำคัญ
- มีความแม่นยำค่อนข้างสูง
โอกาสที่เราจะพบ PinBar
- ที่บริเวณแนวรับ และแนวต้าน
- บริเวณที่เกิด ภาวะ Break Out
- จุด Pivot Level
จุดเข้าเทรดของ Pin Bar
หลัก ๆ มีด้วยกัน 2 แบบดังนี้ครับ
1) เข้าบริเวณ Body ของแท่ง กรณีเป็น Bullish Pin Bar จะเข้าเทรดตรงส่วนบนของ Body หากเป็น Bearish Pin Bar จะเข้าเทรดตรงส่วนล่างของ Body
2) เข้าเทรดที่กึ่งกลางแท่ง กรณีนี้เหมือนกันทั้ง Bullish Pin Bar และ Bearish Pin Bar
มาดูจังหวะการเปิด ออร์เดอร์ และจุด ทำกำไรกันเลย ครับ ต้องใช้กราฟ H4 ถึงจะคุ้มค่าในการเฝ้ารอและทำไร ของ กลยุทธ์ ตามล่า หา PinBar
- เปิด ออร์เดอร์ Buy ที่ จุด A แล้ว ถือ รอ จนเห็นสัญญาณ PinBar กลับทิศ ที่จุด B ปิดทำกำไร ได้เลย คำนวณจาก จุด A => B เป็นจำนวน 5 แท่ง บวกมา 9 pips
- เปิด ออร์เดอร์ Buy ที่ จุด C แล้ว ถือ รอ จนเห็นสัญญาณ PinBar กลับทิศ ที่จุด D ปิดทำกำไร ได้เลย คำนวณจาก จุด C => D เป็นจำนวน 3 แท่ง บวกมา 3 pips รอบนี้ค่อนข้างเร็ว แต่ก็พอได้กำไร
- เปิด ออร์เดอร์ Buy ที่ จุด E แล้ว ถือ รอ จนเห็นสัญญาณ PinBar กลับทิศ ที่จุด F ปิดทำกำไร ได้เลย คำนวณจาก จุด E => F เป็นจำนวน 8 แท่ง บวกมา 4 pips ไม้นี้ได้เป็นกอบ เป็นกำ คุ้มค่าที่รอ
ตามด้วย ภาวะ Break Out รอบนี้ลงแรง ลงเร็ว ใช้เวลาถือ 13 แท่ง => 13X4 = 52 ชั่วโมง ราว ๆ 2 วันกับ 4 ชั่วโมง บวกมา 432.6 pips คุ้งยิ่งกว่าคุ้ม ..
ย้ำอีกครั้งว่า … Risk : Reward เป็นเรื่องที่คุณต้องทำการบ้านมาก่อน … คิดมาก่อน ไม่ใช่มา “โลภ” เอาหน้างาน ผมแนะนำหากเป็น … Timeframe H4 จัดค่า 1:3 – 1:6 , Timeframe Day จัดค่า 1:2 – 1:3
รูปแบบ “Pin Bar” เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการเทรด Forex โดยอาศัย Price Action ซึ่งการใช้ Pin Bar ที่ดีที่สุดนั้นต้องวิเคราะห์ควบคู่กับ ระดับแนวรับ/ต้าน ด้วย และต้องวิเคราะห์ Trend หลัก เพื่อหา Bias สำหรับ Confirm สัญญาณที่มีคุณภาพ..
Pin Bar ใช้ได้ในทุกๆ Timeframe แต่จะแม่นยำกว่าหากใช้ใน กราฟ H4 และ Day มันเป็นไปได้ที่เราจะทำกำไรในระยะยาวจากการเทรด Pin Bar เพียงอย่างเดียว โดยหลังจากที่คุณเพิ่ม setup ที่ทรงพลังอันนี้เข้าไปในแผนการเทรด Forex แล้ว แล้วจะรู้ว่าไม่สามารถเทรดโดยไม่มีมันได้อีก
อันที่จริงยังมีวิธีเข้า order ด้วย Pinbar อีกหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้ Pinbar ในแนวรับแนวต้าน, การใช้ Pinbar คู่ เช่น pinbar แท่งแดงคู่ เพื่อยืนยันแนวโน้มขาลง, การใช้ double pinbar คู่กับแนวรับแนวต้าน เป็นต้นครับ
Indicator ที่น่าสนใจ
เอาล่ะครับ วันนี้เรามีทางเลือกที่น่าสนใจมาให้ครับ… เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเพ่งสายตามองหา Pinbar อีกต่อไป เพราะเรามีตัวช่วยที่แสนดีอย่าง Pin Bar Indicator ตัวนี้นี่เอง !!!
โดย Indicator ตัวนี้ สามารถระบุ Pin Bar ให้เราด้วยลูกศรสีแดงสำหรับแนวโม้นขาลง และสีเขียวสำหรับแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งมาพิจารณาดูแล้วก็แจ๋วพอตัวนะครับ… แต่จะดีกว่านี้หากเราใช้ Indicator ที่ระบุ Divergence อื่น ๆ มาช่วย เช่น RSI, MACD เป็นต้น
ให้ใครสนใจก็สามารถ Download indicator ตัวนี้ได้ฟรี ๆ ที่ >>> Click <<<
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex
สรุป
สรุปได้ว่าหลักสำคัญในการใช้ Pin Bar Signal ก็คือ ต้องอยู่ถูกที่ และจะแม่นยำก็ต่อเมื่อนำปัจจัยแวดล้อมเข้ามาช่วยด้วยนั่นเอง สำหรับเทรดเดอร์หลายคนอาจเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในตลาด Forex พบกันใหม่ตอนหน้าครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th